มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1810

สรุปบท บทที่ 1810: มหายุทธ์ สะท้านภพ

สรุปตอน บทที่ 1810 – จากเรื่อง มหายุทธ์ สะท้านภพ โดย หลงเซียว-มังกรคำราม

ตอน บทที่ 1810 ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง มหายุทธ์ สะท้านภพ โดยนักเขียน หลงเซียว-มังกรคำราม เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ยกตัวอย่างเช่นยาเซียนระดับ 9 เพียงเม็ดเดียวก็เป็นยาที่นักยุทธ์ราชาเทพช่วงปลายจำนวนมากหายากมาก ๆ แล้ว ทว่ากลับปรากฏในโลกาชั้นฟ้าเป็นจำนวนมาก เริ่มประมูลตั้งแต่หนึ่งร้อยเม็ดเป็นต้นไป

สามารถใช้ยามายกระดับผลการฝึกตน อิงจากพรสวรรค์ปัญญาที่แตกต่างกันออกไปตามบุคคล จำนวนยาที่ต้องการในการบรรลุหนึ่งแดนก็แตกต่างเช่นกัน  

หากพรสวรรค์ปัญญาของคนคนหนึ่งดีเยี่ยมมาก ๆ เช่นนั้นต้องการยาเซียนระดับ 9 เพียงสองสามร้อยเม็ดก็สามารฝึกจนบรรลุถึงราชาเทพขั้น 9 แล้ว แต่ถ้าหากเป็นคนที่ปัญญาไม่ดี เช่นนั้นต่อให้ทุ่มด้วยยาเซียนระดับ 9 ที่มากเพียงใด ก็ฝึกจนบรรลุถึงแดนราชาเทพระดับ 9 ได้ยากมาก ๆ 

ทว่าอัจฉริยะที่พรสวรรค์ปัญญายอดเยี่ยมนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในโลกามนุษย์หรือโลกาชั้นฟ้า ล้วนเป็นกลุ่มคนที่จำนวนน้อยมาก ๆ ดังนั้นสมบัติอย่างยาเซียนระดับ 9 จึงเป็นที่ต้องการมาก ๆ คนจำนวนมากต่างพากันประมูล ภายในงานร้อนระอุอย่างยิ่ง

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วระดับของสมบัติที่ปรากฏในช่วงแรก ๆ ของงานจะค่อนข้างต่ำ มียาเซียนระดับ 9 วัตถุดิบในการหลอมอาวุธระดับ 9 ผังค่ายระดับ 9 ต่าง ๆ นานา และมีม้วนหยกที่มีพลังอมตะจารึกอยู่ภายในปรากฏบ้างเป็นครั้งคราว 

หลังจากช่วงแรกของงานประมูลเสร็จสิ้นไปแล้ว ก็เข้าสู่ช่วงกลางของงานประมูล และพบกับช่วงที่เด็นที่สุดของงานในทันที สมบัติที่ปรากฏ ณ วินาทีนี้บรรลุถึงระดับมกุฎแล้ว

สมบัติระดับมกุฎที่หมายถึงนั้น ไม่ใช่ว่ามีเพียงผู้แข็งแกร่งมกุฎเทพเท่านั้นถึงสามารถใช้งานได้ ในจำนวนสมบัติทั้งหมด มีสมบัติบางส่วนที่มีทั้งราคาและมีประโยชน์ต่อราชาเทพสูงมาก ๆ เช่นกัน ยิ่งกว่านั้นคือมีโอกาสทลายประตูแห่งกฎเกณฑ์ บรรลุสู่แดนมกุฎเทพได้ด้วย

“อัคคีเทพเพลิงดารา!”

การปรากฏของสมบัติระดับมกุฎชิ้นแรก ก็ก่อให้เกิดเสียงอุทานไม่น้อยในงานประมูลทันที

เปลวไฟที่ถูกหล่อเลี้ยงโดยกฎฟ้าดินจะกลายเป็นภูตอัคคีก่อน ต่อมาหลังจากผ่านการเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการจากกาลเวลาที่ยาวนานแล้ว ถึงจะสามารถกลายเป็นอัคคีเทพได้

ก่อนหน้านี้ ของขลังอาวุธสงครามสิบกว่าชิ้นนั่นของหลัวซิวล้วนถูกประมูลไปแล้ว มูลค่าทั้งหมดรวมกันสามารถแลกเปลี่ยนเป็นแก้วเทวชั้นสูงในงานประมูลได้เพียงหนึ่งล้านชิ้นเท่านั้น

ภายในห้องที่นั่งพิเศษห้องหนึ่งที่ลอยอยู่กลางนภางานประมูล ตรงมุมปากของเซียวเฟยมีรอยยิ้มที่สุภาพอ่อนโยนปรากฏ 

“หงเฟย อัคคีเทพพรสวรรค์ดวงนี้ถือว่าไม่เลวเลย จากระดับความเข้ากันในกฎเพลิงอัคคีของเจ้า น่าจะสามารถกลั่นแปรมันได้อยู่”เซียวเฟยยิ้มพลางพูดกับหงเฟยที่อยู่ข้างกาย 

แววตาของหงเฟยสั่นไหวเล็กน้อย นางต้องการอัคคีเทพดวงนี้มากจริง ๆ อัคคีเทพพรสวรรค์ระดับดำชั้นกลาง มาตรแม้นว่าราชาเทพขั้น 9 หรือกึ่งมกุฎเทพที่ฝึกกฎเพลิงอัคคี ก็แทบจะไม่มีโอกาสสามารถกลั่นแปรมันสำเร็จได้เลย

ทว่านางไม่เหมือนคนเหล่านั้น ระดับความเข้ากันของนางที่มีต่อกฎเพลิงอัคคีนั้นสูงมาก ๆ อ้างอิงจากคำพูดของอาจารย์นาง ราวกับว่าเนื่องจากนางปลุกตื่นสายเลือดโบราณของเทพหงส์โบราณบางอย่าง ถึงแม้ผลการฝึกตนของนางจะเพิ่งบรรลุถึงราชาเทพได้ไม่นาน แต่ก็มีโอกาสกลั่นแปรอัคคีเทพดวงนี้ได้สูงมาก ๆ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ผลการฝึกตนและศักยภาพของนางต้องสามารถก้าวทะยานภายในระยะเวลาที่สั้นมากได้แน่นอน 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ