“ภายในเวลาอีกไม่ถึงสองปี แดนปริศนาก็จะเปิดออกแล้ว จะต้องเป็นการต่อสู้กันระหว่างผู้แข็งแกร่งอย่างแน่นอน ก่อนที่แดนปริศนาจะเปิด จะมีการประลองเกิดขึ้น กองกำลังต่าง ๆ จากทั้งสิบสามเขต ถึงเวลานั้นก็จะส่งคนมาเข้าร่วม”
นี่เป็นครั้งที่สองที่หลัวซิวได้ยินเกี่ยวกับแดนปริศนาแล้ว แต่ไม่รู้ว่าแดนปริศนานี้เมื่อเทียบกับแดนนานาอสูรแล้ว จะเป็นเช่นไรบ้าง ?
แดนปริศนา เป็นพื้นที่พิเศษที่ผู้แข็งแกร่งในสมัยโบราณทิ้งเอาไว้ มีความลึกลับนานาประเภทซ่อนอยู่
ในอาณาเขตของประเทศเทียนหวู มีแดนลึกลับขนาดใหญ่ทั้งสิ้นสามแห่งได้แก่ แดนปริศนา แดนอเวจี และแดนนานาอสูร
ในแดนปริศนาเต็มไปด้วยบรรยากาศที่หนาวเหน็บ ในสภาพแวดล้อมที่พิเศษเช่นนั้น เป็นสถานที่ที่ให้กำเนิดสมบัติของโลกและสวรรค์ขึ้นมากมาย รวมไปถึงสมบัติล้ำค่านานาชนิด
ไม่ว่าจะฝึกตนด้วยพลังเช่นไร เมื่ออยู่ในแดนปริศนาก็จะได้รับประสมการณ์และสิ่งที่เป็นประโยชน์มากมายมหาศาล
ข้อสันนิษฐานเพียงอย่างเดียวที่มีอยู่ก็คือ เราสามารถใช้ชีวิตอยู่ในแดนปริศนาได้
กองกำลังต่าง ๆ ในประเทศเทียนหวูต่างมีสถานการณ์ที่ซับซ้อน คนที่จะเข้าไปในแดนปริศนาได้มีจำนวนจำกัด จึงจำเป็นต้องต่างฝ่ายต่างแย่งชิง อีกทั้งการเข้าไปในแดนปริศนามีข้อจำกัดว่าต้องมีอายุต่ำกว่าสามสิบปี และอยู่ในระดับแดนพรสวรรค์ขึ้นไป !
หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในการเข้าสู่แดนปริศนา ต่อให้เป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่ง ก็ไม่อาจหาวิธีบุกรุกเข้าไปในแดนปริศนาได้
ปกติแล้วการประลองจะถูกจัดขึ้นล่วงหน้า ทั้งสิบสามเขตมารวมตัวกัน จะมีเพียงสิบคนเท่านั้นที่ได้รับคัดเลือก นั่นหมายความว่าคนที่ทำผลงานได้ดีที่สุดสิบอันดับแรก จึงจะมีโอกาสเข้าไปในแดนปริศนา
นอกจากนี้ ทั้งหกเมืองของประเทศเทียนหวู ต่างก็มีสิบอันดับรายชื่อของตนเอง ราชวงศ์ของประเทศเทียนหวูเอง ก็มีสิบอันดับรายชื่อด้วยเช่นกัน
เมื่อรวมเข้าด้วยกันแล้ว จะมีรายชื่อที่สามารถเข้าไปในแดนปริศนาได้ทั้งสิ้นแปดสิบคน !
ผู้ฝึกตนในประเทศเทียนหยู มีอยู่นับร้อยล้านคน เมื่อได้รายชื่อทั้งแปดสิบอันดับออกมาแล้ว พวกเขาทั้งแปดสิบคน ก็จะเป็นตัวแทนคนหนุ่มสาวที่แข็งแกร่งที่สุดของประเทศเทียนหวู
นี่เป็นการประลองครั้งใหญ่ของเหล่าอัจฉริยะ
ในองค์กรนักล่ายุทธ์ หลัวซิวได้รับห้องลับในการฝึกตนส่วนตัว
ภายในห้องลับ หลัวซิวนั่งขัดสมาธิอยู่ เขาหยิบหินพลังจิตระดับกลางในแหวนเก็บของออกมา รวมไปถึงหยิบหินพลังจิตระดับสูงจำนวนหนึ่งที่เคยได้รับเป็นของที่ระลึกจากจักรพรรดิซูจิ้งหยุนออกมาด้วย
หินพลังจิตเหล่านี้วางกองรวมกันอยู่ สมบัติเหล่านี้ส่องสงประกายแวววาว จนสว่างไปทั่วทั้งห้องลับ แผ่ซ่านพลังฟ้าดินจิตอันเข้มข้นออกมา ระหว่างที่กำลังหายใจก็สัมผัสได้ถึงผลการฝึกตนของตนเองที่ค่อย ๆ สูงขึ้น
หลัวซิวหยิบอุปกรณ์ค่ายผนึกปราณขั้น 5 ออกมา เตรียมที่จะอาศัยพลังของหินพลังจิตเหล่านี้ ทำให้ผลการฝึกตนบรรลุถึงแดนพรสวรรค์ขั้น 9
เมื่อเทียบกับประเทศเทียนหวูแล้ว เขตการปกครองหยุนหลงและโตว้ไห่ ไม่มีความสำคัญอะไรเลยสักนิด และเมื่อเทียบกับโลกที่กว้างใหญ่นี้แล้ว ประเทศเทียนหวูเอง ก็ไม่มีความสำคัญเลยสักนิดเช่นเดียวกัน
ระหว่างที่กำลังใช้ความคิด วงล้อชีวิตแห่งเหล่าทวยเทพตรงจุดตันเถียนในชี่ไห่ก็เกิดการหมุนขึ้น หลัวซิวมั่นใจในตัวเองอย่างมากว่า การก้าวเดินของเขาจะไม่ถูกจำกัดอยู่แค่ตรงนี้อย่างแน่นอน
“แต่ก่อนหน้านี้ ก่อนอื่นต้องยกระดับความแข็งแกร่งของตนเองให้เพิ่มขึ้นเสียก่อน เพื่อครอบครองความสามารถของจักรพรรดิยุทธ์แล้ว จึงจะสามารถหยัดยืนในประเทศเทียนหวูได้ และไม่จำเป็นต้องคอยสังเกตสีหน้าของคนอื่นอีกต่อไป”
สูดหายใจเข้าเต็มปอดหนึ่งครั้ง หลัวซิวรู้ดีว่าถึงแม้ตนเองจะมีศักยภาพ แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขายังอ่อนแอเกินไป เขาในตอนนี้ แม้แต่ผู้แข็งแกร่งในระดับฝึกจิตขั้น 4 ขึ้นไปสักคน เขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้อยู่ดี
เคลื่อนไหววรยุทธ์ พลังฟ้าดินจิตอันเข้มข้นไหลเวียนไปทั่วร่างกาย ปราณแท้ปราณเป็นตาย 2 ระดับแต่ละเส้นค่อย ๆ รวมตัวกันที่จุดตันเถียน วงล้อชีวิตแห่งเหล่าทวยเทพหมุนเร็วขึ้นเรื่อย ๆ และควบแน่นขึ้นเรื่อย ๆ
ในขณะเดียวกัน ในสมองของเขาก็ปรากฏภาพที่สองของผังกฎดั้งเดิมขึ้นมา และสัมผัสรับรู้ได้ถึงความลึกลับของความเป็นความตาย
......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...