และในขณะที่ทุกคนต่างคิดว่าอีกไม่นานที่นี่ก็จะเหลือเพียงศพอันไร้วิญญาณของหญิงสาวคนหนึ่งเท่านั้น
ด้านนอกก็มีการเคลื่อนไหวก่อนที่จะมีเสียงบางอย่างโดนทุบเสียงดัง เฉินเฟิงก็นึกถึงคนที่เขาได้เจอในคุกใต้ดินคนนั้นทันที
เป็นไปได้ว่าเขาจะมาช่วยพวกเขาสองคน
“เกิดอะไรขึ้น ออกไปดูสิ” เซวี่ยผิงเองก็ประหลาดใจกับเสียงวุ่นวายที่ดังขึ้น จึงรีบสั่งการให้คนออกไปตรวจสอบทันที
เพียงไม่นานเสียงนั้นก็ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
เฉินเฟิงที่ถูกมัดเอาไว้จึงไม่มีทางที่จะหันไปด้านหลังได้เลย แต่เมื่อสักครู่นี้ที่มีเงาของคนบินฝ่าร่างของเขาไปทำให้เขารู้ได้ทันทีว่ามีคนกำลังเคลื่อนไหวอยู่ ถึงแม้ว่าจะมองไม่เห็นคนที่มา แต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องสิ้นหวังอีกต่อไป
เสียง” ปัง” ดังขึ้นอีกครั้ง
เซวี่ยผิงมองเห็นคนที่เข้ามาอย่างชัดเจน แต่ว่าเขากลับไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร จึงกล่าวถามด้วยความประหลาดใจ
“คุณคือ?”
“ฉันเองไงล่ะ ไม่ใช่ฉันแล้วจะเป็นใครได้อีก?”
เสียงอันคุ้นเคยนั้น สุดท้ายเขาก็ปรากฏตัวแล้ว แต่ทำไมเขาถึงได้กล้าเผชิญหน้ากับเซวี่ยผิงโดยตรงแบบนี้กัน เฉินเฟิงถึงกับคิดกังวลอยู่ในใจ
ทันใดนั้นเองเซวี่ยผิงก็กลับมาสงบสติอารมณ์ได้อีกครั้งก่อนจะพูดอย่างเย้ยหยัน
“เป็นคุณแล้วจะทำอะไรได้?จะช่วยสองคนนี้ไปจากเงื้อมมือของผมงั้นสิ?เรื่องแบบนี้สำหรับคุณมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว”
อีกฝ่ายจึงตอกกลับทันที
“นักบวช คุณทำเรื่องโหดเหี้ยมไร้ซึ่งจิตสำนึกมามากมาย เพียงแค่กรรมนั้นยังไม่มาเอาคืนเท่านั้น แต่ไม่ช้าไม่นานกรรมจะต้องตามสนองคุณ ต่อให้ช้าแต่มันจะมาเอาคืนแน่นอน ตอนนี้ต่อให้ผมจะเอาชนะคุณไม่ได้ แต่ผมจะไม่ปล่อยให้คุณได้ทำตามอำเภอตัวเองอีกแล้ว” เขาพูดไปพลางพุ่งเข้าใส่เซวี่ยผิง
ในขณะที่เกิดเหตุการณ์วุ่นวาย ชายร่างผอมสูงที่เตรียมจะดูดเลือดของชิงจือก็หายไปหลบซ่อนตัวที่ไหนแล้วโดยที่ไม่มีใครรู้
แต่ทางด้านเฉินเฟิงพวกเขาสองคนยังคงไม่มีทางช่วยอื่นใด พวกเขาจึงทำได้เพียงเฝ้ามองดูอยู่อย่างนั้น
โต๊ะและเก้าอี้ถูกเตะจนกระเด็นพลิกคว่ำ กระจกที่ถูกทุบจนแตก ทั้งยังโคมระย้าที่ถูกแขวนก็หล่นลงมา ในขณะที่ทุกอย่างเสียหาย พวกเขาสองคนยังคงไม่สามารถประเมินผลแพ้ชนะได้เสียที
แต่มีบางจุดที่พอจะดูออกได้เลยว่าชายชุดดำคนนั้นมีความอ่อนแอกว่าเซวี่ยผิงอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้การแพ้ชนะล้วนขึ้นอยู่กับเวลาแล้วเท่านั้น
เฉินเฟิงอยากจะเข้าไปช่วยเหลือ ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าตอนนี้เขาไม่มีกำลังเลแม้แต่น้อย เขาคงจะให้ชายชุดดำคนนั้นแก้มัดเขาออกไปแล้ว แต่ตอนนี้ต่อให้เขาจะสามารถขยับตัวได้ เขาก็คงทำได้เพียงล้มฟุบไปกับพื้นดังเดิม เพราะแม้แต่จะยืนให้มั่นคงนั้นยังนับว่าเป็นเรื่องยากเลย
เดิมทีอาจต้องเผชิญหน้ากับความตายไปแล้ว แต่ตอนนี้กลับต้องมาเฝ้ารอความตายอยู่อย่างนี้ ยิ่งทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังมากไปกว่าเดิมอีก แต่ว่าในเมื่อยังมีเวลาให้ใช้ชีวิตก็จงมีชีวิตอีกสักหน่อยจะเป็นไรไป!
เฉินเฟิงครุ่นคิดด้วยความเอือมระอา แต่ยังไม่ทันที่เขาจะหยุดคิด ข้างกายของเขาก็มีเสียงขยับตัวเกิดขึ้น
เฉินเฟิงมองไปยังชิงจือที่หลุดพ้นออกมาจากพันธนาการด้วยความตกตะลึง เธอยืนอยู่ตรงนั้นราวกับว่าไม่เป็นอะไรทั้งสิ้น
เมื่อรับรู้ถึงสายตาของเฉินเฟิง ชิงจือจึงพูดด้วยความนิ่งเฉย
“แค่ความสามารถของแดนมหาปรมาจารย์เท่านั้น”
เฉินเฟิงไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี เขาจึงได้เพียงแต่มองตาค้างอยู่อย่างนั้น
ชิงจือค่อยๆ เดินไปทางเซวี่ยผิงอย่างช้าๆ ตอนนี้เหมือนว่าเขาจะไม่ทันสังเกตเห็นเธอ แต่ทันทีที่เขาเห็นชิงจือ เขาก็แสดงท่าทีหวาดกลัวราวกับหนูที่เจอเข้ากับแมวเสียอย่างนั้น ซึ่งความหวาดกลัวนั้นเกิดขึ้นมาจากแรงกดดันของมหาปรมาจารย์
ชิงจือพูดด้วยความเย็นชา
“ฉันไม่ได้มีความโหดร้ายขนาดนั้น ฉะนั้นฉันจะให้คุณตายด้วยวิธีการง่ายๆ แล้วกัน”
เสียงของเธอยังไม่ทันได้ขาดคำ เซวี่ยผิงก็หันหลังหนีทันที สิ่งที่เขาคิดตอนนี้คือการหนีให้สุดชีวิต ซึ่งนั่นเป็นความคิดเดียวกับเฉินเฟิงในตอนที่ได้เจอกับเน่หวาเฟิง เพราะการอยู่ต่อหน้าของมหาปรมาจารย์ การหนีเอาชีวิตรอดคือหนทางที่ชัดเจนที่สุด
แต่เขาแย่กว่าเฉินเฟิงเป็นร้อยเท่า เพราะยังไม่ทันที่เขาจะหนีออกไปทางประตูหลัง ชิงจือก็กระโจนเข้าไปอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...