มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 4

จางเจี๋ยร้องโอดครวญแล้วถอยร่นไป นิ้วทั้งห้าของมือข้างขวาหัก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ

ทุกคนต่างตกตะลึง และไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

มีเพียงตัวของหลัวซิวผู้เดียวเท่านั้นที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ตามหลักทฤษฎีแล้ว ผลการฝึกตนของเขาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าจางเจี๋ย อีกทั้งปราณในก็ไม่อาจเทียบชั้นกับอีกฝ่ายได้ ทักษะยุทธืเองก็อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าจางเจี๋ย แต่หลังจากที่วรยุทธ์ระดับ1ของเขาถูกยกระดับ ก็เท่ากับเป็นการยกระดับวรยุทธ์ที่ฝ่านการฝึกตนมาทั้งหมดแล้วด้วยเช่นกัน จนไต่ขึ้นไปถึงระดับ2 หรืออาจถึงขั้นที่ว่าแข็งแกร่งกว่าระดับ2ก็เป็นได้

ดังนั้นหากต้องประจันหน้ากัน ปราณในของเขาก็ไม่ถือว่าด้อยกว่าจางเจี๋ยเท่าไหร่นัก

อีกทั้งหลังจากที่ร่างกายของเขาหลอมรวมเข้ากับลูกแก้วอัญมณีแห่งความเป็นความตายเรียบร้อยแล้ว หลัวซิวก็มีความสามารถอีกอย่างหนึ่งปรากฏขึ้นมา นั่นก็คือการโจมตีของเขาสามารถทำลายลายเส้นชีวิตของอีกฝ่ายได้ !

ปราณเป็นตาย2ระดับ ปราณแห่งความเป็นสามารถช่วยซ่อมแซมฟื้นฟูลายเส้นชีวิตได้ ส่วนปราณแห่งความตายกลับสามารถทำลายลายเส้นชีวิตได้เช่นกัน

ปราณในของหลัวซิว สามารถสลับสับเปลี่ยนไปมาระหว่างความเป็นและความตายได้

นี่ถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าเหลือเชื่อ ดังนั้นท่าตะครุบอินทรีเหล็กของจางเจี๋ยซึ่งดูเหมือนจะยอดเยี่ยม เมื่อปะทะเข้ากับหมัดของหลัวซิว ทำให้นิ้วมือทั้งห้าของเขาหักลง

การบาดเจ็บส่งผลให้ลายเส้นชีวิตได้รับความเสียหาย ในทางกลับกัน หากลายเส้นชีวิตได้รับความเสียหายโดยตรง ก็จะแสดงอาการบาดเจ็บภายในร่างกายบางอย่างออกมา

“ตุบ !”

หลัวซิวกระทืบพื้นจนฝุ่นตลบ หลังจากที่สำแดงหมัดกระทิงบิ่นออกมา เขาก็ดูเหมือนกระทิงต่อสู้ที่กำลังโกรธเกรี้ยว พุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างดุดันและก้าวร้าว

หลังจากที่นิ้วมือด้านขวาหัก ทำให้ท่าทีบ้าอำนาจของจางเจี๋ยที่ติดจนเป็นนิสัยสลายไปโดยสิ้น เขากลับเดินถอยร่นไปอย่างต่อเนื่องด้วยความตื่นตกใจ

“ไสหัวไป !”

หลัวซิวยกเท้าขึ้นแล้วเตะไปที่หน้าอกของจางเจี๋ย ร่างกายของอีกฝ่ายลอยกระเด็นออกไปราวกับว่าวที่ขาดออกจากสายป่าน

“กรอบ !”

เสียงของกระดูกหักดังขึ้นอีกครั้งซี่โครงของจางเจี๋ยหักไปสองซี่ เขาล้มลงบนพื้นโดยคาดไม่ถึงเลยว่าเรื่องทั้งหมดจะกลายเป็นเช่นนี้ไปได้

เมื่อวานเขาเพิ่มจะพาคนกลุ่มหนึ่งมาดูถูกเหยียดหยามหลัวซิวอยู่เสียด้วยซ้ำ แต่ทว่าวันนี้เรื่องราวทั้งหมดกลับตาลปัตร

“โอ๊ย !” “โอ๊ย !” “โอ๊ย !”

เสียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในลานฝึกยุทธ์ เหล่าบรรดาลูกศิษย์ของสำนักยุทธ์ที่ยืนอยู่โดยรอบต่างตกตะลึง แล้วไม่มีใครกล้าส่งเสียง ทำให้บรรยากาศเงียบสงัด

“บ้าเอ๊ย นี่ข้าไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหมเนี่ย ?”

“คนผู้นี้คือหลัวซิวจริง ๆ หรือ ? เขาสามารถเอาชนะหลี่ห่ายกับจางเจี๋ยได้อย่างนั้นหรือ ?”

ทันใดนั้น บรรดาลูกศิษย์ของสำนักยุทธ์ที่อยู่ในลานฝึกยุทธ์ต่างก็ตกอยู่ในบรรยากาศโกลาหล ทุกคนต่างตกตะลึงจนอ้าปากค้างและหน้าถอดสี

แขนข้างหนึ่งของหลิวห่ายถูกบิดเป็นเกลียว กระดูกของเขาผิดรูป เส้นลมปราณถูกทำลาย

จางเจี๋ยยิ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส นิ้วมือด้านขวาทั้งห้านิ้วของเขาหัก กระดูกว่โครงเองก็หักไปถึงสองซี่

ตั้งแต่เล็กจนโตพวกเขาเป็นฝ่ายทำร้ายคนอื่นมาโดยตลอด แต่ทว่าวันนี้ต่อหน้าบรรดาลูกศิษย์ของสำนักยุทธ์ที่อยู่ในลานฝึกยุทธ์ทุกคน พวกเขากลับถูกทำร้ายจนล้มลงไปกองกับพื้น

และสิ่งที่ทำให้พวกเขายิ่งรับไม่ได้ก็คือ คนที่ทำร้ายพวกเขาจนอับอายขายหน้าต่อหน้าบรรดาลูกศิษย์ของสำนักยุทธ์ และทำให้พวกเขาต้องรู้สึกละอายใจ คือเจ้าสวะที่ถูกพวกเขารุมทำร้ายไปเมื่อวานนี้ !

“เจ้าสวะ เจ้ากล้าทำร้ายข้า เจ้าไม่รอดแน่ !” ความเจ็บปวดบนร่างกาย ทำให้ใบหน้าของจางเจี๋ยเต็มไปด้วยความเคียดแค้น แววตาของเขาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง

“ยังกล้าต่อปากต่อคำอีกหรือ ? ดูเหมือนข้าจะยังลงมือหนักไม่พอสินะ !” หลัวซิวแสดงท่าทีเย้ยหยัน แล้วก้าวขึ้นไปเตะอีกหนึ่งครั้ง

“เศษสวะอย่างเจ้ากล้าริอาจมาลองดูกับข้าหรือ ? ข้าจะให้เจ้าชดใช้อย่างสาสม !” จางเจี๋ยพูดขึ้นด้วยความโกรธ

“ยังจะกล้าขู่ข้าอีกหรือ ?” ดวงตาของหลัวซิวเป็นประกาย เขาใช้เท้าเหยียบลงไปบนมือซ้ายของจางเจี๋ยจนเกิดเสียงดังกรอบขึ้นอีกครั้ง กระดูกข้อมือของเขาหักเรียบร้อยแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ