มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 183

ทันทีที่สังเกตเห็นหลัวซิว ยี่ซวนก็สะบัดมือนำธงค่ายออกมา สร้างค่ายยากเย็นและตรึงพื้นที่นี้ไว้ทันที

ด้วยการนำของช่าวชูเจิ้งฉี คนกลุ่มหนึ่งได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าของหลัวซิวแหละเหยียนซีโรว่

“ซีโรว่ ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอกันอีก” ช่าวชูเจิ้งฉีมองมาที่เหยียนซีโรว่ ในดวงตาของเขาฉายแววรอยยิ้มแห่งความเยาะเย้ย

“ไอ้เด็กเวรไร้ยางอาย!” เหยียนซีโรว่กัดริมฝีปากแดงสดนั้น นัยน์ตาเผยแววแห่งการสังหาร

ช่าวชูเจิ้งฉีหัวเราะเสียงดัง “สำนักไป๋ซิงกู่จำคู่เจ้าให้ข้าแล้ว เจ้าได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่หมายของข้า หากเจ้าไม่ติดตามข้า ข้าจะลงไม้ลงมือกับเจ้าได้หรือ?”

พูดถึงตรงนี้ ช่าวชูเจิ้งฉีรี่ตาลง “ข้าสงสัยยิ่งนัก พูดกันตามจริง เส้นลมปราณของเจ้าถูดตัดขาด จุดตันเถียนได้รับความเสียหาย ผลการฝึกตนควรจะหายไปหมดแล้ว เจ้าฟื้นฟูได้อย่างไรกัน?”

ตั้งแต่ต้นจนถึงวันนี้ ช่าวชูเจิ้งฉีไม่แม้แต่จะมองมาทางหลัวซิวสักครั้ง เรียกได้ว่าไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลย

ยี่ซวนขมวดคิ้ว เดินเข้าไปข้าง ๆ ช่าวชูเจิ้งฉีพลางกระซิบกระซาบเสียงเบา

“แค่นักยุทธ์ระดับฝึกจิตครึ่งก็เท่านั้น ต่อให้ครอบครองห้วงยุทธ์ได้แต่ก็ไม่ได้มีค่ามากพอให้ต้องกังวล มันควรจะรู้ว่าควรทำลายยันต์หยกแดงเพื่อหนีเอาชีวิตรอด ไม่เช่นนั้นก็ต้องตายอย่างไม่มีทางเลือก” ช่าวชูเจิ้งฉีพูดขึ้นโดยไม่ลังเล

หลัวซิวพอจะเดาเรื่องราวได้บ้างแล้ว สำนักไป๋ซิงกู่เพื่อจะเป็นพันธมิตรกับสำนักชิงเทียนเจี้ยน จึงได้จับคู่เหยียนซีโรว่กับช่าวชูเจิ้งฉี

แต่ตัวเหยียนซีโรว่เองไม่เห็นด้วย ช่าวชูเจิ้งฉีจึงลอบโจมตีนางในตอนที่นางไม่ได้เตรียมตัว และใช้กำลังกับนาง

พลังเดียวกันท่ามกลางเขตการปกครองชิงฮัว สำนักชิงเทียนเจี้ยนนั้นแข็งแกร่งกว่าสำนักไป๋ซิงกู่อย่างมาก หากคิดตามแนวคิดของช่าวชูเจิ้งฉี แม้ว่าจะแข็งแกร่งกว่าอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งสำนักไป๋ซิงกู่แล้วอย่างไร? สำนักไป๋ซิงกู่อยู่ภายใต้การควบคุมของสำนักชิงเทียนเจี้ยน ก็ทำได้แค่กล้ำกลืนฝืนทน ต่อให้โกรธเพียงใดก็ต้องเก็บไว้

ยิ่งไปกว่านั้น การหมั้นของคนทั้งสองได้ดำเนินไปแล้ว สิ่งต่าง ๆ ได้ทำไปแล้วนั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ สำนักไป๋ซิงกู่จึงใช้โอกาสนี้ที่จะเพิ่มเต็มเชื้อไฟ เพื่อขยายอิทธิพลของพวกเขา โดยจัดการให้เหยียนซีโรว่ อัจฉริยะอันดับหนึ่งคนนี้ยอมพ่ายแพ้แก่เขา

เมื่อรู้เช่นนี้ ในใจของหลัวซิวก็พลุ่งพล่านไปด้วยจิตสังหาร

“หืม?”

ช่าวชูเจิ้งฉีสามารถรับรู้ได้ถึงจิตสังหารของหลัวซิวที่ตรึงเขาไว้ “กล้าใช้จิตสังหารกับข้า เจ้าเด็กนี่ไม่กลัวตายหรืออย่างไร?” เขาพูดพลางขมวดคิ้ว

หลังจากพูดจบ ก็มีฝึกจิตขั้นหนึ่งสามคนก็ลงมือทันที หนึ่งในนั้นคือหญิงสาวผมทองที่เคยไล่ตามฆ่าเหยียนซีโรว่

“ไปให้พ้น!”

จิตสังหารสีแดงเลือดหมุนวนอยู่รอบตัวเขา หลัวซิวระเบิดพลังออกมา กระบี่สังหารแห่งห้วงยุทธ์ถูกเหวี่ยงออกไป

เมื่อเห็นเช่นนั้น ยี่ซวนและเหมิงขวงต่างก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป ยังคงมีความรู้สึกกลัวต่อสถานการณ์ที่เคยประสบพบเจอมา

และปรมาจารย์ยุทธ์ฝึกจิตขั้นหนึ่งที่เข้าไปโจมตีหลัวซิวทั้งสามคนนั้น วินาทีที่ถูกกระบี่สังหารห้วงยุทธ์ตรึงไว้ ก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน

“ตาย!”

กระบี่สังหารหลอมรวมกับห้วงยุทธ์ ดาบนั้นของหลัวซิวยิ่งเพิ่มความรวดเร็ว แสงดาบแวบขึ้นราวกับดาวที่ตกลงมาจากฝากฟ้า ฝึกจิตขั้นหนึ่งปรมาจารย์ยุทธ์คนหนึ่งคือขาดกระเด็นและตายคาที่ทันที

หลังจากนั้น เขาก้าวขึ้นไปในอากาศ และแสงดาบเปลวไฟสีดำก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าหญิงสาวผมทองในพริบตา

หญิงสาวผมทองถูกพลังอันน่าสะพรึงกลัวของหลัวซิว ตรึงไว้จนไม่สามารถขยับตัวได้ รีบหยิบยันต์หยกแดงออกมาและทำลายมันในเวลาเดียวกันก็ก้าวถอยหลังไปอย่างรีบร้อน เพียงแค่ต้องอดทนอีกห้าลมหายใจ ก็จะสามารถออกจากที่แห่งนี้ได้แล้ว

แต่ยังไม่ทันถึงสองอึดใจ ร่างของนางก็กระเด็นออกไปกลางอากาศ และฉีกขาดออกเป็นเสี่ยง ๆ เลือดสด ๆ สาดกระจายเต็มไปทั่วผืนดิน

กระบี่ยุทธ์ของปรมาจารย์ฝึกจิตคนที่สามถูกวางลงบนไหล่ของหลัวซิว แววตาเผยความดีใจออกมา พลางคิดว่าตนจะได้ฆ่าชายหนุ่มที่เก่งกาจเช่นนี้ เขาต้องได้ครอบครองยันต์หยกจำนวนมากแน่นอน

“ชิ้ง!”

ด้วยความรวดเร็ว ปรมาจารย์ยุทธ์ฝึกจิตขั้นหนึ่งคนนี้ก็นิ่งไป กระบี่ยุทธ์ระดับสูงสุดของเขา กลับไม่สามารถฟันผู้ชายคนนี้ให้ขาดออกเป็นสองท่อนได้ ทำได้แค่เพียงสร้างบาดแผลเล็ก ๆ ไว้ที่ไหล่ของเขาเท่านั้น?

ทันใดนั้น แสงดาบเปลวไฟสีดำก็พุ่งผ่าน ผ่าร่างของเขาออกเป็นสองส่วน

เพียงแค่ชั่วอึดใจเดียวเท่านั้น ปรมาจารย์ฝึกจิตทั้งสามก็จบชีวิตลงที่นี่!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ