หญิงร่างอ้วนย่อตัวลงนั่งข้างๆ เอื้อมมือไปแตะตัวหญิงสาว
“จริงด้วย หน้าซีด ตัวร้อนเป็นไฟขนาดนี้ต้องรีบพาส่งโรงพยาบาล” สาวร่างอ้วนเงยหน้าขึ้นมองไทยมุง “มีใครว่างพาเธอไปส่งโรงพยาบาลหรือเปล่า พอดีว่าฉันต้องขายของ”
ไทยมุงหลายคนหันหน้าเข้าหากันซุบซิบ คนหาเช้ากินค่ำอย่างแม่ค้า ถ้าให้ไปทำอย่างอื่นก็เหมือนขาดรายได้เป็นวัน ซึ่งก็หมายถึงครอบครัวต้องอดไปด้วย
“ฉันก็ต้องขายของ”
“ผมก็ด้วย ต้องวิ่งรถ”
หลายคนต่างอ้างหน้าที่รับผิดชอบของตัวเอง กรินเงยหน้าบอก
“ผมพาเธอไปเองครับ” เสียงนุ่มบอกพร้อมกับช้อนอุ้มหญิงสาวขึ้น พร้อมกับบอกคนที่ยืนอยู่ “ช่วยเปิดประตูรถให้ผมด้วยครับ”
หนึ่งในไทยมุงรีบกุลีกุจอช่วยเหลือ พวกเขาคงทำได้มากที่สุดแค่นั้น
“ขอบคุณนะพ่อหนุ่มที่ช่วยพาแม่หนูคนนี้ไปโรงพยาบาล” สาวร่างอ้วนบอกอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรครับ ผมไปแล้วนะครับ”
“ขอให้เจริญๆ นะ” แม่ค้าคนเดิมให้พร รถคันหลังเริ่มต่อแถวยาว ไทยมุงน้ำใจงามกลายเป็นปัญหากับการจราจร ชายหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะวิ่งอ้อมมาที่ประตูคนขับตามด้วยเสียงปิดประตูและออกรถไป
พอขึ้นมาบนรถและได้เห็นใบหน้าของหญิงสาวชัดๆ กริชยิ่งมั่นใจว่าหญิงสาวที่เบาะข้างๆ คือพี่สะใภ้คนสวยของตน แต่คนที่จะตอบคำถามและให้ความกระจ่างได้ก็คงจะมีเพียงเจ้าบ่าวป้ายแดงอย่างนายหัวกรินพี่ชายของเขา
ชายหนุ่มไม่ลังเลที่จะต่อโทรศัพท์หาพี่ชาย ทำไมพี่สะใภ้คนสวยถึงมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ในวันเข้าพิธีแต่งงานของตัวเอง
แสงแดดยามสายเริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ นายหัวหนุ่มหลบแดดมานั่งพิงต้นปาล์ม หมุนแหวนในมืออย่างครุ่นคิด รักแสนรัก แต่เธอกลับย้ำรอยเกลียดผู้หญิงในใจของเขาให้ร้าวลึกลงไปได้อีก
แต่ในเมื่อออกปากว่าจะแต่งงานกับศยามล แม้ตอนนั้นต้องการแค่เอาชนะพลอยขวัญ คำพูดของลูกผู้ชายอย่างเขา ไม่สามารถกลับคำได้เช่นกัน ความหนักอึ้งในหัวใจมาแทนที่ เขาจะทนอยู่กับผู้หญิงที่ไม่ได้รัก หรือแม้กระทั่งตัวตนก็ไม่รู้จักได้อย่างไร ในเมื่อคนที่เขาคิดว่าจะเป็นคนสุดท้าย ก็ทรยศเขาได้อย่างเลือดเย็น
เพียงแค่นั้นยังไม่พอ เธอกลับทิ้งแหวนที่เขามอบให้ด้วยความรัก กับเอกสารขอหย่าเอาไว้เย้ยหยัน สิ่งที่เขายังคิดไม่ถึงด้วยซ้ำว่าจะหย่ากับเธอ
งานแต่งงานที่ถูกจัดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงที่จะถึง โดยที่เจ้าบ่าวอย่างเขาไม่ทันตั้งตัว มารดาของเขาก็จัดแจงทุกอย่างไว้เสร็จสรรพ รวบรัดมัดตัวจนเขาดิ้นไม่หลุด และเพิ่งจะบอกเขาเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา แต่ทว่า...สาเหตุหลักก็คงจะมาจากปากพล่อยๆ ของเขา
ศยามลเดินตามเขามาเรื่อยๆ ทั้งที่เกลียดแสนเกลียดไอแดดร้อนๆ แดดยามบ่ายแผดเผาผิวของเธอจนคล้ำ แต่เพราะคำว่าเงินและว่าที่สามีสุดหล่อตรงหน้า ความอยากที่เธอต้องทนฝืนอยู่ต่อ
“นั่นแหวนแต่งงานของเราหรือคะ” เสียงใสของศยามลทักขึ้นขัดจังหวะความคิด ชายหนุ่มเจ้าของบ้านไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าแขกเดินเข้ามา
“ขอศยาดูหน่อยได้ไหมคะ เล็กไปหรือเปล่า” หญิงสาวแบมือขอหน้าด้านๆ เพราะเป็นคนตรงและเปิดเผยจนดูไร้มารยาทไปในบางครั้ง
นายหัวหนุ่มมองศยามลอย่างลังเล ไม่น่าเชื่อว่าลูกสาวผู้ดีจะกล้ามากขนาดนี้ เมื่อสักครู่เธอก็แสดงออกว่าอยากจะเสนอตัวให้เขาเอง คนเป็นแม่ที่เป็นผู้ดีเก่ากลับไม่ปรามลูกสักนิด
“ผมก็กำลังคิดว่ามันเล็กไปสำหรับคุณศยา” ชายหนุ่มบอกเลี่ยงไป แหวนวงนี้เป็นแหวนที่เขาให้พลอยขวัญ แม้จะอย่างไรเขาก็ยังหวงแหนแหวนวงนี้ ทั้งที่เฝ้าย้ำบอกกับตัวเองว่าไม่ได้เก็บเพราะรัก แต่จะย้ำให้เกลียดและไม่ให้ลืมผู้หญิงใจร้ายคนนั้นต่างหาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มายาบรรณาการ