มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1835

นี่มันอะไรกัน?

สัมผัสได้ถึงออร่าอันสยดสยองที่มากมายมหาศาลจนไม่อาจคาดเดานั่น สีหน้าของท่านฉีจึงเปลี่ยนไปภายในพริบตา ดาราสีดำสนิทที่ใหญ่โตมหึมานั่นอัดแน่นอยู่ทั่วทั้งฟ้าดิน ใหญ่มากจนไม่อาจจินตนาการได้

ของขลังจ้าวมหาเทพ!

หนังตาของท่านฉีกระตุกอย่างบ้าคลั่ง วิกฤตการณ์แห่งความตายแผ่คลุมไปทั่วทั้งร่างกาย 

“ผนึกเยือก!”

โคจรกฎธาตุน้ำแข็ง กำแพงน้ำแข็งที่แน่หนาจึงผนึกร่วมกัน ต้านทานการโจมตีจากดาราโบราณมกุฎเทพ 

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ภายใต้การกดอัดจากดาราโบราณมกุฎเทพ กำแพงน้ำแข็งเปราะบางมากจนไม่อาจทนแรงกระทบใด ๆ ภายในเวลาชั่วพริบตา กำแพงน้ำแข็งนับร้อยก็ระเบิดพังทลายลงไป

ท่านฉีหวาดผวาอย่างยิ่ง เงาร่างถอยหลังกลับไปอย่างรวดเร็ว ถึงแม้เขาจะมีผลการฝึกตนมกุฎเทพขั้น 4 ก็ไม่กล้าฝืนต้านรับการโจมตีจากของขลังจ้าวมหาเทพแน่นอน

ทว่าขณะที่เขากำลังจะถอยกลับไปอยู่นั้น หลัวซิวก็โคจรพลังอมตะของกฎลดเวลาและโซนคุมขัง

สุดท้ายแล้วผู้คนในสำนักเซียนเทียนหยุนก็เข้าใจเกี่ยวกับหลัวซิวน้อยเกินไปอยู่ดี ความเข้าใจทั้งหมดล้วนถูกจำกัดอยู่ในความทรงจำของทุกคนในไท่เสวียนครั้นเมื่ออยู่ในโลกเสวียนเทียน

จากโลกเสวียนเทียนตลอดจนถึงโลกะดาราอัมพรเทว และมาถึงมหาโลกายอดอัมพรในปัจจุบัน ระดับความเร็วในการเจริญเติบโตของหลัวซิวนั้น เรียกได้เลยว่าเป็นการทำลายกฎเกณฑ์ของสวรรค์ อยู่เหนือการคาดหมายของทุกคน

ทุกคนที่ประมือกับเขา เมื่อสัมผัสได้ถึงกฎลดเวลา ต่างก็จะหวาดผวาอย่างยิ่ง เนื่องจากพลังกฎที่เรียกว่าเป็นกฎต้องห้ามเช่นนี้ ตั้งแต่สมัยโบราณจวบจนปัจจุบัน ผู้ที่สามารถตระหนักรู้และยึดกุมมันได้นั้น พอจะเรียกได้เลยว่ามีน้อยจนสามารถใช้นิ้วมือนับได้เลย 

“กฎห้วงเวลา!” 

มาตรแม้นว่าสีหน้าของจีเสวียนคงก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ขณะที่ตระหนักรู้ในคัมภีร์โอสถ เขาเห็นเองกับตาเลยว่าหลัวซิวใช้เปลวไฟที่ผนึกรวมขึ้นมาจากกฎชีวิตมากลั่นยา ปัจจุบันก็ได้พบเห็นกฎห้วงเวลาอีก ไม่นึกเลยว่าคนดังกล่าวจะฝึกชั้นยอดสามประเภทพร้อมกันอย่างนั้นหรือ?

ณ วินาทีนี้ จีเสวียนคงรู้สึกว่าตัวเองเข้าใจเกี่ยวกับศิษย์ที่เพิ่งรับมาคนนี้น้อยมาก ๆ พรสวรรค์ของคนดังกล่าวสูงส่ง ซึ่งอยู่เหนือการจินตนาการของเขาแล้ว 

“ทลายซะ!”

ท่านฉีตะคอกเสียงดังลั่น ใช้กฎธาตุน้ำแข็งขั้น 6 ของตัวเองดิ้นรนจนหลุดพ้นออกมาจากการพันธนาการของกฎห้วงเวลา ระเบิดผลการฝึกตนทั้งหมดของตัวเองออกมา พยายามแสดงศักยภาพที่เกะกะระรานของผู้แข็งแกร่งมกุฎเทพออกมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

แต่ความเร็วของเขาก็ยังได้รับผลกระทบอยู่ดี ดังนั้นการที่คิดจะหลบการโจมตีทั้งหมดของดาราโบราณมกุฎเทพนั้น จึงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้แล้ว

หอคอยเทวหลังหนึ่งถูกท่านฉีเรียกออกมา ซึ่งเป็นศัตราวุธราชาที่ได้รับมาด้วยชีวิต ภายใต้การกระตุ้นของเขา หอคอยเทวหลังนี้จึงขยายใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะพุ่งชนเข้ากับดาราโบราณมกุฎเทพอย่างรุนแรง ท่ามกลางเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่นที่ก้องหู 

ตู้ม!

เสี้ยววินาทีที่ของขลังทั้งสองชิ้นพุ่งชนกัน ระลอกคลื่นที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าก็แผ่กระจายออกไป ทุกตำแหน่งที่คลื่นพลังเคลื่อนผ่าน ปริภูมิบริเวณนั้นก็จะแตกสลายโดยสิ้นเชิง ตรีภพเชี่ยวกราก กระทั่งแผ่กระจายออกไปถึงพื้นที่ที่ห่างออกไปไกลหมื่นไมล์!

ดาราโบราณมกุฎเทพถูกต้านทานเอาไว้แล้ว พลานุภาพของของขลังชิ้นนี้เลิศล้ำที่สุด แต่อย่างไรเสียผลการฝึกตนของตัวหลัวซิวเองมีขีดจำกัด จึงไม่สามารถกระตุ้นพลานุภาพทั้งหมดของมันออกมาได้

แต่ทว่าท่านฉีชุดคลุมยาวดำนั่นก็ไม่สบายเช่นกัน รังสีของหอคอยเทวหม่นหมองลง มีรอยร้าวขนาดเล็กปรากฏตรงตำแหน่งที่พุ่งชนเข้ากับดาราโบราณมกุฎเทพ ทำให้สีหน้าของเขาดูย่ำแย่อย่างยิ่ง เจ็บใจถึงขีดสุด

นี่ไม่ใช่ของขลังธรรมดาทั่วไปเชียวนะ แต่เป็นอาวุธชีวี!

สำหรับนักยุทธ์แล้ว อาวุธชีวีที่กล่าวถึงนั้น ก็คืออาวุธสงครามหรือของขลังที่สอดคล้องกับวิถียุทธ์ของตน ซึ่งอาวุธประเภทนี้จะเลื่อนขั้นไปตามวิถียุทธ์ที่เพิ่มขึ้นของตัวเราเอง กระทั่งกลายเป็นศัสตราวุธมรรคผลในที่สุด

ดังนั้นอาวุธชีวีจึงสำคัญต่อตัวนักยุทธ์มากถึงมากที่สุด ทันทีที่เสียหาย การซ่อมแซมก็จะเป็นอะไรที่ยากมาก ๆ เช่นกัน 

“ผังดาวตก!”

หลัวซิวใช้มือข้างหนึ่งร่ายพลังตัวประทับ ห้วงดาราที่มีบารมีอำนาจยิ่งใหญ่ปรากฏ ดารานับสิบดวงร่วงหล่นลงมาดั่งดาวตก มากจนมืดฟ้ามัวดินและกระแทกไปทางท่านฉี

ดาราที่ปรากฏออกมาจากผังดาวตก ล้วนเป็นสิ่งที่หลัวซิวฝึกขึ้นมาเองด้วยเคล็ดแสงดาวเทียนเต้าและเคล็ดวิชาจุดลมปราณ ในทุก ๆ ดวงล้วนมีผลการฝึกตนของเขาผนึกอยู่ ซึ่งมีพลานุภาพที่ไม่ธรรมดา 

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ