สรุปเนื้อหา บทที่ 569 ฆ่าจนกว่าจะยอมแพ้ – ลูกเขยมังกร โดย เมฆทอง
บท บทที่ 569 ฆ่าจนกว่าจะยอมแพ้ ของ ลูกเขยมังกร ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เมฆทอง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 569 ฆ่าจนกว่าจะยอมแพ้
“ฉิว”
“ฉิว”
ภายใต้ค่ำคืนมืดมิด เฉินเฟิงออกแรงด้วยมือทั้งสองข้าง โยนเชียนเย่จี๋เจิ้งกับจายเถิงเหย่สุงทั้งสองคนขึ้นไปบนอากาศ ทั้งสองมองหน้ากันราวกับนั่งอยู่ในเครื่องบิน พุ่งตรงไปบนท้องฟ้า สูงกว่าด้านบนสุดของชิงช้าสวรรค์ด้วยซ้ำ ทำให้หลินหวั่นชีวที่นั่งอยู่บนสุดของชิงช้าสวรรค์ยังมองเห็น
“อะ...เกิดอะไรขึ้น?”
ภาพที่ปรากฏให้เห็นกะทันหันนี้ ทำให้หลินหวั่นชีวอึ้งไปทันที
“ตักๆตักๆตัก...”
สิ่งที่ตอบหลินหวั่นชีวคือเสียงปืนที่อึกทึก
ภายใต้การจ้องมองของซงเสี้ยจื้อจิ่ว ยอดฝีมือขวัญนินจาทั้งหกกลุ่มนินจาทั้งเก้าคน เฉินเฟิงเล็งปืน พร้อมเหนี่ยวไกทันที กระสุนคำรามออกมา ยิงขึ้นไปบนท้องฟ้า ยิงถูกเชียนเย่จี๋เจิ้งกับจายเถิงเหย่สุงที่ตกลงมาเพราะแรงโน้มถ่วง
ภายใต้ค่ำคืนมืดมิด ร่างของทั้งสองถูกยิงจนเกือบเป็นเหมือนตะแกรง เลือดผสมกับชิ้นเนื้อทะลักหล่นตกลงมา เหมือนดั่งฝนเลือด
“เอ่อ...”
เห็นภาพนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือขวัญนินจาทั้งหกกลุ่มหรือนินจาทั้งเก้าคน แม้กระทั่งซงเสี้ยจื้อจิ่ว ต่างก็ตกใจจนแทบลืมหายใจ ใบหน้าซีดเซียวเหล่านั้นล้วนแทนที่ไปด้วยความตื่นตระหนก
หวาดกลัวหรือ?
ใช่
ต้องรู้ว่า เมื่อกี้พวกเขากำลังพูดคุยกัน เชื่อมั่นว่าเฉินเฟิงถูกเชียนเย่จี๋เจิ้งกับจายเถิงเหย่สุงฆ่าตายแล้ว เพียงพริบตา เฉินเฟิงหิ้วสองคนนั้นออกมา แล้วก็ยิงร่างของทั้งสองคนนั้นกลายเป็นตะแกรงต่อหน้าทุกคน
ทั้งหมดนี้ สร้างความตกใจภายในใจของพวกเขา อย่างไม่อาจบรรยาย
“ปัง ปัง”
ไม่นาน ศพของเชียนเย่จี๋เจิ้งกับจายเถิงเหย่สุงก็หล่นตกลงพื้น อย่างเสียงดังสนั่น แทบจะเหลือเพียงกองเนื้อกับเลือด น่าเศร้าอย่างยิ่ง
“วางอาวุธลง คุกเข่ายอมแพ้ หรือว่าตาย”
ในขณะเดียวกัน มีควันสีเขียวออกจากลำกล้องMP5A1ของเฉินเฟิง สายตาที่กวาดมองดูทุกคนเฉียบคมเหมือนดั่งมีด พร้อมพูดขึ้น ด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นเหมือนดั่งน้ำแข็ง
“พัฟ”
เฉินเฟิงพูดเสร็จ ยอดฝีมือของขวัญนินจาคนหนึ่ง โยนปืนทิ้งอย่างไม่อาจควบคุม คุกเข่าลง หมอบอยู่บนพื้น ร่างกายสั่นเทา
“พัฟ”
“พัฟ”
“พัฟ”
……
หลังจากนั้น เสียงคุกเข่าก็ดังขึ้นเรื่อยๆ
หนึ่งคน สองคน สามคน...
หลังจากครึ่งนาที ไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือขวัญนินจาทั้งสามสิบคนที่เหลือ หรือนินจาทั้งเก้าคน หรือซงเสี้ยจื้อจิ่ว พวกเขาต่างก็โยนอาวุธทิ้ง คุกเข่าลง เลือกที่จะยอมแพ้กับร้องขอความเมตตา
เฉินเฟิงถือปืนอยู่ในมือ ยืนอย่างภาคภูมิใจ
คนหนึ่งคน ปืนหนึ่งกระบอก เขาฆ่าจนคนทุกคนยอมแพ้
กลัวแล้ว
เวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือขวัญนินจาทั้งสามสิบคนที่เหลือ หรือนินจาของสำนักนินจาทั้งเก้าคนกับซงเสี้ยจื้อจิ่ว พวกเขาต่างก็กลัวแล้ว
เฉินเฟิงเข้าไปในสวนสนุกอย่างไม่มีใครทันรู้ตัวก่อน ฆ่าสไนเปอร์สี่คน กับนินจาของสำนักนินจาสองคน หลังจากนั้นก็เหมือนดั่งคนขายเนื้อเชือดแกะ ฆ่าพวกยอดฝีมือขวัญนินจาพวกนั้นอย่างง่ายดาย ฆ่าจนพวกเขาหวาดกลัว
แต่ว่าในตอนนั้น เชียนเย่จี๋เจิ้งกับจายเถิงเหย่สุงยังไม่ได้ลงมือ ถึงแม้พวกเขาจะหวาดกลัว แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่าทั้งสองคนจะสามารถฆ่าเฉินเฟิง ต่างก็รอคอยให้ทั้งสองคนลงมือ
เพราะสำหรับพวกเขา เฉินเฟิงหมายถึง อันตรายกับความตาย เฉินเฟิงยืนอยู่ตรงนั้น พวกเขาอาจจะตายได้ในทุกวินาที
ส่วนเฉินเฟิงช่วยเหลือพาตัวหลินหวั่นชีวไปได้ ถึงแม้จะทำให้พวกเขาถูกลงโทษ แต่สำหรับพวกเขาแล้ว ยังไงก็ดีกว่าตายอยู่ในมือของเฉินเฟิง
หลังจากประมาณสิบนาที ภายใต้การรอคอยอย่างหวาดกลัวและไม่สงบสุขของพวกซงเสี้ยจื้อจิ่ว ภายใต้การรอคอยอย่างตื่นเต้นของหลินหวั่นชีว ห้องที่นั่งของเธอ ลงมาถึงด้านล่างสุดอย่างเชื่องช้า
ในขณะที่เฉินเฟิงจ้องมองดูพวกซงเสี้ยจื้อจิ่ว ก็ยังเหลือบสายตาตรวจสอบดูทุกที่นั่งที่มาถึงด้านล่างสุด มองเห็นหลินหวั่นชีวถูกมัดผูกติดกับที่นั่งส่วนล่าง
เฉินเฟิงเดินไปข้างหน้าอย่างไม่พูดไม่จา ดึงประตูเปิดออก
“ฮือๆ...”
มองเห็นเฉินเฟิง หลินหวั่นชีวตื่นเต้นดีใจจนตัวสั่น น้ำตานองหน้า เธออยากจะพูดอะไร แต่ปากถูกผ้าปิดไว้ ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ ทำได้เพียงส่งเสียงอือๆ
“ไม่เป็นไรแล้ว”
เป็นผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงของหลินหวั่นชีว ใบหน้าบวมแดง ท่าทีที่ตื่นเต้นจนน้ำตาไหล ในใจเฉินเฟิงเจ็บปวด เดินเข้าไปในห้องนั่ง แกะเชือกออก แล้วก็อุ้มหลินหวั่นชีวขึ้นมา
ฝุบ
ทันใดนั้น เฉินเฟิงไม่รอช้า อุ้มหลินหวั่นชีวไว้ เคลื่อนไหวร่างกาย ออกมาจากห้องที่นั่งเหมือนดั่งวิญญาณ รวดเร็วอย่างที่สุด
หลังจากนั้น...
ความกังวลของเขาเป็นเพียงส่วนเกิน
พวกคนที่อยู่ด้านล่างชิงช้าสวรรค์ไม่มีใครฉวยโอกาสนี้ลงมือฆ่าเขา พวกเขายังคงคุกเข่าอยู่บนพื้น ใบหน้ามองดูบนพื้นอย่างตื่นตระหนก ไม่กล้าแม้แต่จะขยับ
“เอ่อ...”
ในอ้อมอกของเฉินเฟิง หลังจากที่หลินหวั่นชีวเห็นทั้งหมดนี้แล้ว ก็อึ้งไปทันที
หลังจากที่เธอได้ยินเสียงของเฉินเฟิง ก็รู้ถึงสถานการณ์แล้ว แต่ก็ยังคงถูกภาพนี้ทำให้ตกใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...