มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1900

สรุปบท บทที่ 1900: มหายุทธ์ สะท้านภพ

สรุปเนื้อหา บทที่ 1900 – มหายุทธ์ สะท้านภพ โดย หลงเซียว-มังกรคำราม

บท บทที่ 1900 ของ มหายุทธ์ สะท้านภพ ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย หลงเซียว-มังกรคำราม อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เห็นเพียงพวกเขาพากันหยิบวัตถุดิบต่าง ๆ ออกมาเป็นจำนวนมาก แล้วจัดวางค่ายกลที่เค้าโครงกว้างใหญ่ค่ายกลหนึ่ง

สิบกว่าท่านที่อยู่ในที่เกิดเหตุก็คือผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพในมหาโลกายอดอัมพร โควต้าของแดนเทวนิรันกาลมีเพียงสิบที่เท่านั้น เหล่าจักรพรรดิเทพและกองกำลังที่ไม่ได้รับโควต้า จะได้รับการชดเชยจากกองกำลังและจักรพรรดิเทพของผู้ที่ได้รับโควต้าสิบที่นั้น

และเงื่อนไขข้อแรกของการชดเชยก็คือเรื่องการเปิดเส้นทางของแดนเทวนิรันกาล ซึ่งจำเป็นต้องให้จักรพรรดิเทพทั้งหมดออกแรงพร้อมกัน

หลัวซิวเมข็งมองไป เขาดูไม่ออกว่าค่ายกลที่จักรพรรดิเทพเหล่านั้นจัดวางนั้นเป็นค่ายกลระดับใด ทว่าสิ่งที่สามารถจินตนาการได้คือการที่สามารถทำให้จักรพรรดิเทพสิบกว่าคนร่วมมือกันจัดวางได้นั้น อย่างน้อยระดับของค่ายกลดังกล่าวก็เป็นระดับมหาจักรพรรดิ

ในขณะเดียวกันเขาก็สังเกตเห็นเช่นกันว่าวัตถุดิบต่าง ๆ ที่เหล่าจักรพรรดิเทพเอาออกมานั้นก็เป็นสมบัติที่ล้ำค่า ซึ่งภายในมีเหล็กเศษณ์ทองเซียนที่สามารถใช้มากลั่นของขลังและอาวุธสงครามระดับมหาจักรพรรดิได้ด้วย

“โครม!”

หลังจากที่จัดวางค่ายกลเสร็จเรียบร้อยแล้ว จักรพรรดิเทพทั้งสิบกว่าท่านก็กรอกพลังเวทย์ผลการฝึกตนลงไปในค่ายกลพร้อมกัน ลำแสงรัศมีเทวที่กว้างใหญ่ถึงขีดสุดหนึ่งแสงเหมือนดาวหางที่เคลื่อนผ่านห้วงดาราอันไร้ขอบเขต ทะลวงไปทางตำแหน่งของแดนเทวนิรันกาลพร้อมกับหางเปลวไฟยาว 

“ย่ำลงสะพานพระแสง พลังแห่งค่ายกลจักพาพวกเจ้าทะลวงการผนึกของแดนเทวนิรันกาล”เจ้าหอยอดอัมพรพูดอย่างกะทะหัน

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยุนเทียนหยูก็เป็นคนแรกที่ลอยตัวขึ้น เงาร่างร่วงลงบนลำแสงที่ถูกกระตุ้นมาจากค่ายกล จากนั้นเงาร่างของเขาก็หายวับไปภายในพริบตา ภายใต้การฉุดดึงจากแสงเปลวไฟนั่น เขาก็หายไปจากขอบฟ้าอันไกลโพ้น

ถัดจากนั้นคนอื่นที่เหลือก็ต่างพากันขึ้นไปเช่นกัน รวมไปถึงหลัวซิวก็เหยียบย่ำลงบนสะพานพระแสงเช่นกัน รู้สึกแค่เพียงห้วงเวลาบริเวณรอบ ๆ ปรวนแปรอย่างรวดเร็ว เร็วมากจนถึงขั้นที่ไม่อาจจินตนาการได้ 

ตู้ม!

ถึงแม้วรยุทธ์ระดับจ้าวมหาเทพจักรพรรดิเทพจำนวนมากก็มีความเร้นลับของเคล็ดวิชาจุดลมปราณและเคล็ดแสงดาวเทียนเต้าซ่อนอยู่เหมือนกัน สามารถเปิดจุดลมปราณในร่างกายเพื่อผนึกรวมโลการ่างในได้ แต่ทว่าต่อมาหลัวซิวค้นพบว่าโลกาจุดลมปราณร่างในที่นักยุทธ์คนอื่น ๆ บุกเบิกได้นั้นมันไม่สมบูรณ์แบบ ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีคุณสมบัติในการเก็บอสูรจิตไว้ภายใน มากสุดก็แค่สามารถบรรจุของที่ไม่มีชีวิตไว้ภายใน ซึ่งมีสมรรถนะในทำนองเดียวกันกับแหวนเก็บของ 

ส่วนโลกาจุดลมปราณร่างในของหลัวซิวกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง มันเป็นโลกาสมบูรณ์แบบที่วิวัฒนาการมาจากการใช้สี่กฎชั้นยอดอย่างการเวียนว่ายตายเกิดห้วงเวลา อีกทั้งหลอมรวมกฎพื้นฐานอย่างทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน ลม อัสนีและหยินหยาง

อีกอย่างไม่ใช่แค่อสูรดูดจิตเท่านั้นที่ถูกหลัวซิวพาเข้ามา เห็นเพียงรอบกายของเขามีแสงเรืองกระพริบระยิบระยับ จีเสี่ยวจื่อที่อ่อนช้อยน่ารักก็ถูกเขาพาเข้ามาเช่นกัน

นอกเหนือจากนี้แล้วผู้คนในไท่เสวียนก็ล้วนอยู่ในโลกาจุดลมปราณร่างในของเขา

“นี่คือแดนเทวนิรันกาลหรือ? สวยจังเลย!”หลังจากที่จีเสี่ยวจื่อออกมาจากโลการ่างในของหลัวซิวแล้ว ดวงตาที่สว่างไสวดุจดาวเคราะห์นั่นก็มองออกไปรอบ ๆ เปี่ยมล้นไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ