มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 918

เพียงชั่วพริบตา เวลาหนึ่งปีก็ผ่านพ้นไป หลัวซิวหลงทางอยูในอนัตตาไม่สิ้นเป็นเวลาหกปีแล้ว

ในวันนี้อยู่ดี ๆ เขาก็พลันลืมตาขึ้นมาและเหลือบตามองขึ้นไปด้านบน ใบหน้าเผยความตื่นตกใจออกมา

ที่ปลายทางของอนัตตาไม่สิ้น กลับปรากฏตำหนักแห่งหนึ่งลอยอยู่กลางอากาศ

“ตำหนักโบราณลอยฟ้า? หรือว่าที่แห่งนี้ยังมีคนอาศัยอยู่ด้วย?”

เมื่อหลัวซิวมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่านั่นคือตำหนักจริง ๆ ในใจก็พลันรู้สึกตื่นตะลึงขึ้นมาอีกครั้ง

ที่กลางอนัตตาไม่สิ้นบังเอิญพบกับร่างของผู้แข็งแกร่งแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ เดิมทีก็เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมากอยู่แล้ว ในเวลานี้ยังเจอตำหนักอีก มันช่างเป็นเรื่องน่าประหลาดใจจริง ๆ

นี่คือตำหนักที่มีสีม่วง รอบตำหนักนั้นมีรัศมีสีม่วงแผ่กระจายออกมา ยึดปริภูมิเอาไว้ ถึงแม้ว่าปริภูมินั้นจะเกิดความปั่นป่วนหรือเกิดพายุพัดพาเข้ามา ที่ตำหนักแห่งนี้ก็ยังคงตั้งมั่นอยู่ไม่สั่นไหว ลอยอยู่ ณ สถานที่อันห่างไกล

ถึงแม้ว่าระยะห่างจากไกลอยู่มาก หลัวซิวก็ยังรู้สึกได้ถึงความเก่าแก่และผันผวนของออร่า ราวกับว่าตำหนักแห่งนี้ตั้งอยู่ที่นี่มานานนับแสนปี หรือบางทีอาจจะเป็นล้านปีแล้วก็เป็นได้

“เห้อหมิง เจ้าไป”

หลัวซิวชี้นิ้วออกไป ร่างหนึ่งที่สวมชุดสีดำทั้งตัวก็พุ่งตัวออกไปยังตำแหน่งที่ตั้งของตำหนักสีม่วงทันที

ร่างนี้ไม่ใช่ภูตมรณะมารเทพ แต่เป็นผู้แข็งแกร่งแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ที่ชื่อว่าเห้อหมิงคนนั้น เขาถูกหลัวซิวกลั่นแปรให้เป็นภูตมรณะ

ส่วนชุดเก้ามังกรถูกหลัวซิวสวมใส่เอาไว้บนร่างของตนเอง ดังนั้นจึงได้หาเสื้อผ้าอื่นมาให้เขาสวมเอาไว้แทน

ถึงแม้เพราะถูกกลั่นให้เป็นภูตมรณะ ดังนั้นพลังจึงได้ลดลงอยู่ในระดับเจ้ายุทธจักร แต่เพราะร่างเนื้อคือร่างยุทธ์แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ ที่สามารถอยู่ในสถานที่ส่วนใหญ่ของอนัตตาไม่สิ้นแห่งนี้ได้ ไม่เช่นนั้นผ่านไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปีแล้ว แต่ร่างเนื้อก็ยังคงถูกเก็บเอาไว้อย่างสมบูรณ์

หลังจากนั้น เห้อหมิงก็เหาะมาถึงบริเวณใกล้เคียงของตำหนักสีม่วงแล้ว ม่านปราณม่วงตรึงรอบทั้งเขตตำหนักในรัศมีสิบกว่าเมตร ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีอันตรายใด ๆ แฝงอยู่ในนั้น

หลัวซิวก็พาภูตมรณะมารเทพบินตรงเข้ามาด้วย ที่นอกเขตม่านปราณม่วงตรึงที่รอบตำหนัก เงยหน้าขึ้นไปมองตำหนักแห่งนั้นที่ลอยอยู่กลางอากาศ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ