บทที่ 536 ใครตาย
เมื่อจางเทียนเซอและคนอื่นๆถูกไล่กลับไปแล้ว เฉินเฟิงก็กลับมาฝึกวิชาในห้องพัก ระหว่างนี้ฉู่ยี่เฟยก็อยากหาหมอสักคนมาจัดการแผลให้เฉินเฟิงทว่าเฉินเฟิงกลับปฏิเสธ
เขาเป็นจอมยุทธ์ขั้นหั้วจิ้งซึ่งพลังในร่างกายสามารถสมานแผลตัวเองได้
หมอพวกนั้นคงช่วยอะไรเขาไม่ได้
อีกอย่างเขาได้ยาถอนพิษของก่วนหนานเทียนซึ่งยาถอนพิษนี้สรรพคุณดีกว่าหมอร้อยเท่าพันเท่า
อีกด้านหนึ่ง หลังจากเฉินเฟิงกลับมาถึงในเขตวิลล่าได้ไม่นาน
กงปุ่นป้านฉางและคนในระดับสูงของสมาคมการค้าเชียสุ่ยต่างก็รวมตัวกันอย่างพร้อมเพรียงในห้องรับแขก
แสงไฟในห้องรับแขกมืดสลัว ดังนั้นจึงเห็นสีหน้าของคนส่วนใหญ่ไม่ชัดนัก ทว่าคนที่อยู่ในห้องรับแขกต่างก็รับรู้ถึงบรรยากาศอันกดดันได้อย่างชัดเจน
ผลั่ก
ขณะนั้นเองประตูใหญ่ของห้องรับแขกก็ถูกเปิดออก
กงปุ่นสองอีเดินเข้ามาด้วยสีหน้าดุดัน
เมื่อเดินมาหยุดอยู่หน้ากงปุ่นป้านฉางที่อยู่บริเวณหัวโต๊ะ กงปุ่นสองอีก็ค้อมตัวทำความเคารพ “ท่านพ่อ”
“สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?” กงปุ่นป้านฉางเอ่ยเสียงเรียบทว่าต่างคนก็รับรู้ได้ถึงความร้อนรนที่แฝงอยู่ในนั้น
“ตายแล้วครับ” กงปุ่นสองอีเหลือบมองกงปุ่นป้านฉางอย่างระแวดระวัง
“ใครตายแล้ว?”
“คนที่เราส่งไปตายหมดแล้วครับ” กงปุ่นสองอีเอ่ยอย่างกล้าๆกลัวๆ
“คนที่เราส่งไปตายหมดแล้วงั้นหรือ?!” กงปุ่นป้านฉางบันดาลโทสะ
“เกิดอะไรขึ้น? อ้านจิ้งชั้นกลางตั้งหกคนจัดการอ้านจิ้งชั้นสุดคนเดียวแถมโดนวางยาไม่ได้?!”
“ท่านพ่อ ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนที่ผมเตรียมคนไปตรวจสอบ ก่วนหนานเทียนก็ไปถึงแล้ว”
“ผมสงสัยว่าพวกมันทั้งหกคนถูกฆ่าหลังจากที่ก่วนหนานเทียนไปถึงแล้ว……” กงปุ่นสองอีเอ่ยขึ้นอย่างไร้ทางเลือก
กงปุ่นป้านฉางพูดไม่ออก ก่วนหนานเทียนรองประมุขของสหพันธ์บูโดจงไห่ ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้สูงสุดของหวาเซี่ย เทพจอมยุทธ์อันดับที่สิบแปดของโลก
ถึงแม้เขาจะอยู่ในขั้นนินจาชั้นสูงทว่าหากเป็นระบบการต่อสู้ของหวาเซี่ย เขาถือว่าอยู่ในขั้นเดียวกับก่วนหนานเทียน แต่เมื่อเทียบกันตามความสามารถแล้วเขาเทียบก่วนหนานเทียนไม่ติดเลยล่ะ
หากดูจากการจัดเรียงลำดับเทพจอมยุทธ์ เขาตามหลังก่วนหน้าเทียนอยู่สามสิบกว่าลำดับ ก่วนหนานเทียนอยู่อันดับสิบแปดของโลก เขาอยู่อันดับห้าสิบหกของโลก
นี่คือความแตกต่าง
“ตอนนี้เฉินเฟิงสภาพเป็นยังไงบ้าง?” หลังจากสูดหายใจลึกครั้งหนึ่ง กงปุ่นป้านฉางจึงเอ่ยถามเสียงดุดัน
“ได้ข่าวว่าบาดเจ็บสาหัส”
บาดเจ็บสาหัสอย่างนั้นหรือ?
กงปุ่นป้านฉางโล่งอก บาดเจ็บสาหัสก็ดี หากลงทุนมากมายขนาดนี้แต่กลับทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลย เช่นนั้นคงไม่รู้จะพูดว่ายังไงแล้ว
“จะสาวมาถึงพวกเราหรือเปล่า?” กงปุ่นป้านฉางเอ่ยถามอีกครั้ง
“ไม่ครับ ผมจัดการอย่างสะอาดหมดจดแล้ว ถึงแม้หวางหงอี้จะชี้ตัวพวกเรา เราก็สามารถบอกว่าพวกมันใส่ร้ายเราได้” กงปุ่นสองอีตอบกลับ
“ท่านประธานสมาคมครับ คนนี้เป็นทายาทของตระกูลเฉิน ความสัมพันธ์ของมันกับตระกูลเฉินลึกลับซับซ้อน ครั้งนี้หากเราฆ่ามันได้ก็ดี แต่หากเราฆ่ามันไม่ได้ทางตระกูลเฉินจะมาเอาเรื่องเราหรือไม่?”
มีคนเอ่ยถามกงปุ่นป้านฉางอย่างเป็นกังวล ก่อนหน้านี้หลังจากที่ซงเต่าเฟิงรายงานข้อมูลของเฉินเฟิงมา กงปุ่นป้านฉางก็วางแผนฆ่าเฉินเฟิง ตอนนั้นกงปุ่นป้านฉางบอกว่าเฉินเฟิงเป็นไม้ตายของทางสมาคมการค้าจงไห่ หากต้องการชัยชนะในการต่อสู้เฉินเฟิงจะต้องตาย
ถึงแม้ว่าการฆ่าเฉินเฟิงซึ่งเป็นทายาทตระกูลเฉินจะเป็นการกระทำที่เสี่ยงมาก ทว่าหากต้องการชัยชนะในการต่อสู้พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น
ตอนนี้แผนการล้มเหลวแล้วจึงจำเป็นต้องคำนึงถึงผลที่ตามมา
“ตระกูลเฉินไม่มาเอาเรื่องพวกคุณหรอก หากพวกเขาจะมาเอาเรื่องพวกคุณจริงๆ พวกเราเสินอิ่นไม่นิ่งดูดายแน่” ขณะนั้นเองคนที่นั่งเงียบมาตลอดอย่างเปียนตู้ก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...