ตอนนี้ชิงจือไม่สามารถนึกขึ้นมาได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำ แต่เธอยังคงยืนยันกับเฉินเฟิง
“ถ้าฉันได้เห็นหน้าของเขา ฉันจะต้องจำได้แน่นอน”
ในความคิดของเฉินเฟิง บางทีอาจจะเป็นไปได้ ทว่าเขาไม่คิดว่าเรื่องราวจะแก้ไขได้ง่ายดายขนาดนั้น เพราะตอนนี้พวกเขากำลังตกอยู่ในอันตราย
จนสุดท้ายกระทั่งเซวี่ยผิงนึกถึงเรื่องของพวกเขาได้ คนในความลับคนนั้นก็ไม่ได้กลับมาที่นี่อีกเลย
บางทีเขาคงจะขโมยยาถอนพิษไม่ได้ ดังนั้นจึงรู้ตัวว่าต่อให้เขามาก็คงจะพาตัวชิงจือพวกเขาสองคนออกไปไม่ได้อยู่ดี
เฉินเฟิงคนแบกขึ้นไป ในขณะที่เขาคิดเรื่องนี้อยู่
เมื่อเข้ามาพบเซวี่ยผิงที่ตอนนี้กำลังอยู่บนขั้นบันได
“วันนั้นผมไปคิดมาแล้ว บางทีที่คุณพูดอาจจะถูกก็ได้ ถ้าหากว่ารอให้เธอตายก่อนแล้วค่อยเป็นมหาปรมาจารย์ สำหรับผมแล้วก็คงจะเกิดปัญหายุ่งยากตามมาแน่นอน”
เมื่อเห็นเฉินเฟิงถูกพาตัวเข้ามาเขาก็พูดกับเฉินเฟิงทันที
“ถ้าหากผมฆ่าเธอ คนที่อยู่เบื้องหลังก็ต้องมาตามล่าผมในสักวัน ซึ่งแน่นอนว่าผมไม่มีทางที่จะเอาชนะพวกเขาได้แน่นอน และวันนั้นก็คงจะเป็นวันตายของผม ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ผมไม่ต้องการ วันๆ ได้กินอาหารอย่างเต็มอิ่มดื่มเหล้าอย่างอิ่มเอมก็ดีกว่าตั้งเยอะ ดังนั้นผมจะต้องทำให้การเดิมพันนี้เปลี่ยนให้มีโอกาสชนะมากยิ่งขึ้น” เขาพูดไปพลางหัวเราะออกมา
เฉินเฟิงไม่เข้าใจว่าเขาต้องการทำอะไรกันแน่เพื่อที่จะทำให้เขามีโอกาสชนะมากกว่าเดิม และนั่นมันน่าสงสัยอย่างมาก
ในขณะที่เซวี่ยผิงกำลังหัวเราะ เฉินเฟิงก็สังเกตเห็นชายท่าทางพิลึกยืนอยู่ข้างๆ ของเขา
เขาเป็นคนรูปร่างผอมสูง ตัวเขาสวมเศษผ้าที่ปกคลุมตัวเพียงน้อยนิด ราวกับเป็นชายยาจกไร้ความพิถีพิถัน
ซึ่งในตอนที่เฉินเฟิงจ้องมองเขา เขาเองก็ตวาดสายตาสังเกตเห็นเฉินเฟิงพอดี
แต่เพียงไม่นานเขาก็หันไปสนใจในตัวของชิงจือแทน
“ถ้าหากสามารถกลั่นเลือดของเธอมา จะต้องทำให้คุณแข็งแกร่งมากขึ้นแน่นอน” ชายร่างผอมสูงกล่าวกับเซวี่ยผิง
เฉินเฟิงถึงกับรู้สึกขยะขะแยง เพียงเพื่อพละกำลังพวกเขาถึงกับยอมทำเรื่องแบบนี้ เพียงแค่มีความคิดแบบนี้ก็ไร้ซึ่งความเป็นคนไปแล้ว
ตอนนี้เฉินเฟิงที่เข้าใจความหมายของการเพิ่มโอกาสชนะของเซวี่ยผิง หันไปพูดกับเซวี่ยผิงด้วยความหงุดหงิดขึ้นมา
“คุณต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ถึงได้ยอมเชื่อคำพูดไร้สาระพวกนี้”
แต่เซี่ยผิงกลับไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น
“แล้วมันจะเป็นอะไรไปเล่า ยังไงเธอก็ต้องตาย อย่างนั้นก่อนที่เธอจะตายฉันแค่อยากได้เลือดของเธอก็เท่านั้น ถ้าหากไม่มีประโยชน์อะไร ผมก็ไม่ได้มีส่วนเสียอะไรนี่”
นี่มันปีศาจ จะต้องเป็นความคิดของปีศาจแน่ๆ
“จริงด้วย พวกเราเอาแต่พูดคุยเรื่องของเธอ ผมว่าสำหรับคุณแล้วพวกเรายังต้องมาพิจารณากันเสียหน่อยแล้ว”
แม้แต่ตัวเฉินเฟิงก็ยังลืมปัญหาเล็กๆ น้อยๆ นี้ไปซะแล้ว นับตั้งแต่เริ่มเขาเองเป็นเชลยที่ถูกจับมาด้วยเหมือนกัน
“หึ นี่พวกคุณก็คิดที่จะดื่มเลือดของผมด้วยงั้นสิ ?” เฉินเฟิงถามอย่างไม่สบอารมณ์
ชายร่าผอมสูงคนนั้นเดินมาตรงหน้าเขา แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
“คุณให้ค่าตัวเองมากเกินไปแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร