ยิ่งไปกว่านั้นแล้วยังมีเผ่าจี้ที่ลึกลับมิอาจคาดเดา ตอนนั้นรูปปั้นนั่นได้สังหารจักรพรรดิเทพผู้หนึ่งภายในพริบตา
บันไดของแท่นบูชา ยิ่งสูงขึ้น แรงกดดันก็ยิ่งแข็งแกร่ง ไม่รู้ว่าจักรพรรดิเทพทั้งเจ็ดเดินอยู่นานแค่ไหน แต่ละคนต่างพากันสูญเสียผลการฝึกตนไปมาก แต่ก็ยังคงมองเห็นปลายทาง ไม่รู้ว่าต้องเดินไปจนถึงตอนไหน
จักรพรรดิเทพทั้งเจ็ดเพิ่งจะเดินขึ้นแท่นบูชาไปมานานนัก หลัวซิวอยู่ริมธารโลหิต ในที่สุดก็ได้อิงตามผังปรปักษ์สวรรค์และภาพจ้านเทียน อาศัยเจตจำนงของวิญญาณวีรชนที่ตกค้างอยู่ในธารโลหิต สร้างพลังอมตะสองแขนงขึ้นมา
พลังอมตะสองแขนงนี้ มีต้นกำเนิดมาจากผังปรปักษ์สวรรค์และภาพจ้านเทียน หลัวซิวจึงได้ตั้งชื่อว่าตราปรปักษ์สวรรค์ กับหมัดจ้านเทียน
ที่ธารโลหิตแห่งนี้ ก่อเกิดพลังอมตะสองแขนงนับเป็นขีดสุด สำหรับความมหัศจรรย์ของภาพปราบสวรรค์กับภาพฝังสวรรค์ ยังต้องมีโอกาสถึงจะสามารถตระหนักรู้ได้
หลัวซิวไม่ได้อยู่ตรงนี้ต่อไป เขาขับเคลื่อนห้วงความคิด เงาร่างเลือนรางของวิญญาณวีรชนปรากฏขึ้นข้างกายเขาคนแล้วคนเล่า พลังโจมตีจิตสังหารในธารโลหิตหายไปอย่างไร้ร่องรอยภายในชั่วพริบตา ไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อเขาเลยสักนิด
ระยะเวลาเพียงสั้น ๆ เขาก็สามารถข้ามธารโลหิตไปอย่างง่ายดาย มาถึงฝั่งตรงข้าม
ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนกับชีชีไม่ได้จากไป แต่ได้นั่งทำสมาธิรออยู่ที่อีกฝั่งของธารโลหิต ในตอนที่หลัวซิวปรากฏตัวขึ้น พวกเขาทั้งสองต่างก็ลืมตา
“ไท่ซ่างตัวภาระ เหตุใดเจ้าถึงได้ช้าเช่นนี้?” ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนขมวดคิ้วกล่าว
หลัวซิวคร้านที่จะสนใจเขา มองไปยังชีชี ยิ้มอ่อน ๆ “ให้แม่นางชีชีรอนานแล้วนะ พวกเราไปกันเถอะ”
“เจ้าคนนี้นี่ ทำเป็นมองไม่เห็นข้าเช่นนั้นหรือ?” ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนกล่าวด้วยความไม่พอใจสะสม เหมือนอยากจะฉีกหน้าใช้มารดาเตาผืนทองทับเจ้าคนนี้ให้ตาย
วังใต้แห่งนี้มีความลึกลับและแปลกประหลาดอยู่ทุกหนแห่ง แต่อันตรายที่แท้จริงนั้นกลับมีอยู่ไม่มาก ไม่มีอุปสรรคใด ๆ ในการเดินทางข้างหน้า ทั้งสามเดินทางร่วมกัน ไม่นานก็ได้เห็นแท่นบูชาที่สูงตระหง่านอยู่ไกล ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...