พลอยขวัญแย่งโทรศัพท์ในมือของชายหนุ่มกลับมา เหลือบสายตามองเห็นรุ่นเธอก็ยิ่งโมโห ไม่บ่อยนักที่เธอจะโมโหใครง่ายๆ อย่างนี้
“สภาพอย่างนี้มันน่าอยากได้ไหม พูดไม่คิด” พลอยขวัญมองโทรศัพท์เจ้าปัญหาอย่างเหยียดๆ ถ้าเมื่อห้าปีก่อนโทรศัพท์รุ่นนี้คงจะราคาแพง แต่ตอนนี้ต่อให้เอาไปขายก็คงได้ราคาไม่กี่บาท
“ทำไม” ชายหนุ่มถามเสียงห้วน ยิ่งเห็นสายตาเหยียดๆ ของเธอ ภาพลบของผู้หญิงเมืองกรุงในใจของเขาก็ยิ่งขยายวงกว้างมากขึ้น
“คุณเจอโทรศัพท์ห่วยๆ ของคุณแล้ว ก็คืนกระเป๋าสตางค์ของฉันมา”
“ก็บอกแล้วว่าฉันไม่ได้เอาไป”
“ถ้างั้นโทรศัพท์เครื่องนี้ก็อย่าเอาคืนไปเลย ฉันเก็บเอาไว้ปาใส่หัวหมาตอนมันเห่ายังมีประโยชน์กว่า” หญิงสาวบอก หันหลังเดินออกไปทันที ไม่คืนโทรศัพท์อย่างที่เธอบอกกับเขาจริงๆ
“เฮ้ย...โทรศัพท์ฉันมีค่านะนั่น”
“แต่ฉันไม่คืน ถ้าอยากได้คืนก็เอากระเป๋าของฉันมาแลก”
“หา!” ชายหนุ่มอ้าปากหวอ “ก็บอกว่าไม่ได้เอาไป” ร้องตามหญิงสาวไป แต่อีกคนก็ฝืนความเจ็บของข้อเท้าเดินออกไปแล้ว
“นี่! หยุดเดี๋ยวนี้นะ” ชายหนุ่มร้องตามแต่ร่างของหญิงสาวก็ลับหายเข้าไปในลิฟท์ของลานจอดรถเรียบร้อย เขาได้แต่หันมองตามอย่างโมโห
หญิงสาวเดินกะเผลกกลับถึงห้องจัดงานทันเวลาเฉียดฉิว เวลาตอนนี้กลายเป็นห้องซ้อม หากแต่เสียงเอะอะของศยามลทำให้เธอต้องเร่งฝีเท้าเข้าไปดู ทั้งที่เพิ่งส่งหญิงสาวเข้างานไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
“เฮ้อ...ไปไม่กี่นาทีได้อีกเรื่องแล้วหรือนี่ ไวกว่าที่คิดไว้เสียอีก คุณจะเว้นเวลาให้ฉันหายใจบ้างได้ไหมคุณศยามล” หญิงสาวยกมือเกาศีรษะรำพึงกับตัวเองเสียงเบา แต่ขาก็ต้องก้าวตามเสียงเข้าไป แห้ยิ่งก้าวเธอก็ยิ่งเจ็บ แต่เธอก็ต้องรีบไปให้ทันเวลา
“ฉันไม่ยอมเด็ดขาด” เสียงแปร๋นของศยามลดังขึ้นหลังประตู พลอยขวัญก็เดาออกในทันทีว่าต้องมีใครขัดใจเจ้านายสาวเธอแน่นอน
ทันทีที่มองเห็นพลอยขวัญเดินเข้ามา ศยามลก็เดินสวนเธอออกมา พร้อมกับประโยคคำสั่งที่คุ้นชิน ประโยคที่เธอไม่อยากได้ยินที่สุด
“แกมาก็ดีแล้ว จัดการด้วย...ฉันไม่มีวันเดินงานที่ฉันไม่ได้สวมชุด ฟินาเล่เด็ดขาด เอากุญแจรถมาด้วย” นางแบบสาวสั่งพลอยขวัญและแบมือรับกุญแจ
“เกิดอะไรขึ้นคะ” พลอยขวัญคงความหนักใจเอาไว้ถามเสียงเรียบ
“นั่นเป็นเรื่องที่ฉันควรจะถามแก นังพลอย! เอากุญแจรถมา” ศยามลตวาดกลับเสียงแหลมดังขึ้นกว่าเดิม พร้อมกับแบมือรับกุญแจรถจากพลอยขวัญ
พลอยขวัญยื่นกุญแจรถให้เจ้านายสาวอย่างงงๆ งานเข้าเธอโครมใหญ่อีกแล้วใช่ไหม
“จัดการเสร็จแล้วก็นั่งแท็กซี่กลับก็แล้วกัน แต่ถ้าจัดการไม่ได้แล้วมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น แกก็ต้องรับผิดชอบ เพราะแกเป็นคนรับงาน”
ประโยคทิ้งท้ายง่ายๆ ของเจ้านายสาวที่ปวดหนึบร้าวสุดขั้วหัวใจในความคิดของพลอยขวัญ ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ แต่มันเจอบ่อยจนเธอแทบไม่กล้าสู้หน้าคนจ้างงานต่างหาก เพราะถ้าศยามลไม่ได้งานต่อไปความผิดทั้งหมดก็ตกอยู่ที่เธออยู่ดี
“เดี๋ยวค่ะคุณศยามล” หญิงสาวร้องเรียกเจ้านาย แต่เจ้าของชื่อก็ไม่ใส่ใจต่อคำเรียกสักนิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มายาบรรณาการ