ลูกเขยมังกร นิยาย บท 499

บทที่ 499 เฉิงโยว

“จริงสิ เสี่ยวเฟิง ที่พี่มาหานายครั้งนี้เพื่อเอาของบางอย่างมาให้นาย” สือโพ่จุนพูดประเด็นหลัก

เฉินเฟิงอึ้งถาม: “เอาของมาให้ผม? ของอะไรครับ?”

“กระบี่เล่มหนึ่ง”

“กระบี่?”

“ใช่ กระบี่ที่ผู้อันดับสูงสุดเคยใช้”

ผู้อันดับสูงสุด? งั้นก็คือเซียวกั่วจงอาจารย์ของเขาน่ะสิ

“พี่สือ ทำไมต้องเอากระบี่ที่อาจารย์ผมเคยใช้มาให้?” เฉินเฟิงยิ่งสงสัยหนักขึ้น

“อันนี้นายต้องถามประมุขหนานกง ท่านให้เอากระบี่มาให้” สือโพ่จุนบอกยิ้มๆ

ประมุขหนานกง?

เฉินเฟิงสะท้านเยือกในอก ทำไมท่านนี้ถึงให้กระบี่กับเขาล่ะ?

ถ้าเขาจำไม่ผิดล่ะก็ ประมุขหนานกงที่สือโพ่จุนพูดถึง ชื่อเต็มว่าหนานกงโสง เป็นหนึ่งในสามรองประมุขของสหพันธ์สงครามสำนักงานใหญ่ยันเจียง มีอำนาจสิทธิ์ขาดตัดสินลงโทษความเป็นความตายของสหพันธ์สงคราม เรื่องมากมายในประเทศของสหพันธ์สงครามล้วนมีหนานกงโสงเป็นผู้ตัดสินรับผิดชอบ

ครั้งก่อนที่จ้าวเชียนชิวซึ่งเป็นประมุขจินเจี่ยจงโดนเรียกตัวเข้าเมืองหลวง ก็เป็นเพราะหนานกงโสงคอยผลักดันอยู่เบื้องหลัง

ครั้งนี้หนานกงโสงส่งกระบี่มาให้เขา และยังเป็นกระบี่ที่เซียวกั่วจงเคยใช้ด้วย มันหมายความว่าอะไรกันแน่เนี่ย?

“ฮะฮะ เสี่ยวเฟิง นายไม่ต้องคิดมากไปหรอก ประมุขหนานกงส่งกระบี่มาให้นาย เพราะพรุ่งนี้เป็นวันประลองของสมาคมการค้าเชียสุ่ยกับสมาคมการค้าจงไห่ และนายยังไม่มีอาวุธคู่มือเลย”

“พอดีว่ากระบี่ของผู้อันดับสูงสุดวางอยู่ว่างๆไว้ที่ห้องเก็บอาวุธของสหพันธ์สงคราม ถ้าจะปล่อยให้กระบี่ขึ้นสนิม สู้ให้มันตามนายไปลิ้มรสเลือดของเจ้าพวกสมาคมการค้าเชียสุ่ยดีกว่า” สือโพ่จุนหัวเราะร่วน

กระบี่เล่มนี้ของเซียวกั่วจงวางค้างเติ่งไว้ที่ห้องเก็บอาวุธของสหพันธ์สงครามมาหลายสิบปีแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอเลือด คือตอนที่เซียวกั่วจงสำเร็จขั้นมหาปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ระหว่างไปเยือนถิ่นเสินอิ่น

ครั้งนั้นเซียวกั่วจงใช้กระบี่เล่มนี้สังหารศิษย์เสินอิ่นซึ่งเป็นหนึ่งในสามผู้นำของวงการศิลปะการต่อสู้ของญี่ปุ่นซะเลือดไหลนองประหนึ่งแม่น้ำ ทำเอาปิดประตูสำนักไปสิบปีเต็ม

ตอนนี้กระบี่เล่มนี้ได้ออกมาสู่โลกอีกครั้ง แน่นอนว่าต้องใช้กับพวกเสินอิ่นสิ

“พี่สือ ผมเข้าใจพี่ แต่กระบี่ของอาจารย์ ผมกลัวว่าจะใช้ไม่ไหว...” เฉินเฟิงยิ้มขืนบอก สำหรับสหพันธ์สงครามแล้ว กระบี่ของเซียวกั่วจงเป็นเสมือนสมบัติล้ำค่าประจำตระกูล มีความหมายกับสหพันธ์สงครามมาก ถ้าเขารับกระบี่มา เท่ากับรับมรดกตกทอดของเซียวกั่วจงมา...

แต่เซียวกั่วจงเป็นใครล่ะ?

หนึ่งในเก้าปรมาจารย์ บุกตะลุยเดี่ยวไปฆ่าล้างบางญี่ปุ่นในยุคที่หวาเซี่ยเปรียบเสมือนยุคมีด และยังสังหารโหดสำนักเสินอิ่นซึ่งเป็นหนึ่งในสามผู้นำของวงการศิลปะการต่อสู้ของญี่ปุ่นซะต้องปิดสำนักไม่กล้าสู้หน้าผู้คน

กระบี่ที่คนในตำนานแบบนี้เคยใช้ ตัวเองตอนนี้มีปัญญารับมาหรอ?

เกิดตัวเองทำอะไรที่เป็นการดูถูกกระบี่ไปล่ะ จะทำยังไง?

“เสี่ยวเฟิง อย่าดูถูกตัวเองแบบนั้น นายเป็นศิษย์ก้นกุฏิของผู้อันดับสูงสุด ไม่มีใครมีสิทธิ์ใช้กระบี่ของผู้อันดับสูงสุดมากไปกว่านาย” สือโพ่จุนพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม เขาเข้าใจความหมายของเฉินเฟิง เฉินเฟิงกลัวตัวเองจะทำชื่อเสียงเซียวกั่วจงมัวหมอง แต่ในสายตาเขา ความกังวลนี้ของเฉินเฟิงมันไม่จำเป็นเลยสักนิด ถึงคนของสมาคมการค้าเชียสุ่ยจะเก่ง แต่เฉินเฟิงก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย

อย่างอื่นอย่าพึ่งพูด เอาแค่เฉินเฟิงอายุยี่สิบห้าปีก็ได้สำเร็จขั้นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ เรื่องนี้ก็ถือเป็นยอดคนรุ่นใหม่ในหมู่เก้าปรมาจารย์ได้แล้ว

การที่หนานกงโสงมอบกระบี่นี้ให้เฉินเฟิง มีสาเหตุหลักคือ ตัวเฉินเฟิงเอง ถ้าเขาไม่พอใจเฉินเฟิง อย่าว่าแต่เฉินเฟิงเป็นศิษย์ก้นกุฏิของเซียวกั่วจง ต่อให้เขาเป็นลูกชายเซียวกั่วจง หนานกงโสงก็ไม่ยอมมอบกระบี่ให้หรอก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร