มือหนาของเขาเอื้อมมาจับข้อมือเล็กของหญิงสาวยกขึ้น เพชรเม็ดงามประจำตระกูลอวดแสงแวววับบนเรียวนิ้วของเธอ ถึงแม้อายุของมันจะมากกว่าคนสวมใส่ แต่รัศมีความงามกลับไม่ได้ดูด้อยลงแม้แต่น้อย
“แล้วนี่...จะบอกว่าของปลอมงั้นซิ”
“มันไม่ใช่ของฉัน”
“มันไม่ใช่ของเธออยู่แล้ว เพราะเพชรเม็ดนี้เป็นของแม่ของฉัน แต่มันจะไปอยู่กับเธอได้อย่างไรนั้น...เธอน่าจะตอบคำถามได้ดีกว่าฉัน”
ชายหนุ่มเค้นเสียงเยาะ ฉุดหญิงสาวให้เดินตาม “ฮึ! ไงล่ะ...คิดว่าจะมาเป็นเมียฉันง่ายๆ สบายๆ งั้นหรือ คิดผิดแล้ว”
“ฉันยืนยันว่าของชิ้นนี้ไม่ได้เป็นของฉัน ฉันแค่โดนรับฝากมา”
“จดหมายฉบับนี้ก็คงปลอม” ชายหนุ่มโชว์จดหมายที่หญิงสาวถือติดตัวมาให้เธอดู จดหมายที่มีตราของโรงแรมประทับอยู่และด้านล่างยังมีชื่อมารดาของเขาเซ็นกำกับเอาไว้อย่างชัดเจน
คราวนี้หญิงสาวอึกอักพูดไม่ออก เธอไม่รู้ว่าหากพูดออกไปศยามลจะพอใจหรือเปล่า และเพราะไม่ทราบรายละเอียดของการมาครั้งนี้มากจนตอบคำถามได้
“ถ้าไม่ตอบก็มานี่เลย ฉันมีหลักฐานเพิ่มอีกหลายชิ้น วันนี้คงได้จับมิจฉาชีพขโมยแหวนเพชรประจำตระกูลเทวารักษ์ส่งตำรวจ”
หญิงสาวรั้งตัวไว้ไม่ให้เดินตามแรงฉุดไปง่ายๆ แต่อาการเจ็บที่ขากับรูปร่างอ้อนแอ้นเล็กกว่าอีกคนเกือบเท่าตัวก็ไม่สามารถยั้งแรงเขาเอาไว้ได้
“มันเป็นของเจ้านายฉัน” พลอยขวัญโพล่งตอบกลับ แต่ก็ไม่กล้าพูดมากไปกว่านั้นเพราะเธอเองก็ตกกระไดพลอยโจนศยามลไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องที่แท้จริง
“เธอขโมยมันมาแล้วสวมรอยมาเป็นเมียฉันงั้นซิ บทละครง่ายๆ กับผู้ชายโง่ๆ เธอคงใช้มันจนชิน” ชายหนุ่มถามย้ำกึ่งย้อนกรายๆ
แค่นั้นก็ต้อนผู้หญิงที่ไม่เคยโกหกอย่างพลอยขวัญให้จนมุมได้ง่ายๆ เธอจะหาเหตุผลไหนมาอ้าง ในเมื่อเธอก็บอกความจริงเรื่องศยามลตอนนี้ไม่ได้ เพราะถ้าขืนบอกไปแล้วนายสาวไม่ชอบใจ ความซวยก็มาตกอยู่ที่เธออยู่ดี ต้องรออีกสองสามวันให้เจ้าตัวมาอธิบายเองดีที่สุด
“คุณจะคิดอย่างไรก็แล้วแต่ ฉันรู้แค่ว่าฉันจะกลับกรุงเทพฯ ตอนนี้”
“มันจะไม่พูดง่ายไปหน่อยหรือคุณนางแบบขาวีน” ชายหนุ่มเผลอหลุดข้อมูลที่น้องชายบอกมาอีกอย่าง แล้วเขาเองก็เห็นกับตาว่าเธอเป็นนางแบบ ข้อมูลอีกอย่างคือเธอเป็นลูกสาวหม่อมหลวงเจ้าของวังเก่ากลวงๆ ที่เขาเคยไปส่งเธอแล้วกับตัวเอง อย่างนี้หล่อนจะหาเหตุผลใดมาปฏิเสธได้อีก
“ฉันไม่ใช่นางแบบ”
“อ๋อ...ที่ฉันเห็นวันนั้นจะบอกว่าเล่นละครลิงงั้นสิ” ชายหนุ่มเริ่มอยากต่อปากต่อคำมากขึ้น ยิ่งเห็นใบหน้างามซับเลือดฝาดแดงระเรื่อด้วยความโกรธที่โดนต้อนจนมุมเขาก็ยิ่งพอใจ
“แล้วแต่จะคิดก็แล้วกัน หลีกทางด้วย” หญิงสาวสะบัดมือออก กะเผลกขาเดินเลี่ยงออกไป ชายหนุ่มเองก็เพิ่งจะรู้ว่าเธอขาเจ็บด้วย ที่เขาเห็นก็แค่บาดแผลตรงหน้าผากเท่านั้นเอง
วงแขนแข็งแรงกระหวัดรวบเอวบางเอาไว้ พร้อมกับกดจมูกสูดความหอมจากแก้มเนียนระเรื่อจากด้านหลัง ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
“ขาเจ็บ ไปโดนอะไรมา”
คนถูกถามเงยหน้ามองเจ้าของเสียงนุ่มอย่างไม่เชื่อหู สายตาคมที่จ้องมองอยู่ก่อนแทบทำให้คนถูกถามละลายไปกับสายตาสีสนิมทรงพลังของเขา ทั้งแปลกใจระคนเร้าระทึก หัวใจเต้นรัวแปลกๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มายาบรรณาการ