แต่ทางด้านเฉินเฟิงเองที่เคยฝึกฝนการต่อสู้มาก็เริ่มทำความคุ้นชินได้อย่างรวดเร็ว
และเพียงไม่นานเขาก็สามารถเต้นตามจังหวะของคนอื่นๆ ได้แล้ว จนกลมกลืนเป็นนักเต้นคนหนึ่งในนั้น
ด้วยความใกล้ชิดที่ขยับเข้ามาเรื่อยๆ ทำให้เฉินเฟิงสามารถรับรู้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวของหลี่จื่อเยว่ กระโปรงสีแดงของเธอเริงระบำอย่างพลิ้วไหว อีกทั้งเธอยังเขย่าแขนของเขาไปมาอย่างไม่หยุดหย่อน
และมีอยู่ครู่หนึ่งที่ทำให้เฉินเฟิงเกิดความลุ่มหลงขึ้นมา
หลี่จื่อเยว่หลับตาลงอย่างไม่รู้ตัว ราวกับว่าเธอไม่สนใจเลยว่าเฉินเฟิงจะสัมผัสตัวเธออยู่ ทั้งยังไม่ใส่ใจอีกด้วยว่าตัวเองจะแนบชิดกับเฉินเฟิงอีกด้วย เธอเพียงดยกย้ายร่างกายไปตามเสียงดนตรีเท่านั้น
และเพียงเวลาไม่นาน ทุกอย่างก็เริ่มสงบลงอย่างช้าๆ เสียงดนตรีเองก็ค่อยๆ อ่อนโยน
หลี่จื่อเยว่แหงนหน้าขึ้นสามารถมองเห็นใบหน้าของเฉินเฟิง แต่ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุใดทำให้เธอหลบหน้าไปไม่กล้าที่จะมอง
ทว่าเฉินเฟิงกลับไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิด เขาเพียงแค่สงสัยว่าทำไมกลุ่มคนนี้ถึงไม่ได้รู้สึกเหนื่อยล้ากันเลย
ส่วนเรื่องที่เขาไม่ได้รู้สึกเหนื่อยล้าเลยเป็นเพราะว่าร่างกายของเขามีความแข็งแรงกว่าคนทั่วไปนั่นเอง แต่ดูเหมือนว่าร่างกายของหลี่จื่อเยว่จะเต็มไปด้วยความพละกำลัง ซึ่งทำให้เขายิ่งเกิดความสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ
เขาดึงตัวหลี่จื่อเยว่เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนตัวเอง
โดยที่หลี่จื่อเยว่ไม่มีการต่อต้านใดเลยสักนิด เธอเพียงปล่อยให้เฉินเฟิงกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาอยู่อย่างนั้น
และสิ่งนี้ก็ยิ่งน่าสงสัยมากขึ้น เพราะต่อให้เขาและหลี่จื่อเยว่จะมีความสนิทสนมกันมากขึ้นแล้ว แต่เขาไม่เชื่อว่าหลี่จื่อเยว่จะยินยอมให้เขาดึงเอาตัวเธอเข้ามากอดแบบนี้โดยไม่ต่อต้านใดๆ แน่นอน
เขาก้มลงมองหน้าเธออย่างละเอียด ตอนนี้สีหน้าของเธอนั้นแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัดเหมือนกับกำลังเมาเหล้า
ซึ่งเฉินเฟิงสามารถรับรู้ได้เลยว่านั่นไม่ได้เกิดจากแสงของกองไฟที่สาดส่องมากระทบแน่นอน และตอนนี้ร่างกายของเธอก็มีไอร้อนแผ่ออกมาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย และพอเฉินเฟิงหันไปดูคนอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ ก็พบว่าพวกเขาก็เป็นเหมือนกัน แต่กลับไม่มีใครสังเกตเห็นเรื่องนี้เลย
บางทีอาจจะมีบางอย่างในอากาศ เมื่อมีความคิดแบบนี้ เฉินเฟิงจึงคิดจะพาหลี่จื่อเยว่ออกไปจากตรงนี้
แต่เขากลับพบว่าร่างกายของตัวเองก็เริ่มมีไอความร้อนแผ่ออกมาเหมือนกัน และยิ่งในตอนที่เขามองดูหลี่จื่อเยว่ก็เกิดความรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก และเพียงแค่ได้มองเธอแบบนี้เขาก็เหมือนจะไม่สนใจอะไรอีกแล้ว
เฉินเฟิงรีบสะบัดหัวของตัวเองเพื่อที่จะทำให้ตัวเขาได้สติขึ้นมา
พวกเขาจะต้องถูกวางยาแน่นอน และในตอนที่เขากำลังสับสน เขาก็รับรู้ถึงมือคู่หนึ่งที่โอบรัดเขาเอาไว้ ซึ่งก็คือหลี่จื่อเยว่
เขาอยากที่จะดึงตัวเธอออกแล้วพาหลี่จื่อเยว่หนีออกไปจากที่นี่ซะ แต่เหมือนว่าเขาจะได้สูดกลิ่นหอมบนร่างของหลี่จื่อเยว่เข้าไป และกลิ่นนั้นก็ทำให้เฉินเฟิงไร้ความสามารถในการต่อต้านไปในทันที
จากนั้นมือทั้งสองของเขาก็โอบกอดร่างอันอ่อนนุ่มและบอบบางที่อยู่ในอ้อมแขนนั้นอีกครั้ง
แล้วเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น เขาก็จำไม่ได้อีกเลย
ราวกับว่าได้สะดุ้งตื่นมาจากฝันร้าย เฉินเฟิงกระตุกร่างกายลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว พอมองดูรอบๆ กลับพบว่าพวกเขายังอยู่ในสถานที่เมื่อวานนี้ ส่วนหลี่จื่อเยว่ที่เอนตัวหลับอยู่ข้างๆ เขาก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาจากการเคลื่อนไหวเมื่อสักครู่นี้ของเขา
และสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เฉินเฟิงรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา ถ้าหากว่ามีคนต้องการทำไม่ดีกับพวกเขา ถ้าอย่างนั้นเฉินเฟิงที่แม้อยากจะต่อต้านก็คงจะทำไม่ได้
ทางด้านหนุ่มสาวที่อยู่ข้างๆ ก็ค่อยๆ เริ่มตื่นขึ้นมาทีละคน แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้มากนัก พวกเขาลุกขึ้นยืนดูแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายออกไปจากที่นี่
ราวกับว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเขา
เฉินเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พร้อมทั้งสังเกตร่างกายของตัวเองจนมั่นใจว่าไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้น ส่วนหลี่จื่อเยว่ที่อยู่ข้างๆ ก็ดูปกติที่ดีทุกอย่าง จึงทำให้เขาโล่งอกขึ้นมา
แต่ในใจจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ได้
เขาลากตัวหลี่จื่อเยว่กลับไปที่รถ เขานั่งลงตรงที่นั่งคนขับก่อนจะพยายามคิดถึงเรื่องที่เกิดเมื่อคืนนี้อย่างละเอียด เผื่อว่าบางทีเขาอาจจะรับรู้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...