มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1175

“แม้ผลการฝึกตนจะถูกกดอัดลงมาอยู่มหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 ขั้นสูง แต่ผลการฝึกตนของร่างกลหลี่ยู่กลับเทียบทัดกับเทพมารช่วงกลาง ตกลงผลการฝึกตนต้องอยู่ระดับใดกันแน่ ถึงจะสามารถสยบกลั่นแปรสำนักเต๋าบานนี้ได้?”

หลัวซิวขมวดคิ้วแน่น“หรือว่าแดนกฎของข้ายังไม่เพียงพอ?”

สำนักเต๋าเสวียนเทียนนี้มีความลี้ลับอันลึกซึ้งของกฎปริภูมิซ่อนอยู่ และปัจจุบันการตระหนักรู้ของเขาที่มีต่อกฎปริภูมิอยู่ในช่วงบรรลุผล เมื่ออยู่ในระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ก็จัดได้แค่อยู่ในระดับทั่วไป 

“ในเมื่อไม่สามารถกลั่นแปรได้ เช่นนั้นก็ใช้อำนาจฝืนยึดครองมันไปเลยแล้วกัน!”

หลัวซิวหยีตาลงเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะกระตุ้นวรยุทธ์ในทันที นำผลการฝึกตนทั้งหมดยักย้ายถ่ายเทเข้าไปยังตำหนักจื่อเซียวในห้วงจักรหยั่งรู้ 

“โครม!”

ภายใต้การยักย้ายถ่ายเทผลการฝึกตนทั้งหมด ทำให้ตำหนักจื่อเซียวที่ชำรุดหลังนี้สั่นสะเทือน ราวกับพระเจ้าที่หลับลึกกำลังจะฟื้นตื่นขึ้นมายังไงอย่างนั้น 

ระดับขั้นของตำหนักจื่อเซียวนี้สูงมาก ๆ เป็นทรัพย์สมบัติที่สำคัญที่กลั่นโดยราชาเทพ แม้มันจะชำรุดแต่กลับไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปสามารถควบคุมได้

ภายใต้สถานการณ์ที่หลัวซิวยักย้ายถ่ายเทผลการฝึกตนทั้งหมดเข้าไป เขาก็แค่สามารถทำให้ตำหนักนี้สั่นไหวชั่วขณะเท่านั้น ยังห่างไกลจากระดับที่สามารถเรียกมันออกมาและปลดปล่อยอานุภาพของมัน

“เจ้าหนู เจ้าคิดว่าจะสามารถกระตุ้นตำหนักจื่อเซียวได้ง่าย ๆ อย่างนั้นหรือ? ไม่ต้องพูดถึงผลการฝึกตนที่ต่ำเกินไปของเจ้า การจะควบคุมตำหนักจื่อเซียวนั้น ยังต้องใช้วิชาพลังอมตะพิเศษเท่านั้นถึงจะสามารถควบคุมมันได้”เสียงของจิตภัณฑ์หงเทียนดังขึ้นอย่างกะทันหัน

“ส่งมา!”หลัวซิวพูดกระแทกเสียงอย่างเยือกเย็น ตำหนักจื่อเซียวเป็นสมบัติที่หงเทียนฝึกเซ่นขึ้นมา วิชาพลังอมตะพิเศษที่กล่าวถึงนั้น จึงมีเพียงเขาเท่านั้นที่ทราบ

“จากผลการฝึกตนของเจ้า ไม่สามารถกระตุ้นตัวตำหนักจื่อเซียวได้หรอก แต่ทว่าก็สามารถเรียกภาพมายาของศัสตราวุธแห่งราชาออกมาได้อยู่ บางทีอาจจะมีโอกาสยึดครองสำนักเต๋านี้ไปก็เป็นได้”

หงเทียนไม่ได้พูดอะไรมากนัก เบ้ปากก่อนจะถ่ายทอดวิชาควบคุมตัวตำหนักจื่อเซียวให้แก่หลัวซิว แล้วพูดอย่างอิจฉา: “นี่มันสำนักเต๋าเสวียนเทียนเลยนะเนี่ย หากฝึกเซ่นยกระดับขั้นของมันอย่างต่อเนื่องละก็ ไม่แน่มันน่าจะพัฒนากลายเป็นสำนักเต๋าอัญมณีชิ้นที่สองก็เป็นได้!”

“มหาอิทธิฤทธิ์ระดับราชาเทพ!”

เมื่อได้รับวิชาควบคุมน้ำหนักจื่อเซียว หลัวซิวก็รู้สึกตะลึงอยู่เล็กน้อย เขาทราบอยู่ว่าหงเทียนเป็นอดีตราชาเทพ จึงต้องมีวิชาพลังอมตะที่สูงลึกมาก ๆ เป็นธรรมดาอยู่แล้ว

แต่ทว่าปากของเจ้าหงเทียนนี่กลับแข็งมาก ๆ ให้ตายยังไงก็ไม่ยอมถ่ายทอดวิชาของตัวเองให้แก่เขา

การประนีประนอมในครั้งนี้ก็เพื่อทำให้ได้ยึดครองสำนักเต๋าเสวียนเทียนเช่นกัน การที่มันสามารถทำให้หงเทียนให้ความสำคัญเช่นนี้ อีกทั้งพึมพำระลึกจดจำอยู่ในใจมาเสมอนั้น ก็พอจะเห็นได้แล้วว่าสำนักเต๋านี้ไม่ธรรมดามากเพียงใด

ตำหนักจื่อเซียวคือมหาอิทธิฤทธิ์ระดับราชาเทพ เมื่อใช้พลังอมตะนี้ฝึกเซ่นตำหนักได้หนึ่งหลัง ก็ยิ่งสามารถทำให้พลานุภาพของพลังอมตะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ยิ่งใหญ่เกรียงไกรจนมิอาจมีผู้ใดต่อกลอนด้วยได้

แต่ทว่าหลัวซิวกลับพบว่าพลังอมตะนี้มีส่วนบกพร่อง จากคำพูดของหงเทียน เขาบอกว่าถึงแม้จะเป็นตัวเขาเอง ก็ไม่ได้รับพลังอมตะมาในแบบที่สมบูรณ์ครบถ้วน

“มาตรแม้นเป็นพลังที่ไม่สมบูรณ์ครบถ้วน แต่ก็เป็นมหาอิทธิฤทธิ์ระดับราชาเทพ หากเป็นพลังที่สมบูรณ์ครบถ้วนละก็ เช่นนั้นมันจะไม่บรรลุถึงระดับมกุฎเทพหรือจักรพรรดิเทพเลยหรือ”หลัวซิวแอบตะลึงงัน และรู้สึกใฝ่หาในโลกาโกลาหลที่เป็นถิ่นกำเนิดของหงเทียน 

หากบอกว่าโลกแสงดาวเป็นจุดเริ่มต้นของเขา เช่นนั้นโลกเสวียนเทียนก็เป็นแค่จุดพักจุดเดียวเท่านั้น เป้าหมายสูงสุดของเขาคือเดินทางไปยังมหาโลกา ไปสำรวจมหาพิภพ!

ใช้หมื่นจักรวาลไร้รูปมาอนุมาน หลัวซิวก็เรียนรู้แก่นสารของวังเซียนจื่อเซียวได้แล้ว เสี้ยวนาทีที่ใช้จิตนึกคิด ตำหนักจื่อเซียวที่ชำรุดก็สั่นไหวขึ้นมาอีกครั้ง 

จากการที่ผลการฝึกตนของหลัวซิวถูกตำหนักจื่อเซียวดูดกลืนดุจกระแสน้ำอย่างต่อเนื่อง บนอากาศเหนือศีรษะเขา มีปราณม่วงตลบฟุ้งไปทั่ว ก่อนที่จะมีเงาลวงของตำหนักจื่อเซียวปรากฏออกมาให้เห็น

ปราณม่วงหนึ่งแผ่กระจายออกไป พันธนาการสำนักเต๋าเสวียนเทียนเอาไว้ เงาลวงของสำนักเต๋าเสวียนเทียนสั่นไหวแล้วดึงสำนักเต๋านั่นขึ้นมา

เห็นเพียงขนาดของสำนักเต๋าเสวียนเทียนยิ่งอยู่ยิ่งเล็กลง เมื่อมันใกล้เข้ามาตรงหว่างคิ้วของหลัวซิว ขนาดของมันก็หดเล็กลงจนเท่าเล็บนิ้วมือ ก่อนที่มันจะหายเข้าไปตรงหว่างคิ้วของเขา

 

####บทที่ 1176

“ดูดเอาไปแล้วหรือ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ