มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1945

หลัวซิวไม่รู้สึกว่าการมีตัณหานั้นเป็นเรื่องน่าอายอะไร อย่างไรซะต่อให้เป็นนักยุทธ์ที่แข็งแกร่งมากแค่ไหน ก็เป็นมนุษย์เช่นกัน เป็นมนุษย์ก็ต้องมีอารมณ์ความรู้สึกความปรารถนาแบบปุถุชนทั่วไป 

แต่ทว่าเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ปณิธานของผู้แข็งแกร่งจะแน่วแน่กว่า จะไม่ถูกตัณหาในจิตใจครอบงำ

ยิ่งกว่านั้นคือหลัวซิวกลับรู้สึกว่าผู้ที่ตัดอารมณ์ความรู้สึกความปรารถนาแบบปุถุชนทั่วไปนั้นน่าสงสารมาก ๆ เนื่องจากเมื่อสูญเสียอารมณ์ความรู้สึกความปรารถนาแล้ว จริง ๆ ก็เท่ากับสูญเสียสันดานเดิมของมนุษย์แล้ว เมื่อมองจากความหมายบางอย่างก็ถือว่าไม่ใช่มนุษย์แล้ว

ส่ายหัวเพื่อสลัดความคิดทั้งหมดในสมองทิ้ง หลัวซิวมาถึงบนศีรษะอสูรดูดจิต ก่อนจะพาจีเสี่ยวจื่อมุ่งหน้าบินไปยังดวงดาวที่มีกระบี่ผงาดตรีภพปักอยู่

เมื่อหลัวซิวควบคุมอสูรดูดจิตย่างกรายมาถึงเหวลึกอีกครั้ง เขาพบว่าถึงแม้คนที่มารวมตัวกันที่นี่จะลดน้อยลงครึ่งหนึ่ง ทว่าจำนวนคนก็ยังเยอะอยู่ดี เห็นได้เลยว่าแรงดึงดูดของกระบี่ผงาดตรีภพนั่นไม่ธรรมดาเลย

ในขณะเดียวกัน หลัวซิวก็สังเกตเห็นว่านักยุทธ์จำนวนมากของที่นี่แบ่งออกเป็นหลายค่าย ภายในนั้นมีคนกำลังประจันหน้ากัน หนึ่งฝ่ายในนั้นคือสตรีสองนาง ซึ่งหลัวซิวก็บังเอิญรู้จักหนึ่งในสตรีทั้งสองพอดี และนางก็คือเสิ่นปิงหยูที่กลั่นแปรปีศาจเพลิงดึกดำบรรพ์กับเขาครั้นเมื่ออยู่ดาราแห่งกาลเวลานั่นเอง

สำหรับสตรีที่ค่อนข้างเจ้าเล่ห์อย่างเสิ่นปิงหยูนั้น หลัวซิวถือว่าจำนางได้ในระดับหนึ่งอยู่ ครั้นเมื่ออยู่บนดาราแห่งกาลเวลา หากเสิ่นปิงหยูเป็นศัตรูกับเขาละก็ ผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นอย่างไรนั้น เป็นสิ่งที่พูดได้ยากมาก ๆ  

โฉมหน้า ณ ปัจจุบันของเขาเป็นรูปร่างลักษณะของร่างแท้ ดังนั้นเสิ่นปิงหยูจึงจำเขาไม่ได้เช่นกัน

“ปิงหยู เราต่างเป็นศิษย์ของวังมหาวาล ควรร่วมแรงร่วมใจกันสิ”ผู้ที่กำลังประจันหน้ากับเสิ่นปิงหยูคือชายหนุ่มที่ดูสุภาพอ่อนโยนคนหนึ่ง

“ซูปิน เจ้าอยากให้ข้าส่งวิญญาณชีวีเสี้ยวหนึ่งให้เจ้า เช่นนั้นเจ้าก็สังหารข้าดีกว่า!”เสิ่นปิงหยูพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ