มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 261

ของอยู่ในมือแล้ว แต่หลัวซิวยังไม่ได้ออกมา แต่เอาธงค่ายออกจากแหวนเก็บของ วางค่ายสังหารยากเย็น บริเวณสระน้ำแร่วิญญาณ

รวมค่ายยากเย็นกับค่ายสังหารเอาไว้ด้วยกัน มาจากจิตสัมผัสที่หลัวซิวทำความเข้าใจกับค่ายกลโบราณ พลังแห่งชีวิตสลักค่ายยากเย็น พลังแห่งความตายสลักค่ายสังหาร เป็นความลี้ลับที่แอบหลอมสิ่งลึกลับความเป็นตายเอาไว้ด้วยกัน

หลังวางค่ายกลเสร็จ หลัวซิวลอยออกมา ซ่อนร่างกายเอาไว้

ตู้ม!

ในสถานที่ต่อสู้ห่างไปหลายลี้ ม่านแสงระยิบระยับพุ่งขึ้นมา เหมือนชามใหญ่ครอบราชาศพเดินได้เอาไว้ แสงค่ายพาดผ่านกันไปมา ภายใต้การจู่โจมอย่างดุดันของราชาศพเดินได้ แสงม่านสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เหมือนระลอกคลื่น

เมื่อเห็นราชาศพเดินได้โดนขังในค่ายกล ถาวโจว่จวิ้นกับคนอื่น ถึงกับโล่งอก หันไปมองที่ไกลๆ ด้วยแววตาลุกโชน

“รีบไปเอาน้ำแร่วิญญาณ!”

อาศัยถาวโจว่จวิ้นเป็นหัวหน้า ทั้งห้าคนล้วนใช้วิชาท่าร่างแสนพิเศษ เพียงพริบตาก็มาถึงบนท้องฟ้าที่หน้าผา ตรงสระน้ำแร่วิญญาณ

“ไม่มีน้ำแร่วิญญาณแล้ว!”

เมื่อพวกเขาก้มลงมองสระเล็กๆ ที่ว่างเปล่าด้านล่าง ต่างพากันหน้าเปลี่ยนสี

ถาวโจว่จวิ้นสีหน้าอึมครึมจนน่ากลัว รวมไปถึงท่านต้วนกับปรมาจารย์ฝึกจิตขั้น9 ทั้งสองคน ต่างก็โมโห พวกเขาสูญเสียคนไปไม่น้อย ต่อสู้สุดชีวิตกับราชาศพเดินได้อยู่ตั้งนาน แต่บุคคลที่สาม กลับได้ผลประโยชน์อย่างนั้นเหรอ

ตัวสำนึกของท่านต้วนแผ่ซ่านออกมา สำรวจความเคลื่อนไหวรอบๆ ค้นหาร่องรอยเล็กๆ น้อยๆ

แต่ขณะนั้น ลมปราณค่ายกลเคลื่อนไหวเบาๆ โดนท่านตัวสัมผัสได้อย่างรวดเร็ว

“ไม่ได้การแล้ว! เจ้าสำนักน้อยรีบถอยเร็ว!”

ท่านต้วนยื่นมือไปคว้าถาวโจว่จวิ้นทันที จากนั้นก็ลอยออกไป

ตู้ม!

แสงดำอันน่ากลัวระเบิดออกมา แสงดำขนาดใหญ่ ที่แฝงไปด้วยลมปราณแห่งความตาย กลายเป็นแสงกระบี่ใหญ่ และกลายเป็นรูปมังกร

เว้นแต่ท่านต้วน ถาวโจว่จวิ้นและปรมาจารย์ฝึกจิตขั้น9 คนหนึ่ง ที่เหลือสามคนยังไม่ทันตั้งตัว โดนบดจนกลายเป็นกองเลือด ตายทันที

“ค่ายกลขั้น5!”

สีหน้าของท่านต้วนเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก ตัวเขามีระดับค่ายกลขั้น5 แต่ค่ายกลตรงหน้า ยังห่างไกลกว่าที่เขาจะวางได้ ลี้ลับกว่าค่ายกลขั้น5 ที่เขารู้จักมาเป็นจำนวนมาก

“ไม่รู้สหายท่านใดวางค่ายกล มีความแค้นอะไรกับคนตำหนักจื่อของเรา” ท่านต้วนกับปรมาจารย์ฝึกจิตขั้น9 คุ้มครองถาวโจว่จวิ้น และตะโกนออกมาเสียงดัง

ยอดฝีมือที่วางค่ายกลขั้น5 ได้ คนที่บ่มเพาะออกมา ต้องไม่ใช่อำนาจธรรมดา ท่านต้วนสงสัยว่าเป็นคนของสำนักฉางเหอกับสำนักเสวียนหยาง

หลัวซิวอยู่ในค่ายกล มือบีบพลังตราประทับ ควบคุมพลานุภาพของค่ายกล ไม่ได้สนใจแผนของทั้งสามคน

ตู้ม! ตู้ม!……

เสียงดังออกจากค่ายสองครั้งติดต่อกัน ถาวโจว่จวิ้นเอายันต์โจมตีระดับ5 2 ใบออกมากระตุ้น

เดิมทีพวกเขาเข้าใจว่าอาศัยพลานุภาพของยันต์โจมตีระดับ5 ต้องทำลายค่ายกลสังหารนี้ได้แน่นอน แต่แสงค่ายกลสั่นสะเทือนบริเวณรอบๆ และกลับมาเป็นปกติ

“ไม่ใช่ค่ายสังหาร แต่เป็นค่ายสังหารยากเย็น ที่รวมค่ายยากเย็นกับค่ายสังหารเอาไว้ด้วยกัน!”

ท่านต้วนตกใจจนหน้าซีดอีกครั้ง การรวมค่ายกล เป็นวิธีวางค่ายกลสมัยโบราณ เขาศึกษาทำความเข้าใจเป็นสิบกว่าปี ก็ยังไม่สามารถเรียนรู้อะไรในนั้นได้สักนิด

เขาหมกหมุ่นกับวิถีค่ายกล มาห้าร้อยกว่าปี ไม่คิดไม่ฝันว่า จะมีวันหนึ่ง ที่ตัวเองจะตายในค่ายกลที่คนอื่นวาง

หลัวซิวบีบพลังตราประทับ ควบคุมแสงค่าย วิวัฒนาการปราณกระบี่รูปมังกร รวมตัวเพื่อฆ่าท่านต้วน เพราะคนๆ นั้นเป็นปรมาจารย์ค่ายกลที่อยู่ในระดับ5 เรียกได้ว่าเป็นอันตรายที่ยิ่งใหญ่

เคราขาวของท่านต้วนสะบัดขึ้น ในใจทั้งตกใจทั้งโกรธ ถ้าไม่สูญเสียพลังไปกับการว่างค่ายยากเย็นขั้น 5 เพื่อจัดการราชาศพเดินได้ไปก่อนหน้านี้ เขาพอจะมีความมั่นใจ ว่าจะออกจากค่ายสังหารยากเย็นนี้ได้

แต่มาเสียใจตอนนี้ ก็สายไปเสียแล้ว!

“ท่านต้วน!”

เห็นร่างของท่านต้วน โดนแสงค่ายสีดำบดเป็นชิ้นๆ ถาวโจว่จวิ้นโมโหเป็นอย่างมาก เพราะถ้าท่านต้วนตาย เขาไม่รู้เรื่องค่ายกล จะหนีออกไปยังไง

“พลั่ก!”

ปรมาจารย์ฝึกจิตขั้น9 คนนั้น ก็ต้านทานไม่ไหว โดนแสงค่ายสีดำที่เปลี่ยนเป็นปราณกระบี่ แทงไปที่ตัว เลือดสาดไปโดนหน้าถาวโจว่จวิ้นที่อยู่ข้างๆ

ตอนนี้ถาวโจว่จวิ้นตื่นตระหนก แววตาโหดเหี้ยม ตวาดออกมาว่า “ใครกันแน่! ใครจะฆ่าฉัน!”

เขาไม่พอใจ การเป็นเจ้าสำนักน้อย ที่อายุน้อยที่สุดของตำหนักจื่อ ความสำเร็จในอนาคตของเขายังมีความหวัง แต่ถ้าตายในแดนปริศนา ทั้งหมดจะเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น

“คนที่ฆ่านาย คือหลัวซิว นอกจากนี้ ขอบใจเจ้าสำนักน้อยถาวที่ช่วยหาน้ำแร่วิญญาณเยอะขนาดนี้จนเจอ”

เสียงของหลัวซิวดังเข้ามาในค่ายกล

“นายเองเหรอ หลัวซิว นายต้องไม่ตายดีแน่!” ดวงตาสองข้างของถาวโจว่จวิ้นแดงก่ำ ตวาดออกมาเสียงดัง

แสงค่ายซ้อนทับไปมา ปราณกระบี่สีดำรูปมังกร กลบตัวของถาวโจว่จวิ้นทันที

“โฮก!”

ขณะนั้น ราชาศพเดินได้ที่อยู่ไกลหลายลี้ ทำลายค่ายยากเย็น ร่างสูงกว่า 9 เมตรพุ่งมาที่นี่

หลัวซิวสะบัดมือเก็บธงค่าย และลอยขึ้นไปกลางอากาศ ใช้วิชาท่าร่างสุดพิเศษ ตามลมล่าจันทราแดนบริบูรณ์ ลอยออกไปไกล

เสียงคำรามดังขึ้นข้างหลัง หลังจากราชาศพเดินได้กลับมา เห็นน้ำแร่วิญญาณในสระโดนชิงไปจนหมด ก็บ้าคลั่งทันที

......

สักพักหนึ่ง หลัวซิวกลับมายังที่ก่อนหน้านี้ หาปี้เซียนเสว่กับชิวลั่วสุ่ยเจอบริเวณใกล้ๆ

สีหน้าของปี้เซียนเสว่มีความกังวล ถึงเธอเชื่อว่าพละกำลังของหลัวซิวแข็งแกร่งมาก แต่เขาเผชิญกับราชาศพเดินได้ ที่ทัดเทียมกับผู้แข็งแกร่งราชายุทธ์

ทันใดนั้น ตัวสำนึกของเธอ สัมผัสได้ถึงลมปราณของหลัวซิว มีความดีใจอยู่บนใบหน้า

“หลัวซิว!” เธอหันมา เห็นหลัวซิวอยู่กลางอากาศ “นายกลับมาแล้ว”

หลัวซิวเห็นความเป็นห่วงอย่างจริงใจ จากดวงตาคู่สวยของเธอ ราวกับว่าสำหรับผู้หญิงคนนี้ ขอแค่หลัวซิวปลอดภัย ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนดีไปหมด

“ใช่ ฉันกลับมาแล้ว” หลัวซิวยิ้มแล้วพยักหน้า

ชิวลั่วสุ่ยก็เห็นหลัวซิว “ได้น้ำแร่วิญญาณไหม”

เห็นได้ชัดว่าเธอห่วงน้ำแร่วิญญาณ ไม่ใช่หลัวซิว

“ได้มาส่วนหนึ่ง” หลัวซิวพยักหน้า แล้วเอ่ยขึ้น

“ดีมากเลย” ชิวลั่วสุ่ยถอนหายใจอย่างโล่งอก และจ้องหลัวซิว “ฉันต้องการ 15 หยด”

กลั่นยาวิญญาณหยินหยาง 1 เม็ด ต้องใช้น้ำแร่วิญญาณ 5 หยด แต่ขอร้องให้นักกลั่นยาทำการกลั่นยาให้ ต้องเตรียมวัตถุดิบ 3 ชุด ดังนั้นจึงต้องการ 15 หยด

“เยอะเกินไป” หลัวซิวขมวดคิ้วเบาๆ เขาได้มาทั้งหมดประมาณ 30 กว่าหยด สิ่งนี้หาได้แค่ในแดนหยินสุดขั้ว แน่นอนว่าเขาอยากเก็บไว้เยอะหน่อย

“หลัวซิว เราคุยกันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ข้อมูลของน้ำแร่วิญญาณ ฉันก็เป็นคนบอกคุณ” ชิวลั่วสุ่ยก็ขมวดคิ้วพูดเช่นกัน

“ถูกที่คุณบอก แต่ถ้าไม่มีผม คุณก็ไม่มีทางได้สักหยด” หลัวซิวไม่ได้บอกว่าได้หรือไม่ได้

“ฉันให้ค่าตอบแทนคุณมากพอแล้ว คุณยังต้องการอะไรอีก” ชิวลั่วสุ่ยโมโหเล็กน้อย เธอเข้าใจว่าหลัวซิวต้องการค่าตอบแทนที่มากกว่านี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ