บทที่ 484 ประธานหู
“พี่...พี่เขยเขา...”
หลินโย่วหน้านิ่งไปซะสนิท ขนาดพูดยังพูดติดๆ ขัดๆ ถึงแม้ว่ารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเฉินเฟิงต่อสู้ได้เก่งกาจ แต่ไม่คิดว่าเฉินเฟิงจะลงมือกับบอดี้การ์ดทั้งสองคนในเวลานั้น ในใจของเขาตกใจมาก
“ตอนนี้สามารถเอาห้องจัดเลี้ยงรับรองชั้นหนึ่งคืนมาให้กับพวกเราได้แล้วใช่ไหม?” เฉินเฟิงยิ้มพร้อมทั้งมองไปทางหยางเทียนกั๋ว
ในเวลานั้นเองหยางเทียนกั๋วได้แต่เหงื่อแตก กำลังสบตากับเฉินเฟิง จิตใต้สำนึกของเขาอยากจะพยักหน้าให้ ทว่าเมื่อคิดถึงหวางเต๋อฟาที่อยู่ด้านข้างของตนเอง ทว่าศีรษะกลับไม่พยักหน้าตาม
ถ้าวันนี้เขาเอาห้องจัดเลี้ยงรับรองของหวางเต๋อฟาไปให้เฉินเฟิง งั้นตำแหน่งผู้จัดการก็คงต้องจบสิ้นกันแล้ว
ราวกับมองเห็นความลำบากใจของหยางเทียนกั๋ว สายตาของเฉินเฟิงก็เบนมาทางหวางเต๋อฟา “ประธานหวาง เอาห้องโถงเลี้ยงรับรองชั้นหนึ่งเอามาให้ฉันเถอะ”
น้ำเสียงดูเหมือนจะอ่อนโยน ทว่าความจริงแล้วมันกระตุกต่อมความโกรธอย่างรุนแรง
หวางเต๋อฟาหน้าแดง “นี่แก...แกอย่ารังแกคนไม่มีทางสู้”
“รังแกคนไม่มีทางสู้?” เฉินเฟิงยิ้มให้เล็กน้อย “ฉัน แล้วแกจะทำไม?”
โดนเฉินเฟิงเยาะเย้ยทำให้เสียหน้าอีกครั้ง ทว่าหวางเต๋อฟาในเวลานี้ไฟลนก้น เขาทำได้แค่ระเบิดอารมณ์โมโหใส่หยางเทียนกั๋วที่อยู่ด้านข้าง “ประธานหูของพวกแกล่ะ?! เธอจะไม่ลงมาสนใจไยดีหน่อยเลยเหรอไง?”
“ประธานหวาง ประธานหูยังอยู่บนถนนอยู่เลย เธอใกล้จะถึงแล้ว” หยางเทียนกั๋วปาดเหงื่อบนหน้าผาก พร้อมทั้งรีบปลอบประโลม ประธานหูคนที่หวางเต๋อฟาเอ่ยถึงอยู่นั้น ก็คือเจ้าของที่ถือหุ้นโรงแรมจินหม่าตัวจริง
การที่หวางเต๋อฟาเหมาโรงแรมจินหม่าทั้งโรงแรมในครั้งนี้ได้ ก็มาจากเส้นสายความสัมพันธ์ของประธานหูนี่เอง
พอได้ยินว่าเจ้าของโรงแรมจินหม่าจะมา เซ่หยูนฟางกระวนกระวายทันที “พ่อ เรารีบไปกันดีไหม ใช้โอกาสตอนนี้เรื่องมันยังไม่ใหญ่มาก...”
“ไปเหรอ? ไปไหนล่ะ?” หลินหลันยิ้มถากถาง พร้อมทั้งเอ่ยถาม “เซ่หยูนฟาง แกไม่อยากเห็นลูกเขยของฉันจะจัดการเรื่องโรงแรมจินหม่าให้ยุติธรรมยังไงเหรอ? ตอนนี้เจ้าของโรงแรมจินหม่าจะมาแล้ว แต่แกบอกจะไปซะนี่ แกไปแล้ว แล้วใครจะมาดูลูกเขยของฉันเรียกร้องความยุติธรรมจากโรงแรมจินหม่ากันล่ะ?”
“หลินหลัน เจ้าของโรงแรมจินหม่าไม่ใช่หวางเต๋อฟา เขาอยากจะฆ่าไอ้ลูกเขยบ้าคลั่งของแก แค่พูดออกมาประโยคเดียว แกก็อย่าประสาทไปหน่อยเลย” เซ่หยูนฟางพูดเตือน เธอไม่รู้ว่าหลินหลันไปเอาพลังมาจากไหน ฐานะของเจ้าของโรงแรมจินหม่าเธอก็ได้ยินมาหลายครั้ง ได้ข่าวว่าเกี่ยวพันกับอภิมหาเศรษฐีบางคน
อำนาจมากมายมหาศาลเช่นนี้ ตระกูลเล็กๆ อย่างตระกูลหลินไม่สามารถไปแหย่หนวดเสือได้
“ประสาทแดก?” หลินหลันได้แต่ยิ้มให้อย่างดูถูก จากนั้นก็พูดว่า “รอให้เจ้าของโรงแรมจินหม่ามาก่อน แกก็จะรู้ว่าฉันบ้าบอประสาทแดกตามนั้นหรือเปล่า”
“หลินหลัน แกอยากรนหาที่ตายก็ตายไปคนเดียว อย่าลากพวกเราตระกูลหลินทุกคนไปด้วยได้ไหม?” เซ่หยูนฟางเริ่มระเบิดอารมณ์ หลินหลันผู้หญิงบ้านนอก ใครให้ความกล้าบ้ากับเธอกัน ถึงได้พูดแบบนี้ออกมาได้?
“ตระกูลหลินของพวกแก? เซ่หยูนฟาง แกมันแซ่เซ่ เอาที่ไหนมาพูดว่าตระกูลของพวกแก...”
“พอแล้ว อย่างทะเลาะกัน” หลินหลันยังอยากจะพูดต่ออีกหลายคำ ทว่าหลินเซียวเสียนก็พูดตัดบทก่อน
“ถ้าเขาสามารถเรียกร้องความยุติธรรมจากเจ้าของโรงแรมจินหม่าได้ งั้นฉันก็จะยอมรับหลานเขยคนนี้ ถ้าเขายังหาความยุติธรรมมาไม่ได้ งั้นต่อจากนี้ต่อไป เขาก็อย่าคิดเข้ามาเหยียบตระกูลหลินสักก้าว”
ถึงแม้ว่าน้ำเสียงของหลินเซียวเสียนจะสงบนิ่ง ทว่ากับดังชัด เซ่หยูนฟางกับหลินหลันไม่กล้าพูดถกเถียงกันต่อ
หลายนาทีต่อมา รถลัมโบกินี่สีแดงเลือดสดก็จอดตรงปากประตูโรงแรมจินหม่า
หญิงสาวอายุยังน้อยสวมใส่กระโปรงยาวสีดำ รูปร่างสูงเพรียวเดินก้าวเท้าลงมาจากรถอย่างสง่าผ่าเผย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...