บทที่ 88 เวทีมวยใต้ดิน
"คุณไป๋ นี่ไม่ดีมั้ง" หลิ่วอีอีทำสีหน้าที่ดูลำบากใจ ถ้าเป็นปกติแล้ว บัตรแบบนี้จะสามารถรับได้เธอก็จะรับไว้ บัตรสีขาวทองหนึ่งล้านนี้ เพื่อนสนิทหรือเพื่อนร่วมห้องของเธอ จะไม่รู้สึกอิจฉาเธอได้ยังไง
ทว่าตอนนี้เธอต้องเผชิญสถานการณ์แบบนี้ ที่มีเฉินเฟิงอยู่ข้างๆ ถ้าทำให้เฉินเฟิงเข้าใจผิดในตัวเธอ เธอกับไป๋กว่างยี่มีความสัมพันธ์อะไรที่ไม่สามารถบอกใครได้ งั้นก็คงต้องแย่แน่ๆ
"ไม่มีอะไรไม่ดีหรอก เราสองคนนี้วันข้างหน้าก็ได้เป็นครอบครัวกันอยู่ดี บัตรสีขาวทองใบนี้ ถือว่าเป็นลูกขวัญที่พบเจอคุณเป็นครั้งแรก ถ้าคุณชอบที่นี่ แม้กระทั่งบัตรสมาชิกเพชรผมก็สามารถให้คุณได้" ไป๋กว่างยี่สามารถพูดเสียงดังเพราะว่ามีเงิน บัตรสมาชิกเพชร หนึ่งใบประมาณสิบล้าน อีกทั้งไม่ใช่ว่ามีเงินก็สามารถมีได้ ยังไงคุณก็ต้องมีอำนาจ ถึงจะเข้าตาผู้ถือหุ้นในคฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลงได้
"งั้น......ก็ดี" หลิ่วอีอียิ้มอย่างฝืนแล้วพูดขึ้น คำพูดนี้ของไป๋กว่างยี่ได้พูดต่อหน้าเฉินเฟิงและอาเหาจริงๆ เขาทำเป็นอยากให้บัตรสมาชิกให้เธอเป็นปัจจัยด้านหนึ่ง ยิ่งที่กว่านั้น ไป๋กว่างยี่ต้องการจะยั่วยวนให้เฉินเฟิงและอาเหาโมโห
ทว่าไป๋กว่างยี่ไม่รู้ เฉินเฟิงที่มีเบื้องหลังที่ร่ำรวยมหาศาล ไม่ได้รู้สึกเห็นค่าที่เขาเป็นแบบนี้ไง
"อีอี ตอนนี้คุณเห็นสวนผลไม้ และสวนล่าสัตว์ป่า จริงๆ มันเป็นแค่สวนนอกของคฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลงเข้านั้น" รถจึงขับไปอีกไม่กี่นาที รอยยิ้มของไป๋กว่างยี่เริ่มดูลึกลับขึ้นมาทันที
"สวนนอก? " หลิ่วอีอีรู้สึกตกใจเล็กน้อย นี่ก็ขับมาสิบกว่ากิโลแล้ว ไหนๆ ก็มีแค่สวนนอก คฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลงจะใหญ่มากแค่ไหน? อีกอย่างได้ยินความหมายของไป๋กว่างยี่ คฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลงยังอยู่ในสวนข้างใน ทว่าแต่ก่อนเธอกลับไม่เคยได้ยิน
"ใช่ สวนนอก! " ไป๋กว่างยี่ยิ้มอย่างได้ใจ "จริงๆ คฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลง ยังเป็นสวนด้านใน ธุรกิจที่เป็นธุรกิจสำคัญของสวนด้านในคฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลง คนส่วนมากก็จะไม่รู้ว่าข้างในมีสวนอีก"
"สวนด้านใน มีเพียงบุคคลชั้นสูงที่ของจินหลิงจึงจะสามารถเข้าถึงได้" ไป๋กว่างยี่ทำน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโอ้อวด และขณะที่พูด เขาก็เหลือบตามองไปยังเฉินเฟิงและอาเหาที่อยู่ข้างหลัง แล้วพูดประชดขึ้น "พวกนายสองคนเป็นไอ้บ้านนอก ถือว่าดวงไม่เลว ไอ้หมากู้ตงเชินนั่น ก็ถูกฉันขังไว้ในสวนข้างใน เดี๋ยวถ้าได้เจอกู้ตงเชิน พวกนายก็ลืมตาให้กว้าง แล้วมองทิวทัศน์ด้านใน นี่เป็นสิ่งที่พวกนายจะได้เห็นเป็นครั้งสุดท้าย
เฉินเฟิงยิ้มอย่างตลก เขาถือว่าเข้าใจ ความมีเสน่ห์ของไป๋กว่างยี่อยู่ไหนกันแน่
ไม่ได้อยู่นอกเหนือจากสิ่งที่คาดคิดไว้เลย คุณชายลูกผู้ลากมากดีหุ้นกับไป๋กว่างยี่ในการสร้างคฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลงนี้ออกมา พวกคุณชายที่มีฐานะ ยังไงเบื้องหลังของพวกเขาก็มีอำนาจมากมายอยู่แล้ว อำนาจพวกนั้นที่มีจึงเป็นที่พึ่งพาของไป๋กว่างยี่
พาขับไปอีกสองนาที รถก็จอดลงสักที
นัยน์ตาของเฉินเฟิงหรี่ลงเล็กน้อย ตรงหน้าของพวกเขาคือปราสาทสไตล์ยุโรปที่ดูเก่าแก่
ตรงหน้าประสาท มีบอดี้การ์ดที่สวมใส่ชุดสูทสีดำแล้วใส่หูฟังไว้ บอดี้การ์ดกลุ่มนี้ ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพวกเขาดูเป็นมืออาชีพมากๆ
นัยน์ตาของพวกเขาเฉียดคมเหมือนดั่งตานกเหยี่ยว แม้กระทั่งเฉินเฟิงยังสังเกตเห็นคนที่อยู่ในนั้น มีจำนวนคนไม่น้อยเลยที่เคยไปรบในสนามรบ ทำให้เห็นถึงเสน่ห์ที่เผยออกมาจากตัวของทหารรับจ้างชั่วคราว
และก็ทำให้ยากที่จะจินตนาการ ในภูเขาที่ลึกลับแห่งนี้ จะสามารถสร้างปราสาทเก่าแก่และได้รับการคุ้มครองอย่างหนาแน่นแบบนี้ได้
ทันใดนั้นในใจของเฉินเฟิงจึงได้ล้มเลิกความคิดที่ดูหมิ่นพวกเขาในตอนแรก ปราสาทเก่าแก่นี้มีเจ้าของ และเป็นคนที่เจ้าเล่ห์ ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด และก็ไม่เหมือนไป๋กว่างยี่ที่เป็นคนที่โง่เขลาขนาดนี้
ไป๋กว่างยี่ลงจากรถก่อน เฉินเฟิงและอาเหาจึงตามอยู่ข้างหลัง
พอถึงตรงหน้าประตูปราสาท ก็มีบอดี้การ์ดหนึ่งคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวเราะเดินหน้ามาพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ "คุณชายไป๋ ท่านชิงรออยู่ข้างในแล้วครับ"
ไป๋กว่างยี่ผงกหัวเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น "ฉันจะพาพวกเขาเข้าไปเดี๋ยวนี้" พูดจบก็ปรายตามองเฉินเฟิงแล้วพูดด้วยความดูถูก "ไอ้บ้านนอก ตอนนี้ถ้ารู้สึกเสียใจยังทัน ถ้าเข้าไปข้างในจริงๆ นายอย่าคิดว่าจะได้ออกมาอีก งั้นก็คงเป็นเรื่องที่ยากมากแล้ว! "
เฉินเฟิงคลายยิ้มไม่ได้ตอบกลับ จากนั้นก็เดินเข้าไปตรงประตูใหญ่ของปราสาท
ไป๋กว่างยี่แสยะยิ้ม รอจนกว่าเข้าไปถึงข้างใน กูจะทำให้มึงรู้สึกเสียใจ !
หลังจากเข้าไปถึงปราสาท เฉินเฟิงเพิ่งจะสังเกตเห็นว่า ปราสาทอันใหญ่หลวงขนาดนี้ ไม่มีแม้แต่ใครสักคน!
เวลานี้ไป๋กว่างยี่เอาการ์ดอันหนึ่งออกมา จากนั้นก็ใช้การ์ดรูดประตูอันไฮเทคที่เป็นประตูบานสีดำ ในประตูมีลิฟต์ที่ลงไปชั้นใต้ดิน
"ที่แท้ก็อยู่ชั้นใต้ดินนี่เอง......." เฉินเฟิงพูดขึ้นในใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...