“รีบไป!”
เมื่อเฉินเฟิงพูดจบ เขาก็ไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีก ทั้งยังมุ่งหน้าตรงไปยังเฟิ่งซีอีกต่างหาก
เฟิ่งซีที่เห็นอย่างนั้นจึงกรีดร้องออกมาด้วยหวาดกลัว พร้อมกับหลับตาลงอย่างสิ้นหวัง
แต่แล้วก็มีดาบเล่มหนึ่งเข้ามาขวางหน้าเฉินเฟิงเอาไว้ เขาตวาดมือตบลงไปบนดาบเล่มนั้น จนเจ้าของดาบนั้นถอยหลังไปหลายก้าว และในเวลาเดียวกันเฉินเฟิงก็ถูกสกัดเอาไว้
ยังไม่ทันที่เฉินเฟิงจะเข้าไปอีกครั้ง ดาบจำนวนห้าหกเล่มก็ทะยานเข้ามาใส่เขาอีกครั้ง พร้อมกับปิดทางของเฉินเฟิงเอาไว้
และเมื่อมีเหยื่อรายใหม่เข้ามา เฉินเฟิงก็ลืมความคิดที่จะไปจัดการกับเฟิ่งซีไปโดยปริยาย ก่อนจะเข้าไปต่อสู้กับคนห้าหกคนนั้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะใช้วิธีย้อนพลังเพื่อเสริมกำลัง แต่เพราะตอนนี้เฉินเฟิงตัวคนเดียว ต่อให้เขาจะทุ่มกำลังมากแค่ไหน สุดท้ายก็ไม่สามารถหลุดหนีจากการถูกควบคุมอยู่ดี
เขากรีดร้องคำรามออกมาราวกับสัตว์ร้ายที่ถูกกักขังเอาไว้ในกรงเหล็ก แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่สามารถหลุดพ้นไปจากกรงเหล็กนี้ได้สักที
ตอนนี้เวลาของเฉินเฟิงเหลือไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแล้ว อีกทั้งคนที่ถือดาบเหล่านั้นก็ล้วนเป็นคนของตระกูลเชียนทั้งนั้น ซึ่งเมื่อพวกเขาได้เห็นเฉินเฟิงลงมือโดยไม่สนใจอะไรแบบนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีเจตนาทำร้ายเฉินเฟิงแต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น
หลังจากที่เฟิ่งซีหลุดพ้นจากอันตราย ในที่สุดเธอก็ทำจิตใจให้สงบได้เสียที เธอที่เห็นเหตุการณ์ก็กลัวว่าคนของตระกูลเชียนจะทำให้เฉินเฟิงได้รับบาดเจ็บ จึงรีบตะโกนบอกกับพวกเขา แปดเปื้อน “ตอนนี้เขาอยู่ในสภาวะขาดสติ ขอเพียงแค่ผ่านครึ่งชั่วโมงนี้ไปได้ เขาก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม”
คนของตระกูลเชียนต่างไม่รู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเท็จจริงหรือไม่ จึงได้ปรึกษากันขึ้นมาระหว่างที่กำลังต่อสู้กับเฉินเฟิง
โชคดีที่เฉินเฟิงอยู่ภายใต้การล้อมของพวกเขาห้าหกคน จึงไม่มีสิทธิ์ในการตอบโต้ใดๆ ทั้งสิ้น แล้วผลสรุปคือพวกเขาตัดสินใจที่จะยื้อเวลาให้ผ่านครึ่งชั่วโมงนี้ไป จากนั้นก็จะได้รู้ว่าเรื่องนี้เป็นความจริงหรือเท็จสักที
ซึ่งถ้าหากผ่านครึ่งชั่วโมงไปแล้วเฉินเฟิงยังคงไม่ได้สติแบบนี้ ตอนนั้นพวกเขาค่อยจัดการกับเฉินเฟิงก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
เฟิ่งซีที่เมื่อพูดจบก็ไม่ได้สนใจเฉินเฟิงอีก เพราะตอนนี้หลงหลินจะเป็นตายไร้ดียังไงก็ยังไม่รู้เลย เธอจึงรีบวิ่งเข้าไปดูอาการของพี่สาวตัวเองทันที
และคงเป็นเพราะเฟิ่งซีมาทันเวลาพอดี หลงหลินจึงเพียงแค่หมดสติไปเท่านั้น โดยบริเวณแผลมีเลือดไหลออกมา แต่ไม่ได้สาหัสถึงขั้นชีวิต เฟิ่งซีรีบให้การรักษาเธออย่างทันควัน และผ่านไปสักพักหลงหลินคงน่าจะฟื้นขึ้นมา
ทางด้านเฉินเฟิงนั้นเขาก็ถูกสะกดเอาไว้จนครบครึ่งชั่วโมง เมื่อหมดเวลาของวิธีย้อนพลังของเขา สติของของเขาก็ค่อยๆ เริ่มกลับคืนมาอีกครั้ง แต่ว่าความเจ็บปวดตามร่างกายนั้นยังคงแผ่ซ่านออกมาเรื่อยๆ
เขาไม่รู้ว่าเป็นร่างกายของตัวเองนั้นมีความเบาบางกว่าเมื่อก่อนหรือไม่ แต่ว่าตอนนี้เขารู้เพียงแค่ว่าความเจ็บนั้นก็ยังคงยากที่จะรับมือได้ มันเป็นความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูของร่างกาย ไม่ต่างอะไรกับการเป็นตะคริวเลย
ซึ่งเมื่อคนตระกูลเชียนเห็นอย่างนั้นจึงต่างลดดาบลง แต่ว่าในเวลานั้นเขาก็เจ็บปวดอย่างหนักจนหมดสติไปแล้ว
เวลาเพียงคืนเดียว ตระกูลเชียนก็ต้องเผชิญกับเรื่องราวแบบนี้แล้ว จึงทำให้เชียนสวนยี่เกิดความหงุดหงิดใจขึ้นมาอย่างมาก ทั้งที่กำลังได้เห็นอาการของนายท่านเชียนกำลังดีขึ้นมาเรื่อยๆ กลับคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนลอบเข้ามาทำร้ายสองพี่น้องตระกูลฉางแบบนี้ได้
ถ้าหากว่าไม่สำเร็จก็คงจะไม่เป็นอะไร แต่ภายในการดูแลของตระกูลเชียน กลับปล่อยให้คนอื่นมาทำร้ายหลงหลินไปเสียได้ และเมื่อเป็นเช่นนี้จะไม่ให้เขาโมโหได้อย่างไร
และยิ่งเมื่อมองดูไปยังเหล่ายอดฝีมือ ก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจมากขึ้นไปอีกที่แต่ละคนไม่มีใครสังเกตเห็นอีกฝ่ายเข้ามาเลย
ความโกรธที่ควรมีตอนนี้ไปถูกปลดปล่อยไปจนหมดแล้ว แต่อย่างว่าเรื่องนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นความผิดของพวกเขาไปเสียหมด ดังนั้นเมื่อถึงยามที่ต้องปลอบประโลม ก็ควรปลอบประโลม
“พวกเขาทำเหมือนตระกูลเชียนเป็นเพียงทางผ่าน คิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไปเสียดื้อๆ นี่ถือเป็นการท้าทายตระกูลเชียนอย่างมาก ผมรู้ว่าในใจของทุกท่านก็คงจะไม่เป็นสุขเช่นกัน แต่เมื่อตอนนี้เกิดเรื่องเช่นนี้แล้ว พวกเขาได้เหยียบย่ำข้ามหัวพวกเราไปแล้ว แล้วพวกเราจะนิ่งนอนใจอย่างนี้ต่อไปได้อีกหรือ”
เมื่อเขาพูดจบ แน่นอนว่าคนตระกูลเชียนย่อมเกิดความเดือดดาลขึ้นมาเช่นกัน
แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็เหมือนจะทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
เชียนสวนยี่จึงกล่าวเพิ่มเติม: “หลังจากนี้ให้คุ้มกันลานเล็กแห่งนั้นเอาไว้ให้ดี ทุกท่านไปจัดเวลาให้กับตนเอง รอให้นายท่านฟื้นขึ้นมาแล้วพวกเราค่อยวางแผนกันใหม่อีกครั้ง ถ้าหากสามารถรู้ได้ว่าเขาคนนั้นคือใคร พวกเราจะได้ลบล้างความอัปยศนี้เสียที”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยมังกร
คือรำคาญพระเอกแนวนี้มากมีเงินรวยแต่ทำตัวติดดินให้คนดูถูกตัวเอง ดูถูกตัวเองก็ไม่เท่าไรเมียตัวเองต้องมาทนโดนดูถูกไปด้วยเพื่อ..ตระกระความคิดนี้มันยังไง ไม่ต้องอวดรวยก็ได้ แค่รู้จักปรับลุคตัวเอง ให้ไม่ดูติดดินเกินไปจนคนอื่นดูถูกแค่นี้ก็ยากเกินไปรึไง ไม่รำคาญพวกโง่วิ่งมาหาเรื่อง ก็ควรนึกถึกว่าพวกโง่จะหาเรื่องเมียตัวเองด้วยสิ...
งง ตั้งแต่ตอน800มาเนี่ยเหมือนคนละเรื่องเลย แค่พระเอกชื่อเด่วกัน จู่ๆพระเอกก้อไปจีบหลินหวั่นชิวซะงั้น ตัวละครเก่าหายหมด มีแต่ตัวละครใหม่ผุดขึ้นมา ต่อสู้กันแบบไมม่มีสาเหตุ...
อ่านมาถึงตอนนี้ ต้องบอกเลยว่าอ่านไปปวดหัวไป เล่าประวัติพระเอกมาว่าเป็นเด็กที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แม่ตายออกจากบ้านตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เล่ามาซะอย่างกับพระเอกเก่ง ฉลาด ทันคน มีความรู้ อ่านแล้วหงุดหงิดใจริงๆ...