หญิงสาวค่อยๆ ลงมืออย่างระมัดระวัง ทุกๆ ขั้นตอนตั้งใจจนแทบกลั้นหายใจ เธอใช้สมาธิอย่างมาก ไม่กล้าที่จะละสายตาเลยแม้แต่น้อย
ซึ่งเธอใช้เวลาถึงยี่สิบนาทีเต็มกว่าจะปลดล็อกบนกล่องทองคำใบนั้นออกมาอย่างช้าๆ
จนกระทั่งหญิงสาววางเอาอุปกรณ์ทั้งหมดวางลงข้างๆ ในขณะที่หันหน้าของกล่องเข้าหาเฉินเฟิง เขาถึงได้เห็นอัญมณีที่มีความแสงประกายคล้ายคลึงกับดวงดาวปรากฏอยู่ตรงหน้า
ถ้าหากจะบอกว่ากล่องใบนั้นเป็นผลงานรังสรรค์ชิ้นเอก อย่างนั้นอัญมณีเม็ดนี้คงจะเป็นเวทมนตร์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
และถ้าหากยังคงมีความสงสัยว่าจะเป็นสิ่งของแบบไหนกันที่สามารถบรรจุลงไปในกล่องอันบอบบางแบบนี้ ก็คงจะมีเพียงอัญมณีอันงดงามแบบนี้เท่านั้น
ซึ่งเมื่อนำทั้งสองมาประกบคู่กันก็กลายเป็นความเหมาะสมที่ลงตัวจนหาที่ติไม่ได้
แม้แต่ชิงจือที่ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจเรื่องอะไรทั้งสิ้นยังได้แต่จ้องมองมันอย่างไม่ยอมละสายตาเลยทีเดียว
“ช่างเสียดายจริงๆ ที่อัญมณีงดงามขนาดนี้แต่กลับไม่เคยมีผู้ใดได้พบเห็นมาก่อน” เฉินเฟิงอุทานออกมา
แต่ชายชรากลับกล่าวแย้ง
“สิ่งของที่งดงามแบบนี้ควรจะชื่นชมแค่คนเดียวก็เพียงพอแล้ว หากคนเห็นเยอะ มันก็ไม่มีความงดงามแล้ว”
เฉินเฟิงคิดไปคิดมาก็จริงตามที่เขาพูด
“แต่ในเมื่อเป็นแบบนั้น ทำไมตอนนี้คุณถึงได้เอาของแบบนี้มาให้ผมดูด้วยล่ะ คงจะไม่คิดจะขายมันให้ผมหรอกนะ แต่ถึงอย่างนั้นหากเป็นอัญมณีที่งดงามแบบนี้ ผมว่าเงินสองพันล้านก็ถือไม่เยอะเลยสักนิด”
ทว่าชายชรากลับสะบัดมือ
“ผมแค่แบ่งปันให้คุณได้เห็นเท่านั้น แต่ไม่คิดจะขายหรอก ของที่ผมชื่นชอบนั้นมีไม่มากนัก และของชิ้นนี้ก็ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ผมโปรดปรานที่สุด ถึงต่อให้จะเสนอเงินมากขนาดไหน ผมก็ไม่มีการพิจารณาเลยสักนิด”
เฉินเฟิงที่ได้ยินแบบนั้นจึงถามกลับด้วยความข้องใจ
“ถ้าหากพูดแบบนั้น เงินสองพันล้านนี้ของผมก็ไม่จำเป็นต้องควักออกมาแล้ว”
ชายชราพูดขึ้นอย่างทันควัน “คุณชายเฉินอย่าเพิ่งรีบร้อนใจไป รอให้ผมพูดให้จบก่อน”
ในเมื่อเขาพูดเกลี้ยกล่อมแบบนี้ อย่างนั้นเฉินเฟิงก็คงต้องลองฟังว่าเขาต้องการจะพูดอะไรดีกว่า
“ถึงแม้ว่าอัญมณีเม็ดนี้ผมจะไม่สามารถขายให้แก่คุณชายเฉินได้ แต่เงินสองพันล้านนี้จะสามารถใช้ในการครอบครองมันได้หรือไม่นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งแล้ว”
เฉินเฟิงถามอีกครั้ง “ยังไงกัน?คุณไม่ยอมที่จะขายมันให้กับผมไม่ใช่หรือไง ทำไมถึงพูดแบบนี้ด้วย”
“ถ้าผมจะบอกกับคุณชายเฉินว่าบนโลกใบนี้ไม่ได้มีเพียงแค่อัญมณีแบบนี้อันเดียว ไม่รู้ว่าคุณชายเฉินจะเชื่อหรือเปล่า”
เฉินเฟิงปฏิเสธอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด “นั่นไม่มีทางอยู่แล้ว”
ชายชราที่เห็นเขาปฏิเสธจึงพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“โลกใบใหญ่มหาศาล มีสิ่งมหัศจรรย์มากมายที่เราไม่รู้ คุณชายเฉินอย่าเพิ่งด่วนสรุปไปแบบนี้ ส่วนเรื่องที่ผมอยากให้คุณชายเฉินควักเงินสองพันล้านออกมาก็เพื่อที่จะใช้ค้นหาอัญมณีพวกนี้ต่างหาก”
เฉินเฟิงจ้องมองชายชราอย่างไม่ละสายตา ก่อนที่จะพูดออกมาอีกครั้ง
“ทำไมผมถึงมีความรู้สึกว่าคุณกำลังหลอกผม โดยการใช้อัญมณีนี้มาล่อให้ผมสนใจ จากนั้นก็ค่อยๆ หลอกล่อให้ผมควักเงินออกมา แล้วสุดท้ายผมอาจจะไม่ได้อะไรเลย แต่คุณกลับได้เงินของผมไปอย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเปลืองแรงเลย”
ชายชราถึงกับตะลึง เขาไม่คิดเลยว่าเฉินเฟิงจะมีความคิดแบบนี้
“นี่ถือคุณกำลังกล่าวหาผมอยู่”
เฉินเฟิงตอบกลับ
“ผมไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้หรอกนะ ผมสนใจแค่เรื่องเงินของตัวเองเท่านั้น ผมไม่อยากใช้เงินโดยไม่มีความชัดเจนแบบนี้ ถึงต่อให้มันจะเป็นแค่เงินสองพันล้านก็ตาม”
คำพูดของเฉินเฟิงทำเอาสีหน้าของชายชราเย็นชาลงทันที เมื่อถูกเฉินเฟิงกล่าวปฏิเสธอย่างเยือกเย็นแบบนี้ เขาก็ไม่อาจหาคำเกลี้ยกล่อมใดมาดึงดูดความสนใจของเขาได้อีกแล้ว
แต่แล้วในตอนที่ชายชรากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ประตูห้องที่พวกเขากำลังนั่งคุยกันอยู่ก็ถูกเปิดออก
คนที่สามารถเข้ามารบกวนชายชราที่กำลังคุยธุระ คงจะต้องไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปแน่นอน
ดังนั้นเมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวทุกคนต่างก็พากันหันไปมองทางนั้นโดยไม่ได้นัดหมาย
เสียงฝีเท้าเดินมาเป็นจังหวะ ก่อนจะปรากฏร่างของเงาสีแดงขึ้นมา เด็กสาวสวมกางเกงรัดรูปขายาวสีดำ พร้อมกับชุดเดรสกระโปรงสั้นสีแดงทรงกะทัดรัด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...