เฉินเฟิงมองเธอ พลางนึกย้อนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้หวังจะถามอะไรบางอย่าง แต่เมื่อไตร่ตรองแล้วหากถามเธอไปโดยตรงเธอคงจะไม่ยอมตอบแน่นอน
ดังนั้นเฉินเฟิงจึงตัดสินใจกล่าวขอโทษกับเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน: “เรื่องเมื่อกี้นี้ฉันต้องขอโทษด้วย แต่ฉันรีบร้อนอยากจะช่วยเธอเท่านั้นจริงๆ ”
หลี่จื่อเยว่รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำขอโทษจากเฉินเฟิง เธอแอบลอบมองไปยังตัวเฉินเฟิงก่อนจะเปล่งเสียงอันน้อยใจออกมา: “คุณไม่ได้รังแกหนูจริงๆ นะ?”
เฉินเฟิงตอบกลับอย่างทันควัน: “ถ้าหากเธอไม่เชื่อ จะให้ฉันสาบานก็ได้”
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลี่จื่อเยว่จึงรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว: “หนูเชื่อคุณก็สิ้นเรื่องแล้ว”
หลี่จื่อเยว่กลับไปเอนเข้ากับเบาะนั่งอีกครั้งหลังจากที่เมื่อสักครู่นี้เธอเด้งตัวขึ้นนั่งอย่างไม่ทันรู้ตัว ก่อนจะพูดต่อ: “แต่ว่าเมื่อกี้นี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ หนูหลับไปแล้วไม่ใช่งั้นหรอ ?”
เฉินเฟิงจ้องมองใบหน้าของเธอที่ดูเหมือนจะมึนงงไม่ต่างกันพร้อมกับกล่าวถาม: “เธอจำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ หรอ?จำไม่ได้เลยหรอว่าเมื่อกี้เธอทำอะไรลงไป ?”
หลี่จื่อเยว่ส่ายหน้าพลางพูด: “ไม่มีความทรงจำเลย”
เฉินเฟิงครุ่นคิดอย่างจริงจัง ในเมื่อคนตอนนี้หลี่จื่อเยว่ไม่มีปัญญาที่พูดออกมา ถ้าอย่างนั้นคงต้องกลับไปยังสถานที่เมื่อวานนี้ เพราะมีเพียงที่นั่นเท่านั้นที่จะทำให้รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงได้
เฉินเฟิงกล่าวปลอบใจหลี่จื่อเยว่สองสามคำ ก่อนจะเลี้ยวรถกลับไปยังสถานที่ก่อนหน้านี้อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่พักผ่อนอยู่ข้างทางมาเป็นเวลาหนึ่งคืน ในช่วงบ่ายของวันถัดมาเฉินเฟิงก็ขับรถกลับมาถึงสถานที่ที่จัดกิจกรรมรอบกองไฟเสียที
หลี่จื่อเยว่ถามอย่างสงสัย: “ทำไมถึงมีแค่หนูที่เกิดปัญหาล่ะ คุณเองก็อยู่ด้วยไม่ใช่หรือไง ?”
เฉินเฟิงเองก็เคยคิดเรื่องนี้เหมือนกัน แต่สุดท้ายเขาเพียงคิดว่าคงเป็นเพราะร่างกายของตัวเองมีความแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อมาถึงที่ที่จัดกิจกรรมรอบกองไฟ ผู้คนมากมายก็มารวมตัวกันอยู่ที่นี่แล้ว ทั้งยังมีรถอีกหลายคันที่ดูคุ้นตาอีกด้วย
แต่ว่าเฉินเฟิงก็ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้มากนัก ตอนนี้กองไฟตรงกลางทุ่งโล่งยังไม่ถูกก่อขึ้น จึงทำให้ผู้คนต่างรวมตัวกันเป็นกลุ่มเพื่อสนทนา และมีบางกลุ่มที่กำลังเล่นเกมกัน
ซึ่งทุกอย่างดูเหมือนจะลงตัวกันไปหมด
“ไม่มีใครเกิดเหตุการณ์เดียวกันกับหลี่จื่อเยว่เลยหรือไงกันนะ?” เฉินเฟิงแอบคิดอยู่ในใจ
แต่เมื่อมองดูสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ
เขาเดินเข้าไปบริเวณนั้นเพื่อหวังจะไถ่ถาม
และสิ่งที่ทำให้คิดไม่ถึงคือเขาได้พบกับชายร่างบางที่เจอกันวันนั้นด้วย เฉินเฟิงที่เห็นเขาจึงเดินเข้าไปหาทันที
“พวกนายมาที่นี่ทุกวันเลยงั้นหรอ?” เฉินเฟิงถาม
ชายคนนั้นเหมือนจะยังจำเฉินเฟิงได้จึงทำให้เขาไม่ได้มีอาการแปลกใจอะไร ก่อนจะตอบกลับ : “นี่นายกำลังพูดอะไรกัน นายเองก็มาที่นี่ทุกวันไม่ใช่หรือไง?”
เฉินเฟิงมองเขาด้วยความสงสัย ก่อนจะถามขึ้นมาอีกครั้ง : “ทำไม?ทำไมพวกนายถึงมาที่นี่ทุกวันด้วย?”
ชายคนนั้นมีความสับสนอย่างมาก ก่อนตอบกลับเขาอย่างไม่ชัดเจน : “ก็เพื่อสวดภาวนายังไงหล่ะ!ขอเพียงสวรรค์ได้ยินคำภาวนาของเราแล้วเท่านั้นถึงจะหยุดได้”
เฉินเฟิงจ้องมองเขาอย่างไร้หนทางเข้าใจคำพูดของเขา ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงยอมแพ้ไปก่อนเท่านั้น
หลังจากออกมา เฉินเฟิงก็เดินกลับมาที่รถ ครั้งนี้เขาไม่อนุญาตให้หลี่จื่อเยว่ลงจากรถ เพราะกลัวว่าที่นี่จะทำให้เธอได้รับอันตรายอีกครั้ง
แต่ในตอนที่เฉินเฟิงขึ้นรถหลี่จื่อเยว่ก็ถามด้วยความกังวลทันที: “เป็นยังไงบ้าง?คุณได้ถามอะไรพวกเขาหรือเปล่า?”
เฉินเฟิงส่ายหน้าพร้อมกับพูด : “ตอนนี้ทุกอย่างล้วนไม่ชัดเจน เหมือนกับว่าคนพวกนี้จะถูกดึงดูดให้มาอยู่ที่นี่ รอให้ถึงตอนกลางคืนก็คงน่าจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นมาให้เห็นเอง”
หลี่จื่อเยว่ที่ได้ยินแบบนั้นได้เพียงแค่พยักหน้ารับเท่านั้น
ทั้งสองคนนั่งรออยู่ในรถ กระทั่งกองไฟนั้นได้ถูกจุดขึ้นท่ามกลางทุ่งโล่งอีกครั้ง เฉินเฟิงถึงได้ลงรถไป
เสียงจังหวะเพลงค่อยๆ ดังขึ้นมาหลังจากที่มีการจุดไฟ เฉินเฟิงลองสำรวจดูอย่างถี่ถ้วนถึงได้เห็นว่าเสียงดนตรีนั้นดังมาจากรถที่พวกเขาขับมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...