บทที่ 750 ท้าทายกงปุ่นเหย่อู่
“กงปุ่นเหย่อู่ คุณไม่ต้องโมโหไป ทายาทของคุณคนที่ได้ชื่อว่าอัจฉริยะด้านการต่อสู้ที่หาตัวจับยากของญี่ปุ่นคนนี้ ตอนนี้นอนอยู่ใต้เท้าผม เขาคือสวะคนหนึ่งแต่ในอนาคตคุณก็จะกลายเป็นสวะในสายตาผมเหมือนกัน!”
เฉินเฟิงไม่ได้สนใจสายตาอาฆาตของกงปุ่นเหย่อู่ ทว่ากลับเอ่ยท้าทาย “แล้วก็ฝากคุณกลับไปบอกคนของพวกคุณด้วยว่าครั้งก่อนผมยังฆ่าไม่สะใจ หากพวกคุณยังกล้าที่จะยุ่งกับเพื่อนของผมอีกผมจะกลับไปเยือนแน่นอน และหากพวกคุณไม่ให้เกียรติวงการศิลปะการต่อสู้ประเทศหวาอีกครั้ง พวกคุณจะต้องได้ชดใช้อย่างสาสม! อีกทั้งพวกคนที่เคยแพร่งพรายเบาะแสของศิษย์พี่ผมออกไป บอกพวกเขาให้รอผมก่อน ผมจะไปตัดหัวพวกมันถึงที่แน่!”
“ไอ้เด็กเปรต แกรนหาที่ตาย!”
กงปุ่นเหย่อู่คำรามอย่างโมโห เขาทนไม่ไหวอีกต่อไปจึงลอยตัวขึ้นและถีบตัวขึ้นเวทีไปหาเฉินเฟิง
“อย่างนั้นหรือ?”
เฉินเฟิงเอ่ยจบก็ตวัดขาเตะออกไป ทำให้ร่างของจั่วจู้ลอยละลิ่วก่อนจะตกสู่พื้นอย่างรวดเร็วแล้วหมดสติไป โดยที่กงปุ่นเหย่อู่ยังลงไม่ถึงพื้น
“ฉันจะดูเฉินเฟิงฆ่าไอ้ผีญี่ปุ่นนั่นด้วยตาตัวเอง!”
ประโยคนี้ยังลอยอยู่ในหู ตอนนี้เฉินเฟิงทำได้แล้ว สำหรับเพื่อนเฉินเฟิงทุ่มเทอย่างเต็มที่ ไม่มีทางทำให้เพื่อนผิดหวังและยิ่งไม่มีทางทำให้เพื่อนไม่สบายใจ
ภายใต้แสงอาทิตย์สาดส่อง เหล่าผู้ชมจับจ้องไปยังจั่วจู้ ตอนนี้จั่วจู้นอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น ดูไม่ออกว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่
“ตุบ……”
กงปุ่นเหย่อู่ลอยลงสู่พื้น โดยพื้นบริเวณนั้นกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ เศษหินกระเด็นไปทั่ว เดิมทีความสามารถของเขาไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนี้ ทว่าตอนนี้อารมณ์ระเบิดเพราะต้องการฆ่าเฉินเฟิงให้เร็วที่สุดจึงไม่ได้ควบคุมพลังให้ดี
“กงปุ่นเหย่อู่ นี่คุณทำอะไร? คุณจะละเมิดกฎการแข่งขันอย่างนั้นหรือ?”
ขณะนั้นเองซีติงรองประธานองค์กรศิลปะการต่อสู้ระดับโลกก็ปรากฏตัวบนเวที ก่อนจะเคลื่อนตัวมาบดบังสายตาของกงปุ่นเหย่อู่ จากนั้นก็เอ่ยถามด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
กงปุ่นเหย่อู่ไม่ตอบทว่าสูดหายใจเข้าเฮือกหนึ่งเพื่อสงบอารมณ์และกำจัดรังสีความอาฆาต
ก่อนหน้านี้หงเทียนป้าผู้เป็นอาจารย์ของหงอี้ไม่กล้าละเมิดกฎการแข่งขัน แน่นอนว่าตอนนี้กงปุ่นเหย่อู่ก็ไม่กล้าเช่นกัน อีกทั้งยังอยู่ต่อหน้าผู้แข็งแกร่งมากมายขนาดนี้จึงไม่อาจฆ่าเฉินเฟิงได้
ในเสี้ยววินาทีที่กงปุ่นเหย่อู่ขยับตัว ผู้อาวุโสของประเทศหวาอย่างอู่จื่อโจว ปรมาจารย์ฟางเจิ้ง จีอู๋ฉางและชางโป๋ก็มาถึงสนามแข่งขันโดยเร็วที่สุด และมายืนบังเพื่อปกป้องเฉินเฟิง
ส่วนจียุ่นและเทียนอิงก็ไม่รอช้า ตามหลังมาติดๆอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ขาข้างหนึ่งของเทียนอิงเพิ่งใส่เฝือกไปทว่าด้วยความเป็นห่วงเฉินเฟิงเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมากคิดแต่ว่าต้องมาถึงโดยเร็วที่สุด
“ท่านซีติง ท่านเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้จะละเมิดกฎการแข่งขัน!”
กงปุ่นเหย่อู่เอ่ยปากอธิบาย หากไม่ถึงที่สุดจริงๆเขาก็ไม่อยากมีเรื่องกับซีติง ถึงแม้เขาจะมีฉายาว่าเทพแห่งสงครามของประเทศญี่ปุ่น ทว่าหากมีเรื่องกับซีติงล้วนไม่เกิดผลดีกับทั้งตัวเขาเองและจอมยุทธ์ของประเทศญี่ปุ่น
กงปุ่นเหย่อู่อธิบายจบก็ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายอีก ทว่าย่อตัวลงเพื่อสำรวจบาดแผลของจั่วจู้ก่อนจะโล่งอกไป ถึงแม้ตอนนี้สภาพของจั่วจู้จะอเนกอนาจจนดูเหมือนตายไปแล้ว ทว่าความจริงแล้วไม่มีบาดแผลที่เป็นอันตรายถึงชีวิต หากรักษาทันก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว และไม่ได้ส่งผลถึงวิทยายุทธ์ของเขาด้วย
“ขอตัวก่อน!”
อาจเป็นเพราะบาดแผลของจั่วจู้ไม่ได้สาหัสมาก กงปุ่นเหย่อู่จึงคลายความโมโหลง ก่อนจะยกมือคารวะซีติง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...