มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2261

“เหอะ ๆ ผู้เพื่อนยุทธ์อิงไม่ได้พบกันเสียนาน ไม่นึกเลยว่าผ่านไปหลายปี เจ้าก็จักมามหาโลกายอดอัมพรเช่นกัน”หลัวซิวยิ้มพลางพูด

“ผู้อาวุโส ท่านคือ……”เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเมื่ออิงบูเฉิงได้ยินคำพูดดังกล่าว เขาก็อึ้งทึ่งไปเลย คนดังกล่าวโจมตีมกุฎเทพคนหนึ่งจนกระเด็นออกไปได้อย่างง่ายดาย เขาจำไม่ได้ว่าตัวเองรู้จักกับผู้ที่แข็งแรงเช่นนี้ด้วย

“เย่ห้าวหรานคือชื่อปลอมในอดีตของข้า ผู้เพื่อนยุทธ์อิงยังจำได้หรือไม่?”หลัวซิวถาม

“ว่าอย่างไรนะ? เจ้าคือน้องเย่หรือ?” อิงบูเฉิงตกตะลึงหนักมาก ใบหน้าเปี่ยมล้นไปด้วยความเหลือเชื่อ “หรือว่าเจ้าบรรลุถึงแดนมกุฎเทพแล้ว?”

อิงบูเฉิงจำได้ดีมาก ๆ ว่าเมื่อปีนั้นตัวเองคือราชาเทพช่วงปลาย ดูเหมือนกับว่าเย่ห้าวหรานเพิ่งบรรลุสู่ราชาเทพได้ไม่นาน ปัจจุบันกว่าตนจะยกระดับถึงกึ่งมกุฎเทพนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะเป็นมกุฎเทพแล้ว ระดับความเร็วในการฝึกตนเช่นนี้มันน่าสยดสยองมากเกินไปหรือเปล่า?

“แค่บังเอิญโชคดีแล้วบรรลุน่ะ”หลัวซิวไม่ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้อธิบายมากนัก

“มึงคือผู้ใด? มึงก็กล้าเสือกเรื่องราวในตระกูลจางของกูหรือ?”

มกุฎเทพนั่นที่ถูกหลัวซิวโจมตีจนกระเด็นออกไปลุกขึ้นยืน แล้วตวาดด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน

“ตระกูลจางอะไรวะ? กูไม่เคยได้ยินมาก่อน”หลัวซิวตอบกลับอย่างเรียบนิ่งคำหนึ่ง ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นตระกูลจงตระกูลจางอะไร ต่อให้เป็นคนในหอยอดอัมพรแล้วอย่างไร?

“ช่างโอหังยิ่งนัก ถึงขั้นไม่นำตระกูลจางแห่งเมืองฮวงเยว่ของพวกกูไปไว้ในสายตา กูก็อยากรู้เช่นกันว่ามึงจะมีปัญญามากเท่าไหร่เชียว!”

จู่ ๆ ก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้น ถัดจากนั้นจากตึกแห่งหนึ่งที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ก็มีเงาดำร่างหนึ่งปรากฏตรงหน้าหลัวซิวภายในพริบตา

อิงบูเฉิงถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ก่อนจะบอกเล่าต้นสายปลายและความเป็นมาทุกอย่างให้หลัวซิวฟังโดยคร่าว ๆ รอบหนึ่ง ที่แท้อิงบูเฉิงไม่มีแผนที่จะมาโลกาชั้นฟ้าเลย แต่เนื่องจากรุกรานคนใหญ่คนโตคนหนึ่งในงานประมูล ภายใต้ความจนปัญญา จึงทำได้เพียงพาคนทั้งครอบครัว ใช้เงินสะสมทั้งหมดซื้อป้ายบัญชาการของเรืออนัตตา เดินทางมาหลบภัยในมหาโลกายอดอัมพร

อีกทั้งพรสวรรค์ของลูกสาวเขาหยิ้งเสี่ยวเฉวี่ยนั้นดีมาก ๆ เขาก็อยากพาลูกสาวตนเองมุ่งหน้ามาโลกาชั้นฟ้าเช่นกัน จะได้มีทรัพยากรการฝึกตนที่ดีที่สุดตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น

หลังจากมาถึงมหาโลกายอดอัมพรแล้ว ถึงแม้จะใช้ชีวิตได้ยากลำบากมาก แต่ทั้งครอบครัวกลับสามารถอดทนและยืนหยัดมาได้

เดิมทีทุกอย่างนั้นเงียบสงบมาก ๆ แต่กลับนึกไม่ถึงเลยว่าพรสวรรค์ในการฝึกตนของหยิ้งเสี่ยวเฉวี่ยจะถูกตระกูลจางค้นพบ และในตระกูลจางมีบรรพอาจารย์คนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อหลายปีก่อน ร่างเนื้อพังทลาย เหลือเพียงวิญญาณช่องจิต ซึ่งต้องการครองวิญญาณที่เหมาะสมหนึ่งร่างพอดี

การฝึกยุทธ์ของหยิ้งเสี่ยวเฉวี่ยเพิ่งเริ่มต้น ยังบรรลุไม่ถึงแดนเทพมาร ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการยึดครองมากที่สุด