แต่เมื่อในตอนที่ฝนปรอยลงบนใบหน้าจนเขาฟื้นขึ้นมา จากเดิมทีที่เขาคิดว่าจะยังคงเป็นดังทุกครั้ง แต่ปรากฏว่าอยู่ๆ เขาก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างขาดหายไป
หลี่จื่อเยว่หายตัวไป ตอนนี้ข้างกายของเขาไม่ได้มีหญิงสาวชุดแดงคนนั้นอีกแล้ว
ในใจของเฉินเฟิงตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก เขารีบลุกขึ้นในทันทีก่อนจะเดินไปหาในบริเวณโดยรอบ แต่เมื่อตามหาจนวนครบหนึ่งรอบแล้ว เขาก็ยังไม่เห็นร่างของเธอเลย
อยู่ๆ คนก็หายไปกลางอากาศเสียอย่างนั้น
ไม่สิ เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากที่เขาหมดสติไป เขายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเลย คงจะต้องเป็นเวลานั้นที่มีคนเอาตัวหลี่จื่อเยว่ไปแน่นอน
แต่ว่ามันคือใครกันแน่ แล้วตอนนี้หลี่จื่อเยว่จะยังคงมีชีวิตปลอดภัยหรือเปล่านั้นเฉินเฟิงไม่อาจรู้ได้เลย
ตอนนี้ฝนที่ยิ่งตกก็ยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ คนที่หลับอยู่ตรงพื้นต่างพากันตื่นขึ้นมากันหมดแล้ว พวกเขาเป็นเหมือนหนุ่มสาวที่สนุกสนานไปกับค่ำคืนแห่งงานรื่นเริง พอตื่นขึ้นมาอีกทีก็กลายเป็นวันใหม่แล้ว
บางคนก็พากันออกไปจากที่นี่แล้ว ในขณะที่บางคนยังอยู่ที่นี่ต่อสักพัก
เฉินเฟิงเข้าไปถามไถ่พวกเขา แต่พวกเขากลับไม่มีใครรู้เลย พวกเขาอยู่ที่นี่เพียงแค่เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงนั้นพร้อมกับเชื่อว่าเป็นกระบวนการหนึ่งในการสวดภาวนาเท่านั้น
เฉินเฟิงเริ่มรู้สึกสิ้นหวัง แต่ในตอนที่เขาไร้ซึ่งเบาะแสที่จะไปตามหาเธอนั้น เขาก็ได้สังเกตเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินออกมาจากกลางทุ่งเพียงตัวคนเดียว
ในขณะที่คนที่อยู่ในทุ่งนั้นล้วนเป็นคู่หนุ่มสาวทั้งนั้น
เฉินเฟิงฉุกคิดขึ้นมาว่าเขาจะเจอเหตุการณ์เดียวกับตัวเองหรือเปล่าที่ว่าสูญเสียฝ่ายหญิงที่เป็นคู่เต้นรำไป
เขาจึงรีบวิ่งไล่ตามไปก่อนจะถาม: “คุณมาคนเดียวหรอครับ?”
ชายคนนั้นไม่ตื่นตัวจากการที่เฉินเฟิงเข้ามาหาเลย ก่อนจะตอบกลับอย่างเป็นกันเอง : “ผมมากับภรรยาของผม”
และมันก็เป็นอย่างที่เฉินเฟิงคิดเอาไว้ไม่มีผิด
“แล้วคุณหญิงของคุณไปไหนแล้ว?”
ชายคนนั้นยิ้มตอบ: “เธอถูกเทพเจ้ามงคลเลือกไปแล้ว ตอนนี้คงกำลังได้รับการประทานพร หลังจากนี้อีกสองวัน พิธีขอพรของพวกเราก็จะเสร็จสมบูรณ์สักที”
เฉินเฟิงถึงกับตกตะลึงก่อนจะรีบฉุดแขนของอีกฝ่ายพร้อมกับถามด้วยความลนลาน : “ถูกเลือกแล้ว หมายความว่ายังไง?”
แต่ชายคนนั้นกลับเข้าใจว่าเฉินเฟิงกำลังถามในสิ่งที่รู้อยู่แล้ว พร้อมกับตอบกลับ: “ถูกเลือกก็คือถูกเลือกแล้ว ไปเข้าเฝ้าเทพเจ้าแล้ว ”
เฉินเฟิงยากที่จะเข้าใจถึงคำพูดที่พูดออกมาง่ายดายแบบนั้นของอีกฝ่ายก่อนจะถามอีกครั้ง: “แล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าเทพเจ้าอยู่ที่ไหน ?”
ตอนนี้เขามั่นใจอย่างมากว่าหลี่จื่อเยว่ก็ถูกเทพเจ้าคนนี้จับไปเช่นกัน
แต่ชายคนนั้นกลับส่ายหน้า: “ความลับนี้ของเทพเจ้า ไม่ใช่ว่าคนธรรมดาทั่วไปที่จะได้รับรู้ ”
เฉินเฟิงเริ่มวิตกขึ้นมาอีกครั้ง ตอนนี้เขาเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของหลี่จื่อเยว่ แต่เมื่อคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็เปลี่ยนคำถาม : “แล้วคุณมั่นใจได้ยังไงว่าคุณหญิงของคุณจะกลับมา?ก่อนหน้านี้เคยมีคนผ่านเหตุการณ์นี้มาแล้วหรอ?”
ชายคนนั้นพยักหน้า เขาตอบอย่างมั่นใจอย่างมาก
แต่ว่าเฉินเฟิงกลับยิ่งแปลกใจมากยิ่งขึ้น อีกฝ่ายไม่กลัวเลยหรือว่าที่อยู่ของตัวเองจะถูกเปิดเผย หรือว่าพวกเขามีความมั่นใจอย่างมากว่าคนที่กลับมาจากที่นั่นจะไม่มีทางเปิดเผยเรื่องของพวกเขา
เฉินเฟิงถือแผนที่เอาไว้ในมือ เดินทางมายังย่านเล็กๆแห่งหนึ่งในตำบลแห่งนี้
แผนที่นี้เป็นที่อยู่หนึ่งที่ชายคนนั้นได้บอกกับเฉินเฟิงว่าเป็นที่อยู่ของผู้หญิงคนหนึ่งที่กลับมาจากการเข้าเฝ้าเทพเจ้าที่เขารู้จัก
เมื่อมาถึงหน้าบ้านของอีกฝ่าย เฉินเฟิงก็เคาะประตูทันที และเพียงไม่นานด้านในก็มีคนตอบสนองกลับมา
คนที่มาเปิดประตูเป็นหญิงสาววัยรุ่นอายุราวๆยี่สิบกว่าปี หน้าตาสะสวย ท่าทางอ่อนโยน เป็นคนแบบที่ใครได้เห็นก็ไม่อาจละสายตาได้เลย
เฉินเฟิงเริ่มคิดขึ้นมาทันทีว่าสาเหตุที่หลี่จื่อเยว่ถูกพาตัวไปคงเป็นเพราะความสวยแน่นอน และนั่นยิ่งทำให้เขาเกิดความกังวลใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
หญิงสาวคนนั้นเมื่อเห็นชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านนอกก็ถามด้วยความสงสัย : “ไม่ทราบว่า คุณคือใครคะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...