ตอน บทที่ 1943 จาก มหายุทธ์ สะท้านภพ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1943 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ มหายุทธ์ สะท้านภพ ที่เขียนโดย หลงเซียว-มังกรคำราม เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
แต่ทว่าหลัวซิวก็ไม่ได้เก็บลูกแก้วความเป็นตายกลับมาเช่นกัน เนื่องจากสำหรับเขาแล้ว ขอแค่ทำลายเกราะป้องกันของคนเหล่านี้ได้ ภายใต้การยึดครองจากลูกแก้วความเป็นตาย ภายในเวลาชั่วลมหายใจเดียวก็สามารถดูดกลืนชีวีดั้งเดิมของพวกเขาจนไม่เหลือซากแล้ว
“โครม!”
หลัวซิวง้างมือแทงหอกออกไป อัคคีเทพซิวหลัวลุกโชนกลายเป็นแสงหอกเพลิงอัคคี ในขณะเดียวกันการโจมตีนี้ก็มีความเร้นลับของกฎปริภูมิแฝงซ่อนอยู่เช่นกัน หายวับไปภายในพริบตา วินาทีต่อไปก็ปรากฏตรงหน้าชายหนุ่มที่จิตใจเหี้ยมโหดและดุร้ายนั่นแล้ว
ในขณะเดียวกัน การโจมตีทั้งหลายก็แผ่คลุมมาอย่างมากมายเต็มท้องฟ้าจนมืดฟ้ามั่วดิน ตำหนักวัฏสงสารปรากฏเหนือศีรษะหลัวซิว รังสีของพลังอมตะและของขลังอาวุธสงครามร่วงลงบนตำหนักวัฏสงสาร การโจมตีทั้งหมดล้วนถูกต้านทานไว้ด้านนอก ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้แก่หลัวซิวได้เลยแม้แต่น้อย
และในเวลานี้เอง ก็มีจิตสังหารที่ไร้ขอบเขตแผ่กระจายออกมาจากแสงหอกเพลิงอัคคีของหลัวซิว ทำการผนึกร่างชายหนุ่มที่จิตใจเหี้ยมโหดและดุร้ายนั่นเอาไว้อย่างแน่นหนา
ชายหนุ่มคนดังกล่าวสัมผัสได้ถึงพลังแห่งกฎเพลิงอัคคีขั้น 7 ที่แฝงซ่อนอยู่ในแสงหอก จึงรีบถอยหลังกลับไปอย่างบ้าคลั่ง เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าขอแค่ตัวเองสามารถหลบกระบวนท่านี้ไปได้ เช่นนั้นไม่แน่คนอื่นที่เหลือก็อาจจะสามารถทลายเกราะป้องกันของหมอนั่น แล้วสังหารเขาได้
เกราะป้องกันของตำหนักที่เป็นของขลังนั่นแข็งแกร่งมาก ๆ ทว่าการที่จะควบคุมของขลังที่ทรงพลังเช่นนี้นั้น ก็ต้องสูญเสียผลการฝึกตนจำนวนมากอยู่ มิหนำซ้ำมีคน 70 กว่าคนลงมือโจมตีพร้อมกัน ไม่นานนักผลการฝึกตนของฝ่ายตรงข้ามต้องแห้งเหือดจนไม่เหลือซากแน่นอน
แต่ทว่าเขานึกอย่างไรก็ไม่มีวันนึกถึงว่าหลัวซิวมีพลังอมตะของสรรพสิ่งอิงหยินอุ้มหยาง ขอแค่เป็นของขลังที่สามารถกระตุ้นได้โดยผลการฝึกตนของเขา ไม่ว่าเขาจะกระตุ้นนานเท่าไหร่ ผลการฝึกตนก็จะไม่สูญหายไปเลยแม้แต่น้อย
“ตู้ม!”
แสงหอกเพลิงอัคคีพุ่งชนเข้ากับของขลังคุ้มกันของชายหนุ่มนั่น แม้จะไม่สามารถทลายเกราะป้องกันของของขลังชิ้นนั้นได้ ทว่าก็ทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเช่นกัน
ถัดจากนั้น หลัวซิวก็สะบัดหอกมังกรแดงมืดที่อยู่ในมือทีหนึ่ง ใช้กิริยาท่าทางที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยเนื้อตาเปล่า ภายในชั่วพริบตาเดียวก็แทงหอกออกไปไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง
แคว็ก!
ภายใต้การถูกโจมตีอย่างไม่หยุดหย่อนเช่นนี้ ชายหนุ่มที่จิตใจเหี้ยมโหดและดุร้ายนั่นเบิกตากว้าง ภายในแววตาเปี่ยมล้นไปด้วยความผวาและสิ้นหวัง
หลังจากชายหนุ่มคนดังกล่าวตายไปแล้ว กระบี่เทวแสงทองก็ค่อย ๆ หม่นหมองลง และสลายหายไปในที่สุด
ส่วนหลัวซิวนั้นแขนข้างหนึ่งถูกตัด ตำหนักวัฏสงสารถูกฟันจนกระเด็นออกไป การโจมตีจากวัยรุ่นผู้มีความฉลาดเป็นเลิศ 70 กว่าคนที่เหลือจึงซัดสาดมาดั่งฝนฟ้ากระหน่ำอย่างรุนแรง แผ่คลุมร่างกายเขาจนหายเข้าไปในการโจมตีทั้งหมด
ถึงแม้ระดับความแข็งแกร่งของร่างเนื้อเขาจะเทียบทัดศัตราวุธราชา ภายใต้การโจมตีที่มากมายเช่นนี้ เขาก็ต้านทานไม่ไหวแน่นอน
แสงโลหิตสาดกระเด็น เสียงกระดูกแตกหักดังขึ้น หลัวซิวจึงเลือดอาบท่วมตัว บาดเจ็บสาหัสภายในพริบตา
“สลับเป็นตาย!”
หลัวซิวตวาดเสียงดังลั่น กฎความตายผันแปรเป็นกฎชีวิต ทำให้พลังแห่งชีวีที่อยู่ภายในร่างกายเขาพุ่งขึ้นถึงขีดสุดในทันที บาดแผลตามร่างกายก็ฟื้นฟูกลับคืนสู่สภาพเดิมด้วยความเร็วที่เร็วมากจนสามารถมองเห็นได้ด้วยเนื้อตาเปล่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
Good...
ทำไมอ่านต่อไม่ได้...
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...