หลังจากที่เดินมาถึงเฉินเฟิงจึงมอบลูกอมให้กับเด็กๆ คนละอัน เหล่าเด็กน้อยต่างพากันวิ่งจากไปด้วยความดีใจ
แต่บ้านถ่ำที่อยู่ตรงหน้าของเฉินเฟิงนั้นดูรกร้างอย่างเห็นได้ชัดเลย แต่เพราะมีของแห้งหลากหลายชนิดแขวนอยู่ตรงประตู จึงทำให้พอจะดูออกว่ายังมีคนอาศัยอยู่ที่นี่
“มีใครอยู่หรือเปล่าครับ?”
เฉินเฟิงที่ยืนอยู่ด้านนอกตะโกนถามเข้าไป แต่กลับไม่มีสัญญาณตอบกลับใดๆ เลย
เฉินเฟิงเลยตัดสินใจเดินเข้าไปแล้วเคาะประตู แต่ทว่าข้างในนั้นดูเหมือนจะไม่มีใครอยู่ และในตอนนั้นเองก็มีชายอายุราวหกสิบปี ร่างกายดูแข็งแรงกำยำเดินเข้ามาจากปากทาง พร้อมกับตะโกนใส่เฉินเฟิงพวกเขาสองคน
“พวกคุณมาทำอะไรกัน?”
เฉินเฟิงหันไปมองชายแก่ พร้อมกับตอบคำถามของเขา
“พวกเรามาหาคนครับ”
“ไม่ต้องตามหาแล้ว เป็นเขานั่นแหละ”
เฉินเฟิงที่เพิ่งจะพูดไม่ทันขาดคำ ชิงจือก็หันมาบอกกับเขา
เมื่อได้ยินแบบนั้นเฉินเฟิงถึงหันกลับไปสำรวจอีกฝ่าย ลักษณะของเขาก็เหมือนกับชาวนาทั่วไป ไม่เห็นมีอะไรที่จะดูพิเศษกว่าคนอื่นเลยสักนิด ซึ่งในตอนที่เขากำลังสังเกตนั้น ชายแก่ก็พุ่งทะยานเข้ามาหาพวกเขาสองคนโดยที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว
เฉินเฟิงเตรียมตั้งรับทันทีโดยอัตโนมัติ เมื่อกี้นี้เขาไม่ทันได้สังเกต แต่ทันทีที่มีการเคลื่อนไหวเข้ามา เขาถึงได้รู้ว่าชายแก่คนนี้ที่แท้ก็เป็นคนที่เก็บซ่อนความสามารถของตัวเองเอาไว้ และอีกสิ่งที่เขาค้นพบก็คือชายคนนั้นไม่ได้กระโจนมาหาเขา เพราะชิงจือที่อยู่ข้างๆ ของเขาพุ่งทะยานเข้าไปหาเขาแล้ว
ทั้งสองไม่เสียเวลาพูดอะไรมาก แล้วใช้กำลังการต่อสู้ปะทะเข้าหากันทันที ทั้งสองต่อสู้กันอยู่ตรงบริเวณลานโล่งหน้าบ้าน เพียงไม่นานก็สู้กันเกินสิบกระบวนท่าแล้ว ด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว และกระบวนท่าที่สลับซับซ้อนทำให้เฉินเฟิงถึงกับตาพร่ามัว
แต่คนที่สามารถต่อสู้กับชิงจือที่เป็นถึงมหาปรมาจารย์ด้วยความสนิทสนมแบบนี้ อีกฝ่ายก็คงไม่พ้นจากการเป็นแดนมหาปรมาจารย์
ซึ่งเป็นเรื่องที่เฉินเฟิงไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าในหมู่บ้านบนภูเขาที่ห่างไกลเช่นนี้จะมียอดฝีมือแดนมหาปรมาจารย์มาซ่อนตัวอยู่ที่นี่
และด้วยความประหลาดใจ เฉินเฟิงจึงตั้งใจอย่างมากในการชื่นชมแก่นแท้ของการต่อสู้ระหว่างอาณาจักรที่ต่างกันออกไปเพราะนี่ไม่ใช่ว่าจะได้พบเห็นกันได้ง่ายๆ เลย
ตอนนี้การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด ทั้งสองต่างอยู่ในระดับเดียวกัน แต่ในเวลาสั้นๆ แบบนี้ไม่มีทางรู้ผลแพ้ชนะแน่นอน ตอนแรกเฉินเฟิงก็เป็นห่วงในตัวของชิงจือ เพราะอยู่ๆ อีกฝ่ายก็กระโจนเข้ามาโดยที่ไม่พูดไม่กล่าวอะไรเลย หรือว่าเขาจะเป็นศัตรูของชิงจือ แต่ว่าหากดูตามการแลกหมัดและกระบวนท่าของพวกเขาแล้ว พร้อมทั้งการยั้งมือให้กับอีกฝ่ายจึงทำให้เฉินเฟิงรู้สึกโล่งใจไม่น้อย เพราะพวกเขาคงจะรู้จักกัน
และแล้วหลังจากที่ผ่านไปไม่นาน พวกเขาทั้งสองก็หยุดการต่อสู้ลง
“สาวน้อย ไม่ได้เจอกันหลายปี ทำไมรู้สึกว่าเธอฝีมือด้อยกว่าเมื่อก่อนแล้วล่ะ”
ชายแก่พูดด้วยรอยยิ้ม
แต่ชิงจือยังคงพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย
“นั่นเป็นเพราะคุณอ่อนแอเกินไป หนูกลัวว่าถ้าหากใช้แรงทั้งหมดอาจจะทำให้คุณกระเด็นไปกับพื้นได้”
ถึงแม้จะพูดแบบนี้ แต่ในแววตาของชิงจือกลับไม่ได้แสดงออกถึงการดูถูกเลย
ชายแก่จึงหัวเราะขึ้นมาเสียงดัง
“สาวน้อย ถึงวิชาต่อสู้จะไม่เท่าไหร่ แต่ปากของเธอนี่ร้ายกาจกว่าวิชาต่อสู้เยอะเลยนะ เอาเถอะๆ ฉันก็แค่ตาเฒ่าธรรมดาคนหนึ่งจะมีสิทธิ์ไปวิจารณ์เธอได้อย่างไร”
เขาเดินมุ่งตรงเข้ามายังพวกเขาสองคนพร้อมกับถามอีกครั้ง
“เธอมาหาฉันทำไม?คงจะไม่ได้มาเพื่อแค่ต่อสู้กับฉันแค่นี้หรอกนะ”
ชายแก่เพิ่งจะพูดไปไม่เท่าไหร่ ตรงทางเข้าก็มีรถหลายคันขับเข้ามา รถวิบากคันสูงขับผ่านเข้ามาพร้อมกับฝุ่นควัน
ทั้งสามคนหยุดนิ่งพร้อมกับหันไปมอง เพราะตอนนี้รถเหล่านั้นกำลังมุ่งหน้ามายังพวกเขา
และทันทีที่มาถึงลานโล่ง รถวิบากก็ค่อยๆ จอดไล่ตามกันไป หลังจากนั้นก็มีชายหนุ่มเดินลงมาจากรถทีละคนๆ พวกเขาดูท่าทางแล้วอายุยังไม่ถึงสามสิบกันเลยสักคน ทั้งการแต่งตัวยังดูแปลกใหม่และทันสมัยอีกต่างหาก
ชายร่างผอมบางผมย้อมสีแดงลงมาจากที่นั่งเบาะหลังเดินนำคนอื่นๆ เข้ามาหาพวกเขา พร้อมกับหันไปตะโกนกับชายแก่
“ตาแก่ เอายังไง พื้นที่นี้ปล่อยได้หรือยัง เรื่องง่ายนิดเดียว ถ้าบอกว่าได้ก็ต่อรองราคามาได้เลย”
ใบหน้ามีความสุขของพ่อของสิงอี้เปลี่ยนไปทันที ราวกับว่าได้พบเจอกับเรื่องน่าขยะแขยงอะไรบางอย่าง
“ไสหัวไป ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกแก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...