เพราะความหวังนั้นมันริบหรี่มากจริง ๆ
กัดปลายนิ้วให้แตก แล้วหยดเลือดสดลงไปบนแผ่นกระดูก แผ่นกระดูกสีขาวหยกที่ใส่แจ๋วในตอนแรกก็ค่อย ๆ ถูกย้อมด้วยเลือดหนึ่งหยด
ทันใดนั้นเอง แผ่นกระดูกก็ค่อย ๆ เลือนราง สลัวเหมือนเงาร่างหนึ่ง แล้วหลอมรวมเข้าไปในร่างกายหลัวซิว
วิชาก่อเกิดกายที่ตระหนักรู้ได้จากเศษหนังสือยุทธภัณฑ์ไม่ได้ทำให้แดนกลั่นร่างของหลัวซิวพัฒนาขึ้นอีกก้าว แดนกลั่นร่างของเขายังคงเป็นจ้าวมหาเทพขั้นสูงอยู่เช่นเคย แต่หลังจากฝึกวิชาก่อเกิดกายแล้ว แดนของเขาไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่ร่างยุทธ์ร่างเนื้อกลับแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
นี่จึงทำให้หลัวซิวรู้สึกดีใจอย่างยิ่ง เมื่อมีวิชาหนังสือยุทธภัณฑ์ วิถียุทธ์ของเขาก็อยู่บนเส้นทางที่มีแนวโน้มที่จะบริบูรณ์แล้ว ก้าวออกไปหนึ่งก้าวยาว
แม้อนาคตจะไม่สามารถรวบรวมวิชาหนังสือยุทธภัณฑ์ให้สมบูรณ์ครบถ้วน หลัวซิวก็ไม่รู้สึกอะไรมากนัก วิถีไร้ลักษณ์ที่เขาฝึกนั้น แก่นสารของมันก็อยู่ที่การอนุมาน สร้างสรรค์และริเริ่มนี่แหละ
เมื่อปีนั้นเขาสามารถเพิ่มเสริมให้ฎีกาค่ายสมบูรณ์ครบถ้วน เช่นนั้นสักวันเขาก็สามารถใช้เศษหนังสือยุทธภัณฑ์ เพิ่มเสริมให้วิชาหนังสือยุทธภัณฑ์สมบูรณ์ครบถ้วนได้เช่นกัน!
ถึงแม้สิ่งที่เขาเพิ่มเสริมจะแตกต่างจากฎีกาค่ายและหนังสือยุทธภัณฑ์ที่แท้จริงมาก ๆ ทว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่เขาอนุมานออกมาได้ มันเหมาะสมกับตัวเขาเองมากที่สุดต่างหาก ฝึกตนตามลำดับโดยอ้างอิงจากคนรุ่นก่อน มันกลับจะทำให้ศักยภาพต่ำลง
หลัวซิวไม่มีความคิดที่จะไปเกาะเทียนเหออีกแล้ว อย่างน้อยก็เดินทางไปบัดนี้ไม่ได้ เนื่องจากเขาไม่แน่ชัดว่าในเกาะเทียนเหอมีผู้แข็งแกร่งแฝงซ่อนอยู่มากเพียงใดกันแน่ ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่สามารถใช้อุบายไพ่เด็ดบางอย่าง หากตนประสบกับผู้แข็งแกร่งที่ไม่สามารถต่อกรด้วย มันก็จะเป็นปัญหาแล้วจริง ๆ
“จอมยุทธ์โลกาชั้นฟ้านี่มั่งคั่งเสียจริง”
ของทั้งหมดที่อยู่ในแหวนเก็บของของชายผมแดงถูกหลัวซิวนำออกมาเรียบเรียง แล้วเก็บเข้าไปในแหวนเก็บของของตัวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...