“เจ้าหนูแซ่หลัว อย่าให้มันมากนักนะ !” จ้าวเหลี้ยงพูดขึ้นด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
“การเดิมพันครั้งนี้เจ้าเป็นคนเสนอเอง แล้วทำไมจู่ ๆ ถึงกลับคำเสียล่ะ ? ทุกคนกำลังมองดูเจ้าอยู่นะ !” หลัวซิวพูดพลางยิ้มเยาะ
ในฐานะที่เป็นผู้ที่มักจะโดนดูถูกให้อับอาย หลัวซิวรู้ดีว่าหากวันนี้เขาละเว้นจ้าวเหลี้ยง อีกฝ่ายไม่เพียงแต่จะไม่รู้สึกซาบซึ้งเท่านั้น แต่จะจดจำความแค้นที่มีต่อตนเองเอาไว้อีกด้วย
“ฝึกทักษะยุทธ์ได้ดี ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีพละกำลังที่แข็งแกร่ง เจ้าอย่าคิดได้คืบจะเอาศอกไปหน่อยเลย !” จ้าวเหลี้ยงเผยแววตาที่โหดเหี้ยมออกมา
“ใช่แล้ว หลัวซิว ในเมื่อเจ้าชนะแล้ว ทำไมยังจะต้องทำให้ต่างฝ่ายต้องลำบากใจด้วยล่ะ ?”
“ทุกคนล้วนเป็นลูกศิษย์ของสำนักยุทธ์เหมือนกัน อย่างไรเสียก็ต้องพบเจอหน้ากันอยู่ดี หากเจ้าต้องการให้จ้าวเหลี้ยงก้มหัวคารวะเพื่อรับผิดจริง ไม่คิดว่ามันเกินกว่าเหตุไปหน่อยหรือ”
ในฝูงชน มีบางคนที่โดยปกติมีความสัมพันธ์อันดีกับจ้าวเหลี้ยงได้เอ่ยปากพูดขึ้นมา
แววตาของหลัวซิวเย็นชา เขาเหลือบไปมองคนที่พูดขึ้นเหล่านี้ แล้วแสยะยิ้มออกมาพลางพูดว่า : “ถ้าหากคนที่แพ้คือข้า พวกเจ้าจะปล่อยข้าไปอย่างนั้นหรือ ?”
คนเหล่านี้เมื่อถูกหลัวซิวเหลือบมอง ต่างก็ถอยร่นไปด้วยความหวาดกลัว อันที่จริงแล้วทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่ใช่คนโง่ เพียงแต่ไม่มีใครออกมาพูดเข้าข้างหลัวซิว เพราะไม่อยากล่วงเกินจ้าวเหลี้ยง
“ข้าจะทำให้เจ้าพิการซะ !”
ในขณะที่หลัวซิวกำลังข่มขู่คนเหล่านั้นอยู่ จ้าวเหลี้ยงซึ่งยืนอยู่ตรงข้ามเขาก็รีบชิงลงมือในทันที ใบหน้าของเขาดุร้าย แขนทั้งสองข้างของเขาราวกับงูเหลือมที่เกี่ยวพันกันอยู่ ปราณในเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง
นี่เป็นอีกหนึ่งทักษะยุทธ์ที่อยู่ในระดับ3 เรียกว่า หมัดงูพิษคู่ ถึงแม้ไม่ทรงพลังเท่าหมัดแสงหลัว แต่ก็ลงมือด้วยความว่องไว ทำให้คู่ต่อสู้ไม่อาจป้องกันตัวได้ทัน
เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่มีวันยอมก้มหัวคารวะเพื่อขอโทษเด็ดขัด ดังนั้นจึงมีเพียงแค่การทำให้หลัวซิวพิการเท่านั้น ถึงแม้จะถูกคนอื่นกล่าวหาว่าไร้ยางอาย แต่ยังดีกว่าการไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้อีกเลยตลอดชีวิต
หลัวซิวเองก็คิดไม่ถึงว่าจ้าวเหลี้ยงจะเป็นคนที่ร้ายกาจได้ถึงเพียงนี้ ตอนที่อีกฝ่ายพุ่งตรงเข้ามาเพื่อโจมตีที่เอวของเขาโดยตรง หากถูกปะทะเข้าจริง ๆ ไม่ตายก็คงจะต้องพิการอย่างแน่นอน
“ท่ามังกรทะยาน !”
หลัวซิวตะโกนออกมาด้วยความโกรธ เขาเคลื่อนไหวปราณในจนถึงขั้นสูงสุด จากนั้นจึงกระโดดลอยตัวขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตี เขาเหยียดแขนทั้งสองข้างออกไป ราวกับมังกรที่กำลังโลดแล่นอยู่บนท้องฟ้า และพุ่งเข้าโจมตีจ้าวเหลี้ยงอย่างจัง
จ้าวเหลี้ยงหน้าถอดสี เขาคิดไม่ถึงเลยว่าหลัวซิวจะสามารถหลบหลีกการโจมตีของเขาได้อย่างฉิวเฉียดเช่นนี้ มิหนำซ้ำยังโจมตีกลับมาได้อีก
เขารีบเปลี่ยนกระบวนท่า มือทั้งสองข้างปรากฏแสงสว่างจาง ๆ ออกมา เขาเลือกโจมตีโดยใช้ทักษะยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา หมัดแสงหลัว
“ตุบ !”
หมัดของทั้งสองคนปะทะกัน คนที่อยู่รอบข้างต่างรับรู้ได้ถึงความรู้สึกเจ็บปวดบนใบหน้าจากการที่ถูกกระแสลมพัดผ่านหน้าไป
ร่างกายของจ้าวเหลี้ยงสั่นเทา หมัดของเขาเกิดความรู้สึกเจ็บปวดขึ้นอย่างรุนแรง กระแสเลือดปั่นป่วนอยู่ในปราณใน จนเขาแทบจะกระอักเลือดออกมา
“คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้ !”
ตอนนี้เอง หลัวซิวยื่นมือออกไปจับ ปฏิกิริยาแรกของจ้าวเหลี้ยงคือการยกมือขึ้นป้องกัน แต่แขนทั้งสองข้างของจ้าวเหลี้ยงราวกับสูญเสียความรู้สึกไปแล้ว และไม่ยอมเชื่อฟังเขา
ฝ่ามือของหลัวซิวเคลื่อนใกล้ใบหน้าของเขาเข้ามาทุกที ๆ แล้วกดลงไปบนหัวของเขา
มีแรงมหาศาลที่ปะทะลงมาบนร่างกาย จากนั้นเข่าทั้งสองข้างของเขาก็รู้สึกเจ็บปวด เขาถูกปลายเท้าของหลัวซิวเตะเข้า จนคุกเข่าลงนั่งดังพรวด
“ชายชาตรีต้องรักษาสัจจะ กล้าเดิมพันก็ต้องกล้ายอมรับความพ่ายแพ้”
ใบหน้าของหลัวซิวเย็นชา เขากดหัวของจ้าวเหลี้ยงลงไปโขกกับพื้นดังตุบ
ความเจ็บปวดบนร่างกาย ไม่สู้ความอัปยศอดสูที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ จ้าวเหลี้ยงโกรธแค้นจนถึงขีดสุด เขากระอักเลือดออกมาและหมดสติไปในทันที
บรรยากาศโดยรอบเงียบสงัด ไม่มีใครคาดคิดเลยว่า ผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นเช่นนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...