บทที่ 70 เกิดเรื่องขึ้นกับสวีเฟยหรง
ขณะนั้น ในห้องรับรองของวิลล่ากู่โย่ว
สวีเฟยหรงยกแก้วไวน์บนโต๊ะขึ้นดื่มจนหมด หลังจากดื่มหมดแล้ว สวีเฟยหรงก็เช็ดมุมปากก่อนยกขวดเปล่าในมือมองไปยังชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้าม “ประธานไป๋ แบบนี้โอเครึยังคะ?”
ชายหนุ่มผมขาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามสวีเฟยหรงหรี่ตา ยิ้มพลางพูด “คุณสวีดื่มเก่งจริงๆ นะครับ”
“หวังเจียง เติมให้คุณสวีหน่อย!”ชายหนุ่มผมขาวเหลือบมองชายอ้วนที่อยู่ข้างๆ
ชายร่างอ้วนที่ชื่อหวังเจียงลุกขึ้นทันทีด้วยรอยยิ้ม แล้วรินไวน์แดงอีกแก้วให้สวีเฟยหรงช้าๆ ก็ดันมันไปตรงหน้าเธอ “คุณสวี เชิญ!”
สวีเฟยหรงกัดฟันพูด “ประธานไป๋ ฉันดื่มไม่เก่งหรอกค่ะ ฉันดื่มไม่ไหวแล้ว”ตั้งแต่เข้ามาในห้องจนถึงตอนนี้ เธอดื่มไวน์ไปเกือบจะสองขวดแล้ว แต่ไป๋กว่างยี่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกลับไม่ยอมปล่อยเธอไปสักที
“หืม?” ไป๋กว่างยี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “คุณหนูสวีไม่เห็นแก่หน้าผมหน่อยเลยเหรอ?”
สีหน้าของสวีเฟยหรงเปลี่ยนไป “ประธานไป๋ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ฉันดื่มไม่ได้แล้วจริงๆ....”
“งั้นก็ไม่ต้องดื่มแล้ว หวังเจียง ส่งคุณสวีกลับ!” ไป๋กว่างยี่พูดอย่างเย็นช้า
“คุณหนูสวี เชิญกลับครับ” ท่าทีของหวังเจียงทั้งสุภาพและเย็นชาขึ้นมา
สวีเฟยหรงกำกำปั้นสีชมพู ใบหน้าน่ารักแสดงรอยยิ้มไม่เต็มใจนัก “ประธานไป๋ ฉันยังดื่มได้อีกหน่อย เพียงแต่ เรื่องที่ประธานไป๋ตกลงกับฉัน....”
“ขอแค่คุณสวียังดื่มเหล้า ก็ยังมีธุระให้คุย”ใบหน้าของไป๋กว่างยี่ปรากฏรอยยิ้มขึ้นอีกครั้ง
“หวังว่าประธานไป๋จะพูดจริงทำจริง!”สวีเฟยหรงสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนหยิบไวน์แดงตรงหน้าขึ้นมาดื่มจนหมด
ส้งจุนที่อยู่ข้างๆ ก้มหน้าลง เห็นสวีเฟยหรงดื่มไปแก้วแล้วแก้วเล่า ดื่มไวน์เหมือนดื่มน้ำเปล่าแบบนั้น หัวใจของเขาก็เจ็บปวดไปหมด เขาถูกสวีเฟยหรงเรียกมาช่วย แต่พอมาถึงที่นี่จริงๆ แล้ว เขากลับไม่กล้าดื่มแม้สักแก้ว แม้แต่พูดอะไรก็ไม่ไม่กล้าพูด
เพียงเพราะชายสกุลไป๋ที่นั่งอยู่ตรงหน้าสวีเฟยหรงนั้นคือ คนจากตระกูลไป๋แห่งจินหลิง
ตระกูลไป๋แห่งจินหลิง เขาไม่สามารถยุ่งด้วยได้
ดังนั้นเหล้าของสวีเฟยหรง เขายั้งมันไม่ได้หรอก!
ถึงจะรู้ว่าเมื่อสวีเฟยหรงเมาแล้ว จะเกิดอะไรขึ้น เขาก็ยังไม่กล้า
หลังจากดื่มไปอีกสิบนาที ใบหน้าของสวีเฟยหรงก็ขึ้นสีระเรื่อ ดวงตาสวยเต็มไปด้วยม่านหมอก เธอในตอนนั้น ช่างดูมีเสน่ห์มาก
ร่องสีขาวราวหิมะที่หน้าอก ยิ่งทำให้ท้องน้อยปั่นป่วน สายตาแทบลุกเป็นไฟ
เมื่อเห็นว่าดื่มไปพอประมาณแล้ว ไป๋กว่างยี่ก็โบกมือให้หวังเจียงหยุดรินเหล้า
“คุณสวี ตอนนี้เรามาคุยเรื่องของพ่อแม่คุณกันได้แล้ว” ไป๋กว่างยี่ยิ้ม
สวีเฟยหรงกัดปลายลิ้น เพื่อให้ความเจ็บปวดช่วยปลุกเธอให้มีสติในที่สุด
“ประธานไป๋ ทำยังไงคุณถึงจะช่วยพ่อแม่ของฉันได้?”สวีเฟยหรงยิ้มอย่างไม่เต็มใจ พ่อแม่ของเธอทำธุรกิจเกี่ยวกับเหล้า โรงกลั่นเหล้าที่ใหญ่ที่สุดของชางโจวก็คือของพ่อแม่ของเธอ”
เมื่อเดือนก่อน บริษัทการค้าสุราแห่งหนึ่งของจินหลิง สั่งเหล้าล็อตหนึ่งจากโรงกลั่นเหล้า หลังจากที่พ่อของเธอสวีจื่อเจทำตามขั้นตอนปกติแล้ว ส่งไปที่จินหลิง ผลจากนั้นในวันที่สอง ก็มีคนที่ดื่มเหล้าเข้าไปแล้วเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...