รอจนกระทั่งทุกอย่างสิ้นสุดลง เฉินเฟิงก็วางนายท่านลงไปที่เดิมก่อนจะช่วยสวมเครื่องช่วยหายใจให้กับเขาอีกครั้ง
“แค่นี้ก็จบแล้วงั้นหรอ?สรุปแล้วนายท่านป่วยเป็นโรคอะไรกันแน่?” เฉินเฟิงกล่าวถามด้วยความสงสัย
หลงหลินหันมาถลึงตาใส่เฉินเฟิง ราวกับกำลังตำหนิความอยากรู้อยากเห็นของเขา
เมื่อเห็นอย่างนั้นเฉินเฟิงจึงไม่คิดที่จะไถ่ถามเอาความอะไรอีก แต่กลายเป็นว่าหลงหลินกลับเป็นฝ่ายบอกออกมาเสียเอง : “พิษหนาวจากใจ”
ทันทีที่หลงหลินพูดจบ ทางฝั่งเฟิ่งซีก็อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจทันที : “เป็นไปไม่ได้หรอก อาจารย์เคยบอกว่า พิษหนาว(เป็นพิษทำให้เลือดในร่างแข็งตัวจนเสียชีวิต)แบบนี้มันสาบสูญไปหมดแล้วนี่ พี่ดูผิดไปหรือเปล่า”
เฉินเฟิงที่เดิมทีมีข้อสงสัยอยากจะถามอยู่แล้ว เมื่อได้ยินแบบนี้ก็ยิ่งเกิดความสงสัยมากขึ้นไปอีก
“ตอนแรกฉันก็คิดว่าตัวเองดูผิดไป แต่ว่าฉันตรวจดูไปตั้งสี่รอบแล้ว ซึ่งผลสรุปมันก็ออกมาเหมือนกันหมดเลย และถ้าหากจะต้องเลือกคำตอบใดคำตอบหนึ่งจริงๆ ฉันก็คงจะเชื่อว่ามีใครบางคนฝึกฝนเอา พิษหนาวนี้ออกมาใช้อีกครั้ง”
เฟิ่งซีถึงกับตะลึงงัน ในขณะที่ทางด้านเฉินเฟิงก็ยังคงไม่เข้าใจ : “พิษแบบนี้มันรักษาไม่หายงั้นหรอ?”
เฟิ่งซีกล่าวตอบ: “เมื่อหลายปีก่อนในตอนที่หลินชีงตี้มาหาอาจารย์ก็เป็นเพราะได้รับพิษนี้เข้าไป ซึ่งในตอนนั้นอาจารย์ได้เพียงแค่ชะลออาการกำเริบของพิษนี้บนร่างกายของหลินชีงตี้เท่านั้น โดยไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้”
เฉินเฟิงถึงกับต้องแอบตะลึง ถึงแม้จะรู้ว่าหลินชีงตี้เคยมารับการรักษาอาการป่วย แต่เขานั้นก็ไม่เคยรู้ว่ารักษาโรคอะไร คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมีอาการเดียวกันกับนายท่านเชียน
“แล้วทำไมถึงต้องบอกว่ามันหายสาบสูญไปแล้วล่ะ ทั้งที่หลินชิงตี้ก็ได้รับพิษนี้เข้าไปไม่ใช่หรอ ?ซึ่งระยะเวลาจากตอนนั้นจนถึงตอนนี้ก็น่าจะยังไม่เกินยี่สิบปีด้วยซ้ำ” เฉินเฟิงถามอย่างสงสัย
เฟิ่งซีตอบกลับ: “นั่นก็เป็นเพราะว่าหลินชีงตี้นั่นแหละ หลังจากที่เขาได้สอบถามอาจารย์เกี่ยวกับเรื่องเงื่อนไขของการทำพิษชนิดนี้ขึ้นมา เขาก็ได้เริ่มมีการสืบหา ก่อนที่จะทำการสังหารหมู่ครั้งใหญ่ และด้วยชื่อเสียงและเกียรติยศของหลินชีงตี้จึงสามารถทำให้วัตถุดิบชนิดหนึ่งที่ยากในการสกัดออกมานั้น หมดหนทางที่จะสกัดมันออกมาได้อีก และนั่นเลยเป็นสาเหตุให้พิษชนิดนี้หายสาบสูญไปอย่างกะทันหัน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนหนีรอดจากเหตุการณ์วิบัติครั้งนั้นมาได้”
เมื่อนึกถึงความน่าเกรงขามของมหาปรมาจารย์ เฉินเฟิงก็สามารถเข้าใจได้ในทันที
แต่เขาก็ไม่วายต้องถามกลับอีกครั้ง: “แต่ในเมื่อท่านปูถูสามารถควบคุมพิษชนิดนี้ได้ อย่างนั้นหลงหลินก็คงน่าจะทำได้อยู่มั้ง”
เฉินเฟิงพูดพลางหันไปมองหลงหลิน ในขณะที่หลงหลินเองก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย
แต่ว่าเฟิ่งซีกลับกล่าวแย้ง: “พี่ พวกเรากลับกันเถอะ !เรื่องนี้พวกเราช่วยอะไรไม่ได้หรอก และก็ไม่ควรเข้าไปช่วยด้วย”
หลงหลินถอนหายใจออกมา: “ฉันรู้ว่าเธอกำลังกังวลเรื่องอะไร แต่ด้วยความสัมพันธ์ของนายท่านเชียนและอาจารย์ แล้วไหนจะเรื่องของหยกลายมังกรอีก เรื่องนี้พวกเราจำเป็นต้องทำจริงๆ ”
เฟิ่งซีรีบแย้งกลับอย่างร้อนรน: “แต่ว่าคนที่วางยานั่น……。”
หลงหลินขัดคำของเธอทันที: “เธอไม่ต้องพูดแล้ว ตอนนี้พวกเราอยู่ในบ้านตระกูลเชียน ต่อให้มีคนอยากจะมาแก้แค้นอะไร นั่นมันก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพวกเรา”
เฟิ่งซีเป็นคนที่เชื่อฟังคำพูดของหลงหลินมาแต่ไหนแต่ไร และครั้งนี้ก็ไม่แตกต่างออกไป เมื่อหลงหลินพูดจบ เฟิ่งซีก็ไม่ได้พูดแย้งอะไรอีก แต่ความขุ่นเคืองที่แสดงออกมาบนใบหน้า กลับทำให้เห็นถึงการต่อต้านที่ไร้เสียงภายในจิตใจของเธอ
ทางด้านเฉินเฟิงที่เห็นสีหน้าของหลงหลินนิ่งขึ้นมาอีกครั้ง เขาจึงยิ่งไม่กล้าจะพูดอะไรไปมากกว่านั้น
ทางสามคนออกมาจากในนั้น โดยมีเชียนสวนยี่กำลังเฝ้าดูแลอยู่ด้านนอก
เมื่อเห็นทางสามคนเดินออกมา เชียนสวนยี่ก็รีบเดินเข้าไปหาทั้งสามทันที
เดิมทีเขาเป็นคนที่มองสง่าผ่าเผยอย่างมาก แต่ว่าเพราะความร้อนรนในตอนนี้ จึงทำให้ภาพลักษณ์ของเขาลดลงไปไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้มีใครมาชี้ว่าอะไรเขาได้ เขาเดินเข้ามาพร้อมกับคำถาม: “คุณหนูฉาง ตอนนี้คุณพ่อเป็นยังไงบ้างครับ ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...