มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 1902

จำนวนคนในมหาโลกาพันสามที่เข้าไปในแดนเทวนิรันกาลมีนับหมื่น ดูเหมือนจะเยอะมาก ๆ แต่ทว่าสำหรับห้วงดาราที่กว้างใหญ่ไพศาลดั่งกลุ่มดาวฤกษ์แล้ว นักยุทธ์นับหมื่นก็ดูเล็กน้อยจนไม่มีค่าพอที่จะให้พูดถึงด้วยซ้ำ

ยิ่งกว่านั้นคือมีคนจำนวนมากที่ตั้งแต่เข้ามาจนออกจากไป ก็ไม่ได้พบหน้ากันเลย 

อย่างไรเสียในอดีตแดนเทวนิรันกาลก็เคยเปิดออกอยู่ ผู้ที่เคยเข้ามาในอดีต หลังจากออกไปแล้วก็จะอ้างอิงตามความทรงจำของตัวเองวาดแผนที่ย่อ ๆ ออกมา นำแผนที่ดาวที่ทุกคนวาดได้มาหลอมรวมกัน แม้ยังไม่สามารถครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของแดนเทวนิรันกาลได้ แต่ประสิทธิภาพของมันก็เยอะมาก ๆ

ในมือของหลัวซิวก็มีแผนที่ดาวเช่นนี้หนึ่งฉบับเช่นกัน อาจารย์ของเขาจีเสวียนคงใช้ราคาที่ไม่ต่ำแลกมาจากมือของพวกเจ้าหอยอดอัมพร

นั่งท่าขัดสมาธิอยู่บนศีรษะของอสูรดูดจิต หลัวซิวมุ่งหน้าตรงไปยังพื้นที่ศูนย์กลางของแดนเทวนิรันกาลโดยดูจากแผนที่ดาวที่บันทึกอยู่ในม้วนหยก

อิงตามประสบการณ์ที่คนรุ่นก่อนสรุป ยิ่งเข้าใกล้พื้นที่ศูนย์กลางของแดนเทวนิรันกาล อัตราที่สมบัติปรากฏก็จะยิ่งมาก 

“อสูรดูดจิต?”

ทันใดนั้นเอง เงาดำร่างหนึ่งที่ผันร่างเป็นสายรุ้งยาวก็บินตรงมาอย่างรวดเร็ว มาถึงละแวกของหลัวซิวภายในเวลาชั่วพริบตาเดียว แล้วจ้องเขม็งอสูรดูดจิตด้วยดวงตาที่เป็นประกายระยิบระยับ 

สายตาของหลัวซิวก็ร่วงลงบนตัวฝ่ายตรงข้ามเช่นกัน พบว่าไม่ใช่คนในมหาโลกายอดอัมพรแต่อย่างใด ในส่วนของเรื่องที่ว่าฝ่ายตรงข้ามมาจากมหาโลกาใดนั้น เขาก็ดูไม่ออกเช่นกัน

คนดังกล่าวคือชายที่รูปร่างสูงชะลูดคนหนึ่ง หน้าตาดูดุร้ายน่ากลัว ลูกตามีสีแดงเลือดปนอยู่เล็กน้อย พลางจ้องเขม็งไปทางหลัวซิวที่อยู่บนศีรษะอสูรดูดจิต 

“สหาย อสูรดูดจิตนี่เป็นของเจ้าหรือ?”ชายหน้าตาดุร้ายเอ่ยปากถาม

“เจ้ามีเรื่องอันใดหรือ?”หลัวซิวมองฝ่ายตรงข้ามด้วยแววตาที่เรียบนิ่งรอบหนึ่ง และไม่รู้สึกแปลกใจต่อเรื่องที่คนดังกล่าวรู้จักอสูรดูดจิต แม้อสูรดูดจิตจะหายากจนแทบจะหายสาบสูญไปหมดสิ้นแล้ว แต่ทว่าในโลกใบนี้ก็ไม่ขาดแคลนผู้ที่มีประสบการณ์และความรู้กว้างขวาง 

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ