ลูกเขยมังกร นิยาย บท 778

บทที่ 778 หมัดอสูร

"ดูๆ แล้วทุกอย่างก็เป็นแผนการที่เฉินเฟิงวางไว้! " ภายในใจของอู๋คุนรู้สึกหม่นหมอง ไม่รู้ว่าทำไมภายในใจของเขาถึงมีความลางสังหรณ์ที่ไม่ดีอย่างหนึ่ง

เวลานี้ กรรมการที่อยู่ในสนามทุกคนต่างก็หันหลังจากไป เฉินเฟิงและอู๋คุนก็ได้ตกลงกันถึงการทำสงครามที่จะเป็นหรือจะตายแล้ว แบบนี้ดูๆ แล้วก็คงไม่มีธุระอะไรของเขาอีก สงครามที่จะเป็นหรือตาย มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถมีชีวิตอยู่ และไม่มีกฎระเบียบในการแข่งขัน

หลังจากกรรมการออกจากสนามประลอง การประลองครั้งนี้ก็เริ่มถูกป่าวประกาศ อู๋คุนมีใจที่อยากจะแก้การทำสงครามที่จะเป็นหรือตาย ทว่าก็สายเกินไปแล้ว

"เหอะ หั้วจิ้งชั้นกลางแล้วจะทำไม ฉันไม่เชื่อว่าฉันไม่สามารถฆ่าแกได้! "

อู๋คุนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วปรับอารมณ์ของตัวเองให้สงบ จากนั้นลมปราณก็เกิดขึ้น ทำให้ตัวเองสามารถคงทีท่าการต่อสู้ที่ดีที่สุด เมื่อกี้ตอนเริ่ม เขากลับไม่เห็นเฉินเฟิงในสายตา ทว่าตอนนี้กลับไม่เหมือนเดิม เฉินเฟิงสามารถบรรลุถึงหั้วจิ้งชั้นกลาง ความสามารถเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าจนไม่มีที่สิ้นสุด แบบนี้อู๋คุนก็ต้องระมัดระวังตัว ไม่สามารถประหม่าเป็นอันขาด

ตอนที่เริ่มการประลอง ทุกคนต่างก็นิ่งงันไม่พูดไม่จา สายตากำลังจับจ้องสองคนที่อยู่ในงานอย่างไม่คลาดสายตา แล้วกำลังเฝ้ารอคอยความสามารถของพวกเขาที่จะแสดงออกมา ทว่าตอนที่เฉินเฟิงบรรลุหั้วจิ้งชั้นกลางแล้ว ในงานก็นิ่งงันไปทันที

"มันเหตุการณ์อะไรกันแน่? ลมปราณของเฉินเฟิง ทำไมถึงแกร่งขึ้นขนาดนี้! "

"ช่างไม่น่าเชื่อจริงๆ จุดสำคัญของการประลองครั้งนี้ เฉินเฟิงกลับบรรลุไปแล้ว! "

"ทีแรกก็นึกว่าต่อให้เฉินเฟิงจะมีความสามารถที่แกร่งแค่ไหน ทว่าก็ไม่เป็นคู่แข่งของวิลเลียมแน่นอน ต่อให้สามารถฝืนทนถึงตอนสุดท้ายก็ยังคงเปลี่ยนแปลงจุดจบไม่ได้ ทว่าตอนนี้กลับไม่เหมือนกัน เฉินเฟิงกลับบรรลุแดนแล้ว เปอร์เซ็นที่จะชนะก็ยิ่งสูง! "

ทีแรกสถานที่ที่เงียบสงบ ตอนนี้กลับมีเสียงวุ่นวายส่งมา นี่คือความตื่นตกใจของเหล่าผู้ชมที่เฉินเฟิงสามารถบรรลุหั้วจิ้งชั้นกลาง

"เฉินเฟิงคนนี้เก่งกาจอย่างที่คาดไว้จริงๆ ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ยังสามารถบรรลุ! "

"ไม่งั้น ตามที่ฉันดู เฉินเฟิงน่าจะถึงจุดบรรลุมานานแล้ว จากนั้นก็ได้บรรลุ ดังนั้นการบรรลุในเวลานี้ ต้องเป็นแผนการที่วางไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว! "

ตอนที่ผู้ชมทั่วไปต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ ก็เห็นจอมยุทธ์ที่มาจากทั่วทุกมุมโลกบนเวทีในตอนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะวิจารณ์ขึ้น เฉิงเฟิงสามารถบรรลุแดน นำพาความตกตะลึงที่ไม่มีวันสิ้นสุด

"ว่าไปแล้ว เฉินเฟิงคนนี้มีความเก่งกาจอย่างมากดั่งที่คาดไว้จริงๆ การคาดเดาของฉันน่าจะไม่ผิดแล้ว! "

เติ้งนีทำนัยน์ตาที่เปล่งประกายแสงมองเฉินเฟิง เฉินเฟิงที่อยู่นัยน์ตาของเขายิ่งอยู่ก็ยิ่งลึกลับ สำหรับเขาก็ไม่สามารถมองออกถึงความสามารถที่แท้จริงของเฉินเฟิงอย่างกระจ่างแจ้งอะไรจริงๆ

เติ้งนียังถือว่าพูดง่าย ทีแรกเขาก็มีทัศนคติที่ไม่เลวกับเฉินเฟิงอยู่แล้ว ทว่าอาเธอร์ที่อยู่ข้างเขากลับไม่ใช่แบบนี้

ตอนนี้อาเธอร์ทำสีหน้าที่นิ่งเฉยเหมือนผืนน้ำ สายตาที่มองเฉินเฟิงก็นิ่งเฉยเช่นกัน ทีแรกเขาก็มองเห็นความสามารถของตัวเองว่าดีมากแล้ว เท่าที่เขาดู แม้นเฉินเฟิงบอกว่ามีความสามารถที่แกร่ง ทว่าไม่ใช่คู่แข่งของเขาอยู่แล้ว แต่ว่าตอนที่ทั้งสองปะทะกัน เขากลับพ่ายแพ้ ไม่เพียงแต่แบบนี้ อีกอย่างยังถูกเฉินเฟิงหักแขนไปหนึ่งข้าง

ทุกอย่างนี้ทำให้อาเธอร์ไม่สามารถทนรับได้ การต่อสู้ครั้งนี้ แม้นเขาจะพ่ายแพ้ ทว่าอาเธอร์กลับไม่คิดว่าตัวเองไม่มีความสามารถ และเฉินเฟิงเป็นคนที่ชอบฉวยโอกาส หากต้องต่อสู้กันอย่างซึ่งๆ หน้า เฉินเฟิงต้องตายอย่างไร้ข้อสงสัยใดๆ

วันนี้เขาต้องทนกับการดูเย้ยหยันและดูหมิ่นของทุกคนแล้วมาถึงสนามประลอง ก็เพื่อที่จะเห็นเฉินเฟิงตายต่อหน้าต่อตาตอนประลอง แค่เขาตายต่อหน้าต่อตาถึงจะทำให้ความเกลียดในใจของเขาหายเกลียดได้

แค่ทุกอย่างที่คิดไว้ หลังจากที่เฉินเฟิงบรรลุหั้วจิ้งชั้นกลาง ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด เฉินเฟิงในตอนนี้ อาเธอร์รู้ดีว่าตัวเองไม่มีความมั่นใจที่จะล้มเขา ไม่เพียงแต่แบบนี้ ถ้าทั้งสองประลองกันอีกครั้ง เขาเองก็มีความเป็นไปได้ที่จะแพ้

อาเธอร์แค่รู้สึกไม่พอใจ ทว่ามองจากเวทีของกงปุ่นเหย่อู่ของญี่ปุ่น โซโลและผู้ที่มีอำนาจหลายๆ คนต่างก็ทำสีหน้าที่หม่นหมองในขณะเดียวกัน พวกเขานึกไม่ถึงว่าเฉินเฟิงกลับอัพความสามารถของตัวเองต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ จุดๆ นี้มันเหนือที่พวกเขาคาดหมายจริงๆ

"ฮ่าๆ ดีมากจริงๆ เขากลับบรรลุหัวจิ้งชั้นกลาง! "

ที่นั่งวีไอพีมีเสียงโห่ร้องส่งมา เสียงๆ นี้มาจากธิดาเทพแห่งพรรคทิฟฟานี่ ตอนนี้เธอกำลังปรบมือแล้วทำสีหน้าที่ดีใจมาก

"สมกับเป็นพระสันตะปาปาจริงๆ คาดการณ์สถานการณ์ได้แม่นยำเหมือนเทพเจ้า! "

เลขาโมดริชรีบเชยชมขึ้นไม่หยุด สุดท้ายก็ยังไม่ลืมที่จะพูดคำหนึ่ง "นี่เฉินเฟิงเป็นศิลปะการต่อสู้ไม่เคยเจอมาร้อยปีจริงๆ! "

"อืม ใช่! "

พระสันตะปาปาโจ้ส์พยักหน้าอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้สายตาที่มองไปยังเฉินเฟิงทำให้ดูไม่เหมือนเดิม เหมือนมองเห็นคนรุ่นหลังมีคนที่มีพรสวรรค์ปรากฏ เขาที่เกิดเป็นผู้อาวุโสก็ทำท่าทางที่ได้รับการปลอบโยน

"จุ๊ๆ ฉันก็ว่าเจ้าเฉินทำไมถึงมั่นใจในตัวเองขนาดนี้ รู้สึกว่าเขาสามารถถึงจุดบรรลุและยังสามารถบรรลุตลอดเวลาตั้งแต่เนิ่นๆ! "

"แม่ง เจ้าเฉินเฟิงไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ ช่างทำให้คนรู้สึกตกตะลึงจริงๆ! "

"ฮ่าๆๆ ฉันว่าล่ะ พี่ใหญ่ของฉันจะแพ้ได้ยังไง การประลองครั้งนี้ฉันว่าพี่ใหญ่ต้องชนะแน่นอน! "

และในเวลาเดียวกัน ก็มองเห็นเทียนอิง ศีลสามและคนอื่นๆ อดไม่ได้ที่จะปรึกษาหารือกัน เฉินเฟิงบรรลุถึงหั้วจิ้งชั้นกลาง ก็ถือว่าเป็นความจริงที่เหนือการคาดหมายของพวกเขา ต่อให้พวกเขาก็ยังนึกไม่ถึง

นอกจากพวกเขาสามคนแล้ว แม้กระทั่งอู่จื้อโจว จีอู๋ฉาง อาจารย์ฟางเจิ้นและชางโป๋ก็แอบถอนหายใจ เย่หนานเทียนก็เป็นแบบนี้

ทีแรกพวกเขาไม่รู้ว่าทำไมเฉินเฟิงถึงมีความมั่นใจที่จะสามารถล้มอู๋คุน ตอนนี้มองๆ แล้ว จู่ๆ เฉินเฟิงบรรลุหั้วจิ้งชั้นกลาง ไม่เหมือนเขาในก่อนหน้านี้ต่อไป

"เหอะ ครั้งนี้ฉันมองอู๋คุนจะตอบสนองยังไง เฉินเฟิงต้องตีมันจนตายแน่นอน! "

จียุ่นทำนัยน์ตาทั้งสองข้างเปล่งประกาย เหมือนเฉินเฟิงบรรลุหั้วจิ้งชั้นกลาง ยังรู้สึกตื่นเต้นกว่าที่ตนเองทะลุสักอีก

"เป็นยังไง? ตกใจจะตะลึงแล้วหรอ? ทำไมถึงไม่ได้วางอำนาจเหมือนเมื่อกี้นี้? "

ดูท่าทางของอู๋คุน เฉินเฟิงอดไม่ได้ที่จะพูดถ้อยคำที่เย้ยหยัน ทว่าสายตาของเขากลับเคล้าด้วยความอาฆาต

"อ่อ? ดูจากท่าทางแล้ว นายมีความมั่นใจมากแล้วใช่ไหม? ฮ่าๆ .......ฮ่าๆๆ! "

อู๋คุนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา มือขวายังคงจับท้องไว้ เหมือนเมื่อกี้นี้เฉินเฟิงกำลังพูดเรื่องตลกอย่างหนึ่ง

"ต่อให้แกจะบรรลุหั้วจิ้งชั้นกลาง แล้วจะทำไม สุดท้ายก็ยังคงเป็นไอ้สวะ! "

ผ่านไปสักพักอู๋คุนถึงจะหยุดหัวเราะ แล้วพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ คำพูดของเขาแม้จะเป็นแบบนี้ ทว่ากลับระมัดระวังมาก

เฉินเฟิงนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา เขากลับไม่ได้พูดอะไรอีก เขาไม่อยากจะพูดจาไร้สาระกับศัตรู อีกอย่างกำลังภายในแผ่ซ่านออกมาก่อน แล้วลงไม้ลงมือก่อน

แค่จังหวะที่เห็นเฉินเฟิงหายไปจากที่เดิม ตอนนี้ก็ปรากฏอยู่ข้างหลังอู๋คุนอีกครั้ง

ในงานเต็มไปด้วยเสียงตะโกน ในสายตาของผู้ชมทั่วไป เฉินเฟิงกลับหายไปกลางอากาศ ภาพๆ นี้ทำให้รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก ทว่าพวกเขายังคงก็คือคนนอกสำนัก ต้องดูเบาะแสอะไรไม่ออกอยู่แล้ว

ทว่าผู้ชมจอมยุทธ์เหล่านั้น เวลานี้ทำสีหน้าที่เปลี่ยนไป ความเร็วของเฉินเฟิงว่องไวเกินไปจริงๆ แล้ว คนที่เป็นหั้วจิ้งชั้นกลางคงจะทำไม่ได้แม้แต่ครึ่งหนึ่ง

ตอนที่เฉินเฟิงลงไม้ลงมือ ก็ได้เปิดฝ่ามือออก ฝ่ามือเดียวพุ่งทะยานไปยังอู๋คุน ฉากๆ นี้ทำให้เห็นแล้วเหมือนจะธรรมดามาก แต่แรงที่ซุกซ่อนไว้กลับแข็งแกร่งอย่างมาก ตอนที่ฝ่ามือกวาดไป ก็เคล้าด้วยพลังที่เหมือนฟ้าผ่า ลมที่มากับฝ่ามือนั้นคำรามขึ้น

อู๋คุนก็มองไม่ออกถึงความหมายของเฉินเฟิง เฉินเฟิงทำแบบนี้ ไม่ใช่ว่าต้องการจู่โจม อีกอย่างต้องการข่มเหงเขา ตอนนี้มองฝ่ามือที่พุ่งมาของเฉินเฟิง อู๋คุนก็ตวาดด้วยความโมโห ทันใดนั้นก็หันหลังพลางใช้หมัดๆ เดียวพุ่งทะยานออกไป

หมัดๆ นี้กลับไม่ใช่ว่าไม่มีชื่อเสียง แต่เป็นหมัดอสูรที่ออกัสตัสสร้าง มีพลังอันน่าเกรงขามที่น่ากลัวมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร