บทที่ 89 ที่พึ่งที่ใหญ่ที่สุด
เวลานี้ มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่สวมใส่ชุดทหารเดินมา เป็นชายหนุ่มที่สูงราวๆ ร้อยแปดสิบกว่าและตัดทรงทหาร รูปร่างสันทัด และเบ้าหน้าดูเป็นคนมีโครงหน้าที่ชัดเจน
พอเห็นทรงผมทหารของชายหนุ่มคนนี้ สีหน้าของไป๋กว่างยี่ดูเคารพนับถือขึ้นมาทันที
"พี่ชิง ผมพาคนมาแล้ว"
ชายหนุ่มที่ไว้ทรงผมทหารพยักหน้า พร้อมกับกวาดสายตามองที่หลิ่วอีอี สายตาหยุดลงตรงใบหน้าอันสวยงามของหลิ่วอีอี จากนั้นก็มองไปยังเฉินเฟิงและอาเหา พร้อมกับถามขึ้นอย่างเอ้อระเหยลอยชาย "มาจากชางโจว? "
เฉินเฟิงพยักหน้า
ชายทรงผมทหารจึงผงกหัวเล็กน้อย "ไม่เลว ถือว่ากล้ามาก"
"ท่านเชินอยู่ไหน? " อาเหาถามขึ้น
ท่านเชิน? ตามฉันมาสิ" ชายทรงผมทหารจึงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ จากนั้นก็เดินไปข้างหน้า
อาเหาจึงตามหลังไป เฉินเฟิงขมวดคิ้วแล้วปรายตามองตรงมุมมืดๆ ที่อยู่รอบตัว ในใจกำลังแอบคิดว่าต้องเกิดเรื่องอะไรที่ยุ่งยากขึ้นแน่ๆ
พอเดินไปอีกสิบกว่าเมตร เฉินเฟิงจึงเห็นคุกที่ถูกตกแต่งใหญ่ไม่กี่ห้อง กู้ตงเชินถูกกักขังไว้ในคุกจริงๆ
แค่ท่าทางของเขาดูน่าสงสารเล็กน้อย ทั้งเรือนร่างของเขาเต็มไปด้วยแผลที่ลึกจนเห็นถึงกระดูก ทั้งตัวของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด และเต็มไปด้วยแผล แม้กระทั่งยังเห็นถึงกระดูกที่ขาวโพลน ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพวกเขาทำร้ายเขาจนเหมือนเห็นเขาไม่ใช่คน
พอเห็นกู้ตงเชินนอนอยู่บนพื้น อาเหาจึงทำนัยน์ตาที่ดูเจ็บปวดทันที
จากนั้นก็เตรียมตัวหันหลังไปลงไม้ลงมือกับชายหนุ่มที่ตัดทรงผมทหาร ใครจะไปรู้ว่าชายหนุ่มทรงผมทหารคาดการณ์ไว้แต่แรก จากนั้นก็ได้ชักปืนออกจากเอวของตัวเอง แล้วกำลังจ่อไปที่ตรงหน้าผากของอาเหา
"แกลองดูได้ ว่ากำปั้นแกไวหรือกระสุนของฉันไว! " หยางชิงจับจ้องอาเหาไว้อย่างเลือดเย็น แล้วพูดขึ้น
อาเหาทำนัยน์ตาที่แดงก่ำ แล้วจับจ้องหยางชิงอย่างไม่คลาดเคลื่อนสายตา หน้าผากของเขามีเส้นเอ็นสีเขียวปูดออกมา ทว่ากลับไม่กล้าลงมือ พอเห็นฝ่ามือของหยางชิงดูด้าน ทำให้เห็นว่าเขาคือยอดฝีมือที่เล่นฝืนบ่อย ยอดฝีมือแบบนี้ สามารถฆ่าเขาก่อนที่เขาจะใช้กำปั้นชกออกไป
หลิ่วอีอีถูกทำให้ตกใจจนหน้าขาวซีด นึกไม่ถึงว่าจะได้เจอที่นี่ ก็เพราะปกติแล้วมันเป็นปืนที่ปรากฏในหนังเท่านั้น
เวลานี้ ไป๋กว่างยี่คลายยิ้มอย่างได้ใจ แล้วหน้าเข้าไปใช้ขาเตะเอวของอาเหา และก่นด่าขึ้น "แกไม่ใช่ว่าต่อสู้เก่งหรือไง? ต่อสิ! "
"แล้วยังมีแก ไอ้บ้านนอก แกไม่ได้เก่งมากหรือไง? ตอนนี้ทำไมไม่ออกเสียงใดๆ ล่ะ? " ไป๋กว่างยี่มองเฉินเฟิงแล้วพูดขึ้นด้วยความเย่อหยิ่ง เขากล้าแน่ใจได้ว่า เฉินเฟิงไม่มีทางนึกถึงว่าในคฤหาสน์นานาชาติจิ่วหลงนี้จะมีปืนแบบนี้
เพราะว่าตอนนี้หวาเซี่ยคุมเข้มกับอาวุธพวกนี้มากๆ แค่เห็นใครกล้าแตะต้องปืน ก็จะมีคนที่มาข้าราชการออกมาต่อต้าน ดังนั้น ปืนถือว่าเป็นแรไอเทม ถ้าเป็นเหมือนชางโจว นอกจากข้าราชการ คุณอยากจะหาปืนจากบุคคลอื่นๆ ที่ทำธุรกิจเทา ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากกว่าการเสด็จขึ้นบนฟ้า
ในตลาดมืด แค่ปืนกระบอกเดียวก็ต้องให้ราคาเป็นหลายแสนแล้ว อีกอย่างต่อให้ให้ราคาสูงแค่ไหนก็ไม่มีฝ่ายอุปทาน
ปืนกระบอกนี้ของหยางชิง เป็นปืนที่ได้มาเพราะเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนๆ นั้นมากๆ จึงซื้อปืนในราคาห้าแสนจากตลาดมืด
"นี่เป็นที่พึ่งพาที่ใหญ่ที่สุดของนายหรอ? " เฉินเฟิงถอนหายใจออกมา แล้วถามอย่างผิดหวัง แน่นอนว่า เขารู้สึกผิดหวัง ทีแรกก็ไป๋กว่างยี่จะสามารถเอาอะไรอย่างอื่นมาจัดการกับเขา ทว่ากลับนึกไม่ถึงว่ามีแค่ปืนกระบอกเดียวเท่านั้น
"แกหมายความอะไร? " ไป๋กว่างยี่หยุดชะงักไปทันที "ไม่ใช่ ตาของแกบอดไปหรือไง แกลองดูดีๆ ในมือของพี่ชิงจับอะไรไว้? "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...