ลูกเขยมังกร นิยาย บท 518

บทที่ 518 หูฉี่ซิง แพ้ราบคาบ

เมื่อสิ้นเสียงเจ้าหน้าที่สหพันธ์บูโดแล้ว ทางทีมของสมาคมการค้าเชียสุ่ย ก็มีชายหนุ่มไว้ผมยาวเดินออกมา

ชายหนุ่มดวงตากลมโปน ท่าทางดูเย็นชา แต่แผ่รัศมีความเก่งกล้าออกมาจากร่างกาย แต่ไม่ใช่ความประมาท

จายเถิงจวั่นจู้!

เป็นผู้เข้าแข่งขันความสามารถระดับสูงของสมาคมการค้าเชียสุ่ย

“ขึ้นไปเถอะ ฉี่ซิง” จางเทียนเซอมองมาที่หูฉี่ซิงด้วยสีหน้าหนักใจ

หูฉี่ซิงเม้มปากกล้ำกลืนฝืนทน จากนั้นก็ขึ้นไปบนเวที

“ข้าน้อยมาจากสำนักสิงอี้.....”

เมื่อขึ้นบนเวทีแล้ว หูฉี่ซิงก็ทำท่าคารวะ เพื่อนเตรียมตัวจะแจ้งชื่อของตนเอง แต่ไม่คิดเลยว่า จายเถิงจวั่นจู้จะพูดตัดบททันที “อย่าบอกเลย ฉันไม่อยากจะรู้จักชื่อแมวชื่อหมาอะไร”

“แก...” หูฉี่ซิงโกรธจัด เขาไม่คิดเลยว่า จายเถิงจวั่นจู้จะมองเขาอย่างดูถูกได้ถึงเพียงนี้

เมื่อเห็นว่าหูฉี่ซิงโมโหง่ายดายมาก หลังจากวิเคราะห์ดูแล้วก็เริ่มเบื่อหน่าย เขามองมองสบตา จากนั้นก็พูดว่า “เริ่มเลย”

เมื่อสิ้นเสียงคำพูด จายเถิงจวั่นจู้ก็เริ่มขยับตัว การลงเท้าของเขารวดเร็วมาก!

ทุกคนแค่เห็นว่ามีเงาดำพุ่งไปแวบหนึ่ง

วินาทีต่อมา เงาดำมืดนี้ก็มาอยู่ตรงหน้าหูฉี่ซิงแล้ว

รูม่านตาหูฉี่ซิงหดตัวลง จิตใต้สำนึกสั่งการให้แขนทั้งสองข้างมากันตรงบริเวณหน้าอกเพื่อป้องกันตัว

แต่ยังไม่ทันเอาแขนมากั้นไว้เลย หมัดไฟของจายเถิงจวั่นจู้ก็กระแทกเข้ามาแล้ว!

“ผลัก!”

หมัดไฟของจายเถิงจวั่นจู้กระแทกเข้าบริเวณหน้าอกของหูฉี่ซิง

แรงมหาศาลที่กระแทกเข้าหา หูฉี่ซิงรู้สึกว่าตนเองเหมือนโดนรถบรรทุกที่กำลังขับเคลื่อนอยู่พุ่งเข้าชน ทั้งตัวมันควบคุมไม่ได้จนลอยกระเด็นออกไป

“ปึง”

หูฉี่ซิงชนกับมุมของเวทีอย่างรุนแรง จนกระอักเลือดออกมา

แถมจายเถิงจวั่นจู้ยังไม่คิดจะปล่อยหูฉี่ซิงเลย หลังจากกระตุกยิ้มแล้ว เขาก็หายตัว วินาทีต่อมา เขาก็มาอยู่ตรงหน้าหูฉี่ซิงแล้ว

พร้อมทั้งมองจากที่สูงลงมาที่หูฉี่ซิง จากนั้นก็ตั้งท่าตะบันหน้า!

สีหน้าของหูฉี่ซิงมีแต่ความหวาดกลัว ภายใต้กำปั้นที่กำลังจะพุ่งเข้าหานั้น เขาก็ไม่คิดอะไรอีกแล้วจนพูดออกมา “ฉันยอมแพ้!”

กำปั้นเหล็กของอันจายเถิงจวั่นจู้หยุดห่างจากสันจมูกของหูฉี่ซิงไปสามเซนติเมตรได้

มุมปากของเขากระตุกรอยยิ้มอันเย็นชา แต่ถ้าหูฉี่ซิงคิดจะพูดยอมแพ้ช้าไปครึ่งวินาทีเดียว หมัดของเขานี้ ก็คงทำลายใบหน้าของหูฉี่ซิงจนแหละละเอียด

“หึ ไอ้คนไร้ค่า!” จายเถิงจวั่นจู้ฮึมฮัมในลำคอ จากนั้นก็ดึงกำปั้นกลับไป

ส่วนใบหน้าของหูฉี่ซิง ขาวซีดยิ่งกว่าแผ่นกระดาษอีก ขอสองข้างอ่อนแรงสั่นเทาจนควบคุมไม่ได้

อีกนิด อีกนิดเดียว เขาก็จะตายแล้ว!

“การเดิมพันประลองฝีมือในยกที่หนึ่ง จายเถิงจวั่นจู้ ชนะ! หูฉีซิง แพ้!”

หลังจากมีเสียงตัดสินอย่างไร้อารมณ์ดังขึ้น

ด้านล่างเวที สีหน้าของทุกคนในสมาคมการค้าจงไห่ต่างดูไม่ได้ทั้งสิ้น

ถึงแม้ว่าจะรู้ตั้งแต่แรกว่าหูฉี่ซิงจะแพ้ แต่ไม่คิดเลยว่า หูฉี่ซิงจะแพ้ได้ไร้ค่าซะขนาดนี้

แค่กระบวนท่าเดียว!

ขนาดการต่อสู้กับจายเถิงจวั่นจู้สักกระบวนท่ายังไม่ได้ใช้เลย ก็ถูกจายเถิงจวั่นจู้ชนะไปเห็นๆ!

สิ่งที่ทำให้ขายหน้าก็คือ เขาเป็นคนพูดยอมแพ้กับจายเถิงจวั่นจู้เอง

“ไร้ค่าจริงๆ!”

หวู่เหวินเชี่ยนอดไม่ไหวจนต้องสบถด่าออกไป

เฉินเฟิงได้แต่ส่ายหน้าไปมา แต่ไม่ได้พูดอะไร

จุดจบของหูฉี่ซิง เขาก็รู้ตั้งแต่แรกแล้ว

หลังจากที่ถูกจายเถิงจวั่นจู้ทำให้โมโหตั้งแต่วินาทีนั้น หูฉี่ซิงก็ตกหลุมพรางไปแล้ว

อีกอย่าง หมัดนั้นของจายเถิงจวั่นจู้ สามารถทำให้หูฉี่ซิงกระแทกจนหล่นลงเวที แต่เขาออมแรงเอาไว้ ก็เพื่อต้องการให้หูฉี่ซิงโดนต่อยจนลอยกระเด็นออกไปมุมเวที

เป้าหมายของเขาเห็นได้อย่างชัดเจน ก็คือการต้องการฆ่าหูฉี่ซิงให้ออกไปจากทาง

เพราะว่าตามกฎเกณฑ์การแข่งขันก็บอกแล้วว่า ขอแค่คนไม่ได้ออกจากสนามเวที ก็ไม่ถือว่าแพ้

ถ้าตอนนั้นเขาลงมือเร็วอีกสักหน่อย เขาก็สามารถทำให้หูฉี่ซิงตาย ก่อนหน้าที่หูฉี่ซิงจะพูดยอมแพ้ออกมาอีก!

ถ้าให้เขาได้ใจ เช่นนั้นจิตวิญญาณในการต่อสู้ของสมาคมการค้าจงไห่ ก็จะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก

ส่วนเขานั้น อย่างมากก็โดนท่านผู้อาวุโสก่วนและพวกกล่าวโทษไปไม่กี่ประโยค

เพราะว่าเขาไม่ได้ทำผิดกฎ กฎของการเดิมพันประลองฝีมือก็บอกว่าอย่าทำให้ต้องเสียชีวิต แต่ไม่ได้พูดว่าไม่ควรเสียชีวิตนี่!

พอขึ้นเวที ทั้งสองฝ่ายต่างต่อสู้กันด้วยพลังทั้งหมด ในเวลานั้น ทั้งมือทั้งหมัดใช้ได้หมด ทั้งมีดทั้งดาบก็ใช้ได้ แล้วจะไม่ทำให้คนเสียชีวิตได้ยังไง?

“ขอโทษ พี่ฉู่ ฉันแพ้แล้ว” หูฉี่ซิงลงจากเวที สีหน้าน่าอับอายขายหน้าที่สุด

“ไม่เป็นไร แกไปรักษาตัวเถอะ” ฉู่ยี่เฟยถอนหายใจเฮือกใหญ่ ถึงแม้ว่าการแสดงออกของหูฉี่ซิงจะดูไร้ค่ามากก็ตาม แต่ในเวลานี้ เขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้

พอแล้ว ทำได้แค่เอาใจไปหวังกับคนอื่นแล้ว

บนเวที กรรมการตัดสินวัยกลางคนมองมาทางจายเถิงจวั่นจู้ “คุณสามารถจะเลือกได้ว่าจะอยู่ต่อบนเวที หรือว่าจะเลือกให้อีกฝ่ายขึ้นมาแข่งขันต่อ”

“ฉันเลือกให้อีกฝ่ายขึ้นมาแข่งขัน” มุมปากจายเถิงจวั่นจู้แสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เพราะว่าหูฉี่ซิงแพ้ได้อย่างทุเรศ ทางจิตวิญญาณของสมาคมจงไห่ในเวลานี้คงต้องต่ำต้อยลงไปมาก ส่วนจิตวิญญาณของเขานั้น มันพลุ่งพล่านเรืองโรจน์มาก

เขาต้องการใช้โอกาสนี้

“ได้” กรรมการตัดสินวัยกลางคนชะเง้อเล็กน้อย จากนั้นก็มองลงไปที่เห้อซงด้านล่างเวที “เห้อซง

ขึ้นเวที”

“ครับ”

สีหน้าของเห้อซงในเวลานี้หนักแน่นเป็นอย่างมาก ไม่พูดเลยว่า จายเถิงจวั่นจู้สร้างแรงกดดันให้เขาเป็นอย่างมาก ความสามารถของเขาถึงแม้ว่าจะเก่งกล้ากว่าหูฉี่ซิง แต่ความเก่งของเขาก็มีอยู่อย่างจำกัด

เดิมเขายังคิดว่าหูฉี่ซิงสามารถต่อสู้กับจายเถิงจวั่นจู้หลายสิบกระบวนท่าอยู่ เพื่อจะได้ทำให้พลังและลมปราณของจายเถิงจวั่นจู้ได้เสียแรงไปบ้าง แต่ไม่คิดเลยว่า หูฉีซิงยังไม่ได้ออกหมัดสู้สักหมัด ก็พ่ายแพ้ให้แก่จายเถิงจวั่นจู้

ถ้าเป็นแบบนี้ เขาต้องเผชิญหน้ากับ จายเถิงจวั่นจู้ที่กำลังได้ใจอยู่งั้นสิ

หลังจากที่หูฉี่ซิงได้ขึ้นมาบนเวทีก่อน แล้วเห้อซงก็ขึ้นเวทีต่อหลัง ก็ไม่ได้มีการบอกชื่อแซ่แต่อย่างใด

กล้ามเนื้อของเขาบีบรัดแน่น ราวกับว่าสามารถออกหมัดกับจายเถิงจวั่นจู้ได้ตลอดเวลา

จายเถิงจวั่นจู้วิเคราะห์เห้อซงอยู่สักพัก พลันพูดว่า “แกเก่งกว่าไอ้กระจอกนั่นอยู่นิดหน่อย”

เมื่อได้ยินเสียง หัวคิ้วของเห้อซงผ่อนคลายลง แต่จากนั้น จายเถิงจวั่นจู้ก็เริ่มพูดกระแทกกลับมาทันที “แต่ว่าความเก่งกล้าก็มีขีดจำกัด ชนะแก อย่างมากฉันก็แค่ใช้สามกระบวนท่า”

“จองหอง!”

สีหน้าของเห้อซงนิ่งลงทันที แต่ว่าเขาก็ไม่เหมือนกับหูฉี่ซิง ถูกทำให้โมโหแล้วสติหลุด เขาอาศัยการพยายามตั้งสติเอาไว้ตลอด

หลังจากที่สูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ เห้อซงก็มองมาที่กรรมการตัดสินวัยกลางคน “กรรมการ สามารถแข่งได้หรือยัง”

กรรมการวัยกลางคนคนนั้นพยักหน้าให้ “ได้แล้ว เริ่มเลย”

เมื่อสิ้นเสียง เห้อซงก็เป็นฝ่ายเริ่มลงมือก่อน!

เขาจะไม่ทำผิดซ้ำซากให้เหมือนหูฉี่ซิง!

ความรวดเร็วของจายเถิงจวั่นจู้นั้นเร็วมาก ดังนั้น เขาไม่มีทางให้จายเถิงจวั่นจู้เป็นคนลงมือก่อน เมื่อ จายเถิงจวั่นจู้เริ่มลงมือก่อน งั้นจายเถิงจวั่นจู้ก็จะมีโอกาสได้เปรียบ!

วิธีคิดของเห้อซงนั้นถือว่าดีมาก ความรวดเร็วของเขาก็เร็วมาก

แต่ครั้งนี้ จายเถิงจวั่นจู้ดันเปลี่ยนวิธีการต่อสู้ไปเป็นอีกอย่างแทน!

คือมองการเปลี่ยนแปลงแล้วคิดตามเพื่อจะได้เข้าใจคู่ต่อสู้!

ตามองเห็นว่าเห้อซงเอาดาบยาวพุ่งมาตรงหน้าของตนเอง จายเถิงจวั่นจู้ก็ยังคงนิ่งอยู่ตั้งแต่แรก

“สวบ”

ในที่สุด ตอนที่กระบี่ยาวของเห้อซงใกล้เข้ามาถึงบริเวณใบหน้านั้น จายเถิงจวั่นจู้ก็เริ่มลงมือทันที!

ในแขนเสื้อของเขาก็มีมีดสั้นโผล่ออกมาสองเล่ม

มีดสั้นทั้งสองเล่นก็พลิ้วดั่งมังกรเล่นน้ำ กากบาทขวางกระบี่ยาวของเห้อซงเอาไว้ จนกระบี่ยาวของเห้อซงไม่สามารถขยับเขยื้อนไปได้!

กระบี่ยาวถูกจายเถิงจวั่นจู้เอามีดสั้นมากั้นเอาไว้ ใบหน้าของเห้อซงเริ่มเปลี่ยนไปทันที

จิตใต้สำนึกของเขาต้องการที่จะเอากระบี่ยาวจ้วงมีดสั้นทั้งสองเล่มขึ้นมา แต่ว่ามีดสั้นทั้งสองเล่มของจายเถิงจวั่นจู้ก็เหมือนกับเส้นเหล็ก มันกั้นกระบี่ยาวของเขาไว้อย่างแน่นหนา เขาไม่สามารถขยับออกได้เลย!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร