ทั้งที่พยายามห้ามหัวใจตัวเองไม่ได้หวั่นไหวกับการกระทำของคาเรนอีกครั้ง แต่มันกลับไม่ฟังคำสั่งของสมองเลย อิงดาวลอบอมยิ้มกับความน่ารักของมาเฟียหนุ่ม ไม่อยากเชื่อเลยว่าคนที่กำลังโอบกอดเธออยู่ตอนนี้คือคาเรนคนเดิมที่เคยปากร้ายไม่เคยพูดคำหวานกับเธอเลยสักครั้ง ความอ่อนโยนของเขาทำให้หัวใจดวงน้อยทำงานหนักอีกแล้ว
"เธอโกรธฉันใช่ไหมที่วันนั้นฉันไม่ยอมตอบคำถามของเธอว่าชอบเธอรึเปล่า"
"ฉันขอถามใหม่อีกครั้งได้ไหม" เธอเอี้ยวหน้ากลับไปมองเขาตาปริบๆเหมือนที่ชอบทำเป็นประจำเมื่อตอนยังอยู่ด้วยกัน "นายกลับมาหาฉันเพราะมั่นใจในความรู้สึกของตัวเองว่าไม่ได้ชอบฉันตั้งแต่แรก หรือกลับมาเพราะทบทวนตัวเองจนมั่นใจแล้วว่าชอบฉันจริงๆกันแน่"
"คำถามยาวไป ขอเปลี่ยนคำถาม" คาเรนอมยิ้มเล็กน้อย เขาบ่ายเบี่ยงที่จะให้คำตอบ เพราะอยากฟังคำถามเดิมเหมือนในวันนั้นมากกว่า
"งั้นขอถามใหม่" มือบางกำขวดนมแน่น เธอประสานสายตากับมาเฟียหนุ่มอย่างจริงจัง "นายชอบฉันไหม ถ้าชอบฉันจูบฉันนะ"
ใบหน้าคมคายเลื่อนเข้าไปจูบเบาๆตรงมุมปากหลังจบประโยคคำถาม หัวใจดวงน้อยที่เคยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งเหมือนจะหยุดทำงานไปชั่วขณะ เธอคงคาดหวังกับคำตอบของเขามากเกินไป
"นาย...ไม่ชอบฉะ..อื้อ!" แทบหยุดชะงักลมหายใจในวินาทีแรกที่คาเรนขยับริมฝีปากเข้ามาบรรจงจูบอย่างละเมียดละไม เขาจูบเธออย่างอ้อยอิ่งราวกับกำลังส่งผ่านความรู้สึกมากมายให้เธอรับรู้ สัมผัสนุ่มนวลที่เขามอบให้มันมีความหมายมากกว่าคำพูดนับล้านคำ
"ฉันเป็นคนพูดไม่เก่ง เธออย่าเพิ่งน้อยใจนะ ให้การกระทำของฉันมันตอบทุกคำถามของเธอ" คาเรนค่อยๆถอนจูบออกในเวลาต่อมา เขาสบตากับหญิงสาวอย่างจริงจังไม่ต่างกัน ทำเอาพวงแก้มนวลค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย อิงดาวพยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกด้วยการยื่นใบหน้าเข้าไปจูบหนักๆบนริมฝีปากหนาอีกครั้ง เพื่อไม่ให้คาเรนมองเห็นใบหน้าแดงซ่านของตัวเอง
"จูบบ่อยๆระวังฉันหยุดตัวเองไม่ได้นะ" เพราะทนต่อความน่ารักของคนตัวเล็กไม่ไหว คาเรนจึงอดไม่ได้ที่จะเย้าแหย่เมื่อเธอถอนจูบออก
"ไม่ต้องมาหื่นตอนนี้เลยนะ กินนมไปเลย" มาเฟียหนุ่มผงะเล็กน้อยเมื่อจู่ๆก็โดนดันจุกนมเข้ามาในปาก เขาดูดชิมรสชาติของมันสองสามอึก แล้วคืนขวดนมให้เธอ
"รีบกินนมเถอะ ไม่งั้นฉันจะกินนมเธอแทนนะ"
"ความหื่นนี่มันอยู่ในสายเลือดของนายจริงๆสินะ" แม้จะไม่ค่อยถูกใจกับขวดนมสำหรับเด็กที่คาเรนสั่งทำมาให้เท่าไรนัก แต่อิงดาวก็ยอมส่งจุกนมเข้าปากอย่างไม่เรื่องมาก เธอคิดว่าตัวเองคงบ้าไปแล้วที่ยอมทำตัวเหมือนเด็กอย่างที่คาเรนต้องการ
"หายโกรธฉันแล้วใช่ไหม" หญิงสาวพยักหน้าเป็นคำตอบ อันที่จริงเธอไม่ได้โกรธเคืองคาเรนเลยที่เขาไม่ได้ชอบเธอในตอนนั้น เธอเพียงแต่ถอยห่างออกมาเพื่อรักษาความรู้สึกของตัวเองก็เท่านั้น
"วันนี้ดาวสวยดีเนอะ" เธอเงยหน้ามองท้องฟ้าตามคำบอกเล่าของคาเรน แสงระยิบระยับของหมู่ดาวบนท้องฟ้าทำให้เธอไม่อาจละสายตาจากมันได้ ยิ่งไล่สายตามองไปเรื่อยๆ ยิ่งมองเห็นความสวยงามของท้องฟ้าในยามค่ำคืนที่ประดับประดาด้วยหมู่ดาวมากมาย
"ใช่ อยู่ในเมืองไม่เคยเห็นแบบนี้เลยนะ ฉันแทบจะไม่เคยเงยหน้ามองท้องฟ้าในเวลากลางคืนเลย มองไปก็เห็นแต่ตึกสูงๆ"
"แล้วเธอเป็นดาวดวงไหน"
"ดวงที่สวยที่สุด สว่างที่สุด นั่นแหละฉัน" อิงดาวคลี่ยิ้มบาง พร้อมกับทิ้งศีรษะลงบนบ่าแกร่ง
"ไม่ต้องไปเปล่งแสงแข่งกับดาวดวงอื่นหรอก แค่คอยส่องแสงสว่างในหัวใจของฉันก็พอ"
"..." หะ..ให้ตายเถอะ! ใครสั่งใครสอนให้คาเรนพูดจาอะไรแบบนี้เนี่ย เขาไม่รู้บ้างรึไงว่ามันทำให้เธอเขินอายมากแค่ไหน
"นายนี่ชอบเพ้อเจ้อเหมือนกันนะ"
"เขินก็บอกเหอะ"
"แล้วนายล่ะเป็นดาวดวงไหน ดวงนั้นใช่ไหมที่แสงริบหรี่จนมองไม่เห็น" เธอเบี่ยงเบนประเด็นและเย้าแหย่คาเรนในประโยคเดียวกัน
"เพราะตอนนี้ฉันอยู่ในหัวใจของเธอล่ะมั้ง แสงมันเลยริบหรี่ เพราะโดนเธอขังไว้"
"เลิกพูดจาแบบนี้สักทีเถอะน่า ขนลุก"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มาเฟียพ่อลูกอ่อน