จู่ ๆ มีเสียงหัวเราะด้วยความเย่อหยิ่งดังขึ้น พร้อมกับถ้อยคำที่เต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม
คำพูดประโยคนี้ดังมาจากปากของชายหนุ่มที่สวมใส่เสื้อแพร และในขณะเดียวกัน ก็มีลูกศิษย์จำนวนหนึ่งของสำนักยุทธ์ที่กำลังฝึกยุทธ์อยู่ในที่ที่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ต่างหันมองมาทางนี้เช่นกัน
ชายหนุ่มที่สวมใส่ชุดแพรคนนี้ก็คือจางเจี๋ย ซึ่งเป็นคนทำร้ายเขาเมื่อคืน เมื่อคืนเขาได้ลั่นวาจาเอาไว้ว่า หากเขาเห็นหน้าหลัวซิวเมื่อไหร่ เขาก็จะทำร้ายหลัวซิวอีกครั้ง ดังนั้นเมื่อเขาเห็นหลัวซิวอยู่ในลานฝึกยุทธ์ เข้าจึงพุ่งเข้าใส่ด้วยท่าทีดุดัน
“คิดที่จะเรียกร้องความสนใจจากหญิงสาวที่ข้าหมายปอง ช่างไม่รู้จักเจียมตัวเอาเสียเลย น้ำหน้าอย่างเจ้าจะรับมือข้ได้สักกี่ครั้ง ? ถ้าหากยอกคุกเข่าลงแล้วคลานไปมาเหมือนสุนัขสักสามรอบ จากนั้นก็กลับมาเลียรองเท้าของข้าให้สะอาด ไม่แน่ว่าวันนี้ข้าจะยอมปล่อยเจ้าไปก็ได้” จางเจี๋ยชี้นิ้วไปที่จมูกของหลัวซิว และหัวเราะออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
หลัวซิวจ้องมองจางเจี๋ยที่ยืนอยู่ตรงหน้าโดยไม่พูดอะไร
ถึงแม้เขาจะชินชากับความอัปยศอดสู ชินชากับคำดูถูกเมื่อต้องเผชิญหน้ากับบรรดาคุณชายผู้สูงศักดิ์เหล่านี้ แต่ความไม่พอใจและโกรธแค้นที่ปะทุขึ้นภายในก้นบึ้งของหัวใจก็ยากที่จะสามารถควบคุมเอาไว้ได้ ทำให้ร่างกายของเขาเกิดอาการสั่นเทาขึ้นมาด้วยความโมโห
“บ้าเอ๊ย เจ้าเป็นใบ้ไปแล้วหรืออย่างไร คุณชายจางกำลังพูดกับเจ้าอยู่ เจ้าไม่ได้ยินหรือ ?” ลูกสมุนที่ยืนอยู่ด้านหลังจางเจี๋ยก้าวเข้ามา แล้วใช้ฝ่ามือตบเข้าที่ใบหน้าด้านซ้ายของหลัวซิว
พวกอันธพาลเหล่านี้ มักมีท่าทีหยิ่งยโสเช่นนี้อยู่เสมอ
คนที่ลงมือกับหลัวซิวมีชื่อว่าหลี่ห่าย ครอบครัวมีฐานะธรรมดา แต่เขารู้จักประจบประแจง วันทั้งวันจะคอยติดสอยห้อยตามจางเจี๋ยอยู่ตลอดเวลา เมื่อคืนที่ทำร้ายหลัวซิว ชายหนุ่มคนนี้ก็ร่วมลงมือด้วยเช่นกัน
“คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าไม่เพียงแต่จะมีชาติกำเนิดที่ต่ำต้อยเท่านั้น แต่สมองยังโง่เง่าเหมือนหมูอีกด้วย คุณชายจางให้โอกาสเจ้าได้คุกเข่าร้องขอชีวิต แต่ในเมื่อเจ้าไม่เห็นค่าของโอกาสนั้น ข้าก็จะตีเจ้าจนกว่าเจ้าจะยอมลงไปคุกเข่าอ้อนวอน !” พูดจบ หลี่ห่ายก็ยกมือขึ้นแล้วฟาดลงไป
ขณะที่ฝ่ามือของเขากำลังจะตบลงไปบนหน้าของหลัวซิว ในตอนนั้นเอง จู่ ๆ ร่างกายของเขาก็รู้สึกเย็นไปทั้งตัว ราวกับว่าตนเองกำลังถูกสัตว์ร้ายจับจ้อง ทำให้การเคลื่อนไหวของเขาพลันช้าลง
ฮะ ! เป็นหลัวซิวที่กำลังจับมือของเขาเอาไว้แน่นด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
ทำไมข้าจะไม่มีสิทธิ์ตอบโต้บ้าง !
ทำไมข้าจะต้องเป็นฝ่ายอ้อนวอนขอร้อง !
ทำไมข้าโดนดูถูกแล้วยังจะต้องคุกเข่าลงอีก !
ข้า ! ไม่ใช่หลัวซิวคนเดิมอีกต่อไปแล้ว !
“หึ ! สุนัขข้างถนนอย่างเจ้าคิดที่จะตอบโต้อย่างนั้นหรือ ? ดูเหมือนครั้งก่อนกระดูกของเจ้ายังหักไม่มากพอสินะ ! ครั้งนี้ข้าจะตีให้แหลกทุกท่อนเลยทีเดียว !” หลี่ห่ายตะโกนออกมาด้วยความโกรธ แล้วยกเท้าเตะไปที่หน้าอกของหลัวซิว
หลัวซิวขยับร่างกายเพื่อหลบหลีกการเตะ จากนั้นจึงจับมือของอีกฝ่ายเอาไว้แล้วบิดอย่างแรง จนแขนของหลี่ห่ายบิดจนแทบเป็นเกลียว
“โอ๊ย !......” หลี่ห่ายร้องโอดครวญออกมาเสียงดัง เขารู้สึกเจ็บปวดจนน้ำตาไหล
“สุนัขรับใช้ที่เห็นใครก็พุ่งเข้าไปกัด ในปากก็เต็มไปด้วยอุจจาระเหม็นเน่าอย่างเจ้า ยังจะล้าพูดจาดูถูกสุนัขอีกหรือ !” หลัวซิวส่งเสียงเย้ยหยัน จากนั้นจึงใช้เท้าเตะหลี่ห่ายจนลอยกระเด็นออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...