บทที่ 50 การแข่งขันที่รุนแรง
“แปดล้าน!”
ทันทีที่สิ้นเสียง โจวต้าคังก็ชูป้ายขึ้นด้วยสีหน้าว่าเขาต้องชนะ
สายตาซุนกุ้ยฟางนั้นแพรวพราว แม้ว่าเธอจะเตรียมใจไว้แล้วสำหรับการประมูลครั้งแรกของเสี้ยเมิ่งเหยาว่าราคาประมูลจะต้องสูงมาก แต่เธอคาดไม่ถึงว่าแค่เพียงเริ่มต้มก็เพิ่มขึ้นถึงสามล้าน
“โจวต้าคังแปดล้านเองไม่อายคนอื่นเขาบ้างหรือไง เทพธิดาอย่างคุณเสี้ย ต้องเพิ่มให้ถึงสิบล้านสิ ฉันให้11ล้าน!” ในกลุ่มผู้ประมูล ชายวัยกลางคนที่ขัดแย้งกับ โจวต้าคังมาโดยตลอดเขายิ้มและยกป้ายขึ้น ถึงแม้ว่าเขาจะหลงใหลในความงามของเสี้ยเมิ่งเหยา แต่ยิ่งไปกว่านั้น แต่เขาต้องการมีส่วนร่วมในธุรกิจของยู่ฉวนซานตราบใดที่เขาแต่งงานกับเสี้ยเมิ่งเหยา เงินที่ลงทุนไปกับ เสี้ยเมิ่งเหยาก็สามารถกลับมาได้ในไม่ช้าก็เร็ว
“ซุนเซิ่ง การประมูลนี้เพิ่งเริ่มต้น ฉันเพิ่งอุ่นเครื่องเท่านั้น คิดว่าฉันจะให้เพียงแปดล้านจริงหรือ? ฉันให้สิบสองล้าน! และไม่ว่าซุนเซิ่งจะให้มากเท่าไหร่ ฉันก็จะให้เพิ่มอีกหนึ่งล้าน!”
โจวต้าคังกล่าวอย่างเย็นชาและไม่ยอมแพ้ บริษัทจดทะเบียนสองแห่งอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา มีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 100 ล้าน เงินเพียงแค่สิบล้านเขานั้นเอาแค่ไว้ใช้ดื่มกินเท่านั้น
สีหน้าของซุนเซิ่งเปลี่ยนไป โจวต้าคังนั้นรั้นมากจะทำให้เขานั้นจมหรือยังไง?
ทุกคนในห้องนั้นต่างมองหน้ากัน ใครจะคาดกันว่าเพียงแค่เริ่มต้นต้าคังและซุนเซิ่งก็ได้ทำการแข่งกันแล้ว
“ยี่สิบล้าน!”
ในตอนนั้น เสียงเบาๆได้ดังออกมาจากกลุ่มผู้ประมูล ทุกคนแทบหยุดหายใจใครเพิ่มราคาอีกแปดล้านกัน!
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปทางต้นเสียง และพบว่าผู้ถือป้ายประกาศคือชายหนุ่มผมสีแดง ในขณะนี้ชายหนุ่มยังคลอเคลียสาวยูเครนที่เซ็กซี่และมีเสน่ห์ไว้ในอ้อมแขนมือใหญ่ของชายหนุ่มนวดคลึงหน้าอกของหญิงสาวอย่างไม่ปราณี ใบหน้าของหญิงสาวนั้นแดงก่ำ
เมื่อทุกคนได้มองไปที่เขา หนุ่มผมแดงก็ไม่มีความอาย แต่กลับเพิ่มความแข็งแรงในมือและกล่าว “ทุกท่าน มองฉันเพื่ออะไร ประมูลต่อไหม”
แต่ไม่มีใครในห้องที่กล้าเสนอราคาต่อ สีหน้าของโจวต้าคังและซุนเซิ่งนั้นดูลำบากใจเล็กน้อย
“คุณชายจาง ไม่ใช่ว่าคุณมีคู่หมั้นแล้วหรอกเหรอ?”
ซุนเซิ่งถามอย่างหน้าแห้ง ชายหนุ่มผมแดงคนนี้มีชื่อว่าจางตงเฉิน เป็นทายาทของตระกูลจางทางตะวันออกของเมืองชางโจว ตระกูลจางมีอำนาจมาก และทรัพย์สินของครอบครัวก็เกิน 10,000 ล้านไปแล้ว ตระกูลนี้อยู่ในอันดับต้นๆเลย
มีข่าวลือว่า จางตงเฉินเองก็หื่นกามมาก สาวสวยเกือบทั้งหมดในมหาวิทยาลัยประมาณเจ็ด-แปดแห่งในเมืองชางโจวถูกเขานัวมาด้วยแล้วทั้งนั้นและจางตงเฉินเองก็มีคนจากตระกูลจางคอยจับตา เมื่อเขามานั้น ทุกคนต่างก็คาดไม่ถึง
“มีคู่หมั้นแล้วมาไม่ได้งั้นหรือ?” จางตงเฉินถามอย่างไม่ใส่ใจ “ทุกคนที่นี่ต่างก็มีภรรยากันแล้วทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ แล้วก็มาที่นี่ไม่ใช่หรือไง?”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ชายวัยกลางคืนที่อยู่ภายในห้องต่างก็หน้าเสียไปตามๆกัน อันที่จริงพวกเขาบางคนก็ยังไม่ได้หย่าจากคู่ของตัวเองเลยด้วยซ้ำไป ครั้งนี้ที่มากันก็เพราะคิดว่าโชคจะเข้าข้าง หากว่าสำเร็จก็จะได้เสี้ยเมิ่งเหยาเป็นเด็กเลี้ยง ไม่ก็หย่ากับคู่สมรสเดิม
“คุณชายจางคุณพูดได้น่าขำมาก” ซุนเซิ่งยิ้มและพูดว่า “ในเมื่อคุณชายจางเองก็สนใจในตัวคุณเสี้ย ดังนั้นผมจะไม่เข้าร่วมในความสนุกครั้งนี้ ขอให้คุณชายจางและคุณเสี้ยมีความสุขและแต่งงานกันในที่สุด”
ซุนเซิ่งถอนตัวออก ใบหน้าของโจวต้าคังนั้นเองก็มีเพียงความลำบากใจ แต่เมื่อนึกถึงผู้ที่คอยสนับสนุนจางตงเฉินและเบื้องหลังที่น่าเลวร้ายของเขา เขาก็ไม่กล้าที่จะต่อสู้อีกต่อไป เขาเกรงว่า พรุ่งนี้ร่างกายของเขาอาจลอยอยู่ในแม่น้ำชาง
สีหน้าของซุนกุ้ยฟางที่อยู่บนเวทีมีความลังเลเล็กน้อย การที่จางตงเฉินปรากฏตัวนั้นไม่ได้อยู่ในความคาดหวังของเธอเช่นกัน เธอขอให้ หลินต้าจูนส่งคำเชิญ แต่ไม่มีจางตงเฉิน เนื่องจาก จางตงเฉินมีคู่หมั้นอยู่แล้วและครอบครัวของคู่หมั้นของเขาก็เป็นหนึ่งในครอบครัวลำดับต้นๆในเมืองชางโจว ถ้าหากว่าจางตงเฉินประมูลครั้งแรกของเสี้ยเมิ่งเหยาได้จริงๆ คู่หมั้นของเขาก็คงไม่ปล่อยตระกูลเสี้ยและเธอไปง่ายๆแน่นอน
สำหรับการขับไล่จางตงเฉิน ต่อให้เธอมีความกล้าหาญมากมายเธอก็ไม่กล้าทำ
“คุณชายจางเสนอราคายี่สิบล้าน มีใครให้มากกว่านี้ไหม?”
ซุนกุ้ยฟางถามอย่างเย็นชาเธอหวังว่าในเวลานี้จะมีใครบางคนสามารถระงับจางตงเฉินเอาไว้ได้ แต่ทุกคนในห้องต่างก็ก้มหน้า
ถึงแม้ว่าจะอิจฉาแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีที่จะต่อสู้
“ยี่สิบล้านครั้งที่1…”
“ยี่สิบล้านครั้งที่2…”
ซุนกุ้ยฟางเหลือบมองทุกคนอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีใครเสนอราคา
“ยี่สิบล้านครั้งที่3…”
“สามสิบล้าน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...