เชียนหนิงเดินเข้าไปข้างหน้าก้าวเดียว ส่วนหญิงสาวกลับตะโกนว่า “คุณอย่าเข้ามานะ”
ตัวเธอก็รีบเดินถอยหลังไปไม่เพียงแค่ก้าวเดียว
เชียนหนิงจึงต้องหยุดลง แล้วเขาก็ถามว่า “ถ้าคุณไปกับฉัน ทุกอย่างก็จะอิสระแล้ว หรือว่าคุณไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นเหรอ? ไปอยู่ที่ที่ไม่มีคนจะทำให้คุณร้องไห้ได้อีก ไปที่ที่คุณคิดอยากจะทำอะไรก็ได้ตามที่ใจอยากจะทำ”
ใบหน้าที่บอปบางของหญิงสาวก็สั่นระรัว แผ่วเบามาก แต่ก็ดูออกว่าในใจเธอกำลังว้าวุ่น
ดวงตาคู่นั้นสวยงามมาก ขนตางอนยาวนั้นกำลังกะพริบอย่างแผ่วเบา น้ำตาที่รินไหลออกมาทำให้เครื่องสำอางบนใบหน้าเริ่มหลุดลอกออกมา
แต่ว่าสวยงามเช่นนี้ กลับแลดูหดหู่เศร้าหมอง ไม่รู้เป็นเพราะเชียนหนิงที่อยู่ตรงหน้า หรือว่าเพราะอะไรกันแน่
“คุณไปเถอะ พวกเราจะอยู่กันด้วยดี คุณเชื่อฉันเถอะ” เธอดูเหมือนไม่ค่อยหวาดกลัวเช่นนั้นแล้ว อย่างน้อยก็ไม่เหมือนเมื่อครู่ที่ตกใจจนต้องถอยหลังออกไปไกล
“ฉันไม่เชื่อหรอก ฉันรู้แต่ว่าคุณไม่เคยมีความสุขเลย ถ้าคุณยังเป็นอย่างนี้อีกต่อไป คุณก็จะไม่มีวันที่จะมีความสุขตลอดไป”
แต่เชียนหนิงก็เป็นคนที่ดื้อรั้นเหมือนกัน เขาพูดอย่างยืนหยัด
เขาพูดพลาง ก็เดินก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง แต่ว่าหญิงสาวยังยืนอยู่ตรงนั้นเช่นเดิม
“หรือว่าคุณไปรู้อะไรมาเหรอ?” หญิงสาวถาม
เชียนหนิงพูด “อึม ฉันก็รู้มาตั้งนานแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคน ในความทรงจำของฉันความหลังที่เลือนรางพวกนั้น ฉันก็นึกขึ้นมาได้หมดแล้ว ฉันเกลียดตัวเองมากเลยที่ถึงกับลืมทุกสิ่งทุกอย่างไปได้”
“คุณไม่ควรจะนึกมันขึ้นมาได้อีก เพราะว่ามันไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับคุณเลย คุณเกิดในบ้านตระกูลเชียน เติบโตอยู่ในบ้านตระกูลเชียน ตระกูลเชียนถึงจะเป็นเสาหลักให้คุณได้ ฉันไม่ใช่ ฉันเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น คนธรรมดาที่ไม่รู้ว่าจะธรรมดายังไงอีกแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับคุณด้วย คุณควรจะปล่อยฉันไปนะ”
หญิงสาวควบคุมอารมณ์ของตัวเองไว้ พูดคำพูดที่เธอรู้สึกมีสติยั้งคิดที่ดี เพราะว่าเธอรู้ว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเชียนหนิงแล้ว สำหรับตัวเธอเองก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเช่นกัน
แต่ว่าเชียนหนิงตะโกนร้องว่า “ทำไมคุณจะต้องเลือกทางเดินให้ฉันด้วย นั่นมันเป็นทางเดินชีวิตของฉันเอง ฉันสามารถเลือกเองได้”
เขาแทบจะอยากบุกเข้าไปกอดหญิงสาวไว้ แต่ก็กลัวว่าหญิงสาวจะตกใจตื่นกลัว
อารมณ์ความรู้สึกของหญิงสาวกำลังพังทลาย เธอพูดว่า “เป็นเพราะว่าฉันรักคุณ ฉันไม่อยากให้คุณมีชีวิตอยู่ในความทุกข์ยาก.......”
“ไม่ ฉันไม่ต้องการ ถ้าหากให้ฉันทิ้งคุณไปเพื่อไปเลือกชีวิตที่แสนสุขสบายเช่นนี้ ฉันยอมที่จะไม่เอาอะไรเลยดีกว่า”
เชียนหนิงพูดตัดตอนคำพูดของหญิงสาวคนนั้น
“ทำไมคุณถึงต้องทำอย่างนี้.......”
หญิงสาวยกชายกระโปรงที่โป่งพองขึ้นแล้วนั่งลงไป ดูเหมือนเธอกำลังร้องไห้อยู่ แต่ก็ไม่อยากให้เชียนหนิงได้เห็นขณะที่ตัวเองกำลังร้องไห้ จึงทำท่าเช่นนี้เพื่อกลบเกลื่อนไว้
เมื่อเชียนหนิงได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินมา เขาจึงไม่ได้สนใจท่าทีของหญิงสาว ได้แต่รีบพูดอย่างรวดเร็วว่า
“ฉันจะต้องพาคุณออกไปให้ได้ รอให้งานเลี้ยงเลิกก่อน ฉันก็จะพาคุณหนีไป”
พูดจบ เขาก็หันหลังจากไป ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้ข้างหลัง
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาอีกที ก็ไม่เห็นเงาร่างของเชียนหนิงแล้ว แต่ว่าดวงตาที่เพิ่งจะบรรจงแต่งอย่างงดงามคู่นั้นกลับเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมดแล้ว
เด็กสาวทั้งสองคนที่เพิ่งเดินออกไปเมื่อครู่ ดูเหมือนว่าต้องการเข้ามาแต่งเติมรายละเอียดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาวที่เลอะเทอะเช่นนั้น ทั้งสองคนก็ตกใจพูดว่า “คุณหนู ท่านไปทำอะไรมา หน้าเลอะหมดแล้ว”
หญิงสาวลุกขึ้นยืน รวบรวมสติอารมณ์ เคยใช้ชีวิตที่นี่มาหลายปีทำให้เธอรู้จัดเก็บความรู้สึกไว้ได้อย่างง่ายดาย เวลาที่พูดกับพวกเธอ ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แล้วพูดว่า “เพียงแต่รู้สึกดีใจเกินไปหน่อยจนน้ำตาไหลออกมา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...