ดังนั้นเขาย่อมอยากรู้เป็นธรรมดา จึงถามว่า “หมาป่าทะเลทรายนี้จะร้ายกาจมากขนาดนั้นเลยหรือ?”
เชียนสวนยี่คาดเดาว่าเฉินเฟิงจะต้องไม่รู้จักหมาป่าทะเลทรายมากนัก ดังนั้นก็จึงพูดเตือนไป ส่วนเฉินเฟิงตอนนี้ถามเช่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ จึงตอบว่า
“ถ้าพูดถึงหมาป่าทะเลทรายแล้ว ก็ย่อมต้องพูดถึงฝูงหมาป่าก่อน”
“ฝูงหมาป่าคืออะไร?”
เชียนสวนยี่พูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ฝูงหมาป่าก็คือลูกน้องของหมาป่าทะเลทราย เป็นเครื่องมือฆ่าคน พวกเขาอยู่ได้ก็อาศัยการฆ่าคนเป็นอาชีพ ขอเพียงสามารถฆ่าคนได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีเล่ห์เหลี่ยมกลยุทธ์อะไร แม้แต่เอาชีวิตแลกชีวิตพวกเขาก็กล้าทำอย่างไม่เสียดาย”
เฉินเฟิงรู้สึกประหลาดใจมาก จึงถามอีกว่า “น่ากลัวขนาดนั้นเชียวเหรอ?”
“ก็เพราะว่าน่ากลัวอย่างนี้ หมาป่าทะเลทรายถึงได้อาศัยพวกฝูงหมาป่าจนสามารถมีฐานะยืนหยัดอยู่ได้ถึงทุกวันนี้ ส่วนพวกที่เคยขัดขวางคนของพวกเขานั้นก็ล้วนตายจมเขี้ยวของพวกฝูงหมาป่าทั้งนั้น”
เฉินเฟิงถามอีกว่า “ถ้ามันน่ากลัวขนาดนี้ ตระกูลเชียนอยู่ในทะเลทรายแห่งนี้ก็แทบจะอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้วใช่มั๊ย? พวกเขาคงไม่อยากจะสยบอยู่ใต้อิทธิพลของตระกูลเชียนตลอดไป ตระกูลเชียนตอนนี้ก็เหมือนศัตรูที่ขวางอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว”
เชียนสวนยี่พูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณท่านถามได้ตรงประเด็นมากเลย แต่ว่าตระกูลเชียนเราก็ไม่ได้หวั่นกลัวง่ายดายเช่นนั้น ต่อให้พวกเขาเหิมเกริมขนาดไหน ก็เป็นเพียงแค่หมาป่าฝูงหนึ่งเท่านั้นเอง”
ความมั่นใจของเขาก็เหมือนมาจากความเชื่อมั่นที่กลั่นออกมาจากใจ นั่นเป็นเพราะความยิ่งใหญ่ของตระกูลเชียนจึงทำให้เขามั่นใจได้ถึงเพียงนี้
ในเมื่อตระกูลเชียนปฏิเสธคำขอร้องของเฉินเฟิงแล้ว เฉินเฟิงก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ต่อไปอีก
“ขอบคุณที่ให้คำชี้แนะ แต่ผมกับหมาป่าทะเลทราย ตอนนี้ก็คงเลิกแล้วต่อกันไม่ได้แล้ว หากต้องเผชิญหน้ากับพวกฝูงหมาป่าพวกนั้น ก็คงต้องแล้วแต่บุญแต่กรรมแล้วล่ะ แต่ว่าวันนี้ได้มารบกวนมากแล้ว หวังว่าคงให้อภัย”
เชียนสวนยี่กลับพูดว่า “ในเมื่อคุณท่านได้มาถึงบ้านตระกูลเชียนเราแล้ว งั้นก็นับว่าเป็นแขกคนหนึ่ง ถ้าไม่รังเกียจขอให้อยู่พักที่นี่สักสองสามวันก่อน จะได้ทำหน้าที่เจ้าบ้านในการต้อนรับแขกบ้าง คืนพรุ่งนี้พอดีบ้านตระกูลเชียนเราจัดงานหมั้นลูกสาว ถ้าเช่นนั้นก็อยู่ร่วมดื่มเหล้ามงคลก่อน แล้วค่อยกลับก็ยังไม่สาย”
เฉินเฟิงคิดดูแล้ว ตอนนี้หลี่จื่อเยว่ก็เพียงแค่ถูกพากลับไปเท่านั้น คงไม่มีอันตรายถึงชีวิต อย่างมากก็แค่ถูกขังไว้สองวัน ไม่มีอิสรภาพเท่านั้น
ส่วนวันนัดหมายของชิงจือนั้น เขาก็ยังหวังที่จะพาหลี่จื่อเยว่ไปด้วย ดังนั้นก็ยิ่งไม่ต้องรีบร้อนอะไร
จึงรับปากตอบตกลงไป
เชียนสวนยี่พูดด้วยรอยยิ้มว่า “มีโอกาสได้รับคำอวยพรจากคุณท่านแล้ว เชื่อว่าน้องสาวกระผมคงจะต้องดีใจมากเลย”
เฉินเฟิงก็ยิ้มด้วย ถึงแม้ว่าเขายังไม่รู้ว่าใครแต่งงานกันแน่ก็ตาม
เมื่อร่ำลากับเชียนสวนยี่แล้ว ก็มีคนนำทางพาไปยังเขตบริเวณลานบ้านที่เปลี่ยวแห่งหนึ่ง ทิวไผ่เขียวเป็นแถวรายล้อมระเบียงทางเดิน ดอกกุ้ยฮวาส่งกลิ่นหอมกระจายไปทั่ว ถ้าได้พักอยู่ที่นี่ก็น่าจะทำให้รู้สึกผ่อนคลายสบายใจทีเดียว
หลังจากที่พาเฉินเฟิงมาส่งแล้ว คนนั้นก็เดินจากไป ภายในห้องนั้นมีทุกสิ่งครบถ้วนไม่แพ้โรงแรมชั้นหนึ่งเลย ทำให้รู้สึกสบายใจมากยิ่งขึ้น
เพียงแต่นั่งไปสักพักก็รู้สึกเซ็ง จึงเตรียมตัวจะออกไปเดินเล่นบ้าง
เมื่อออกจากประตูทางเข้าลานบ้าน ก็มีคนมาสอบถาม ดูเหมือนเป็นคนที่ยืนเฝ้าอยู่ที่นี่เพื่อคอยบริการเฉินเฟิงว่าต้องการอะไรเพิ่มเติมบ้าง
เฉินเฟิงจึงบอกกับเขาว่าอยากจะไปเดินเล่น คนนั้นจึงแนะนำว่า
“ถ้าท่านอยากจะเดินชมทางนี้ละก็ ฤดูนี้ควรจะไปชมสวนป๋ายกุ้ย ที่นั่นดอกกุ้ยฮวาเพิ่งเปล่งบานไม่นานมานี้ เหมาะสำหรับไปเดินชมมากเลย”
ด้วยความอย่างรู้อยากเห็น เฉินเฟิงก็พยักหน้าแล้วเดินตามเขาไปยังสวนป๋ายกุ้ย
สวนภายในบ้านตระกูลเชียนใหญ่โตมาก เดินอ้อมถนนไปมาตามทางเจ็ดแปดสาย ในที่สุดก็ได้กลิ่นดอกกุ้ยฮวาโชยมา กลิ่นหอมแตะจมูก ทำให้รู้สึกดื่มด่ำเคลิบเคลิ้มไปด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...