จนกระทั่งตอนนี้ นับว่าหลัวซิวนำสองระดับความเป็นตาย ยกระดับถึงตระหนักห้วงยุทธ์แล้ว
ถึงเป็นเขา ก็ไม่คิดว่าจะประสบผลสำเร็จขนาดนี้
เว้นแต่ตระหนักรู้ห้วงยุทธ์ชนิดที่สาม ตัวสำนึกของหลัวซิวผ่านระดับราชายุทธ์ขั้น 1 ไปสู่ราชายุทธ์ขั้น2 แล้ว
หลังตัวสำนึกฝ่าฟันมาได้ การโจมตีของตัวสำนึกในสำนักนี้ ไม่มีความน่าเกรงขามสำหรับเขาอีกแล้ว
เพราะสำนักไท่เสวียนให้ศิษย์ในสำนัก ฝึกตัวสำนึก ด้วยบททดสอบมากมาย ไม่มีทางใช้บททดสอบที่ยากเกินไป ไม่งั้นจะไม่ใช่การทดสอบ แต่จะเป็นการฆ่า
“เหลืออีกสามวัน แดนปริศนาจะปิดลง”
หลังจากลืมตา หลัวซิวขมวดคิ้ว เขาฝึกตนในสำนักนี้เพียงครู่เดียว ก็ใช้เวลานานขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเวลาที่เหลือสามวัน จะพอให้ค้นหาถ้ำโบราณแห่งนี้ต่อไปหรือเปล่า
ไม่กี่วันนี้ปี้เซียนเสว่ฝึกตนในอุโมงค์ ผลการฝึกตนยกระดับอย่างมั่นคงไม่น้อย การเคลื่อนไหวพลังจิตก็แข็งแกร่งกว่าก่อนมาก
หลัวซิวยังคงใช้ตัวสำนึกของตัวเอง คุ้มครองเธอกับหลงหมิงไว้ และเดินไปข้างหน้าสำนักรูปวงรีแห่งนี้
หลังเดินไปได้ประมาณสองชั่วยาม บริเวณรอบๆ ไม่มีแสงดำจู่โจมวิญญาณปรากฏออกมาอีกแล้ว
“มีคน!”
ทันใดนั้น หลัวซิวหรี่ตาลง เห็นเงาคนสองคนข้างหน้า เป็นหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปี
นี่ทำให้หลัวซิวตกใจมาก จากที่เขารู้ คนมีความสามารถอายุน้อยของแต่ละอำนาจใหญ่ ที่เขามาในนี้จำนวนมาก ผลการฝึกตนมากที่สุด ไม่เกินฝึกจิตขั้น7 อย่าบอกนะว่าสองคนนี้ก็ฝึกวรยุทธ์กลั่นวิญญาณ อีกทั้งตัวสำนึกทัดเทียมได้กับระดับราชายุทธ์
ตอนหลัวซิวเห็นอีกฝ่าย ชายหนุ่มสองคนก็เห็นเขากับปี้เซียนเสว่ แววตาประหลาดใจเช่นกัน
ทั้งสองหายตัวแวบพร้อมกัน ไม่นานก็เข้ามาใกล้ หลัวซิวจึงเห็นอย่างชัดเจน ชายหนุ่มสองคนนี้ คนหนึ่งคือกู้เค่ออาน เป็นอัจฉริยะของสำนักเสวียนหยาง ส่วนอีกคนคือซือโคงสวี่ อัจฉริยะของสำนักฉางเหอ
ขณะเดียวกัน หลัวซิวสังเกตเห็นว่า สองคนนี้ไม่ได้มีตัวสำนึกระดับราชายุทธ์ มาถึงที่นี่ ผลการฝึกตนอยู่ในฝึกจิตขั้น6 ต้องอาศัยสมบัติต้านทานจู่โจมวิญญาณอะไรบางอย่าง ถึงเข้ามาที่นี่ได้
สามสำนักใหญ่กับราชวงศ์ตระกูลฝาน ล้วนรู้ความลับบางอย่างในถ้ำโบราณ สำหรับสถานการณ์ข้างในก็ต้องรู้อยู่แล้ว และเตรียมแผนเอาไว้บางส่วน ไม่ได้น่าแปลกอะไร
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลัวซิววางใจลง ขอแค่อีกฝ่ายไม่ได้เอาพละกำลังที่แท้จริงมา เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัว
“ที่แท้ศิษย์พี่หลัวนี่เอง กระผมเคยได้ยินชื่อเสียงอันโด่งดังของศิษย์พี่หลัว” ซือโคงสวี่สำนักฉางเหอ หัวเราะร่าแล้วเอ่ยขึ้น ดูภาคภูมิมาก
“ได้ยินว่าเมื่อหนึ่งปีก่อน ศิษย์พี่หลัวฝ่าฟันเข้าไปที่หอคอยมังกรบินชั้น7 โดนขนานนามว่าอัจฉริยะที่หาได้ยากในรอบหลายปี วันนี้ได้เจอ เป็นโชคดีทั้งสามชาติ” กู้เค่ออานดูสุภาพ ยิ้มแล้วหันมาประสานมือทำความเคารพหลัวซิว
“ทั้งสองท่านเกรงใจแล้ว” หลัวซิวยิ้มแล้วประสานมือทำความเคารพเช่นกัน
เรียกว่ามือที่ยื่นมาย่อมไม่ตบคนที่ส่งยิ้มให้ แค่อีกฝ่ายไม่ล่วงเกินตัวเอง โดยปกติหลัวซิวก็ไม่เป็นฝ่ายไปหาเรื่องคนอื่นอยู่แล้ว
“ฉันได้ยินมาว่ามีคนเข้ามาไม่น้อย ทำไมมีแค่ทั้งสองท่าน คนอื่นล่ะ” หลัวซิวถาม
ได้ยินหลัวซิวถามเช่นนี้ สีหน้าของสองคนฝั่งตรงข้าม ไม่สู้ดีขึ้นมา ซือโคงสวี่ตอบว่า “ก่อนหน้านี้ มีสองสามคนที่ตายในสำนัก ในเมื่อศิษย์พี่หลัวเดินมาถึงที่นี่ได้ คงรู้ว่าการจู่โจมวิญญาณของสำนักนั้น ถึงระดับราชายุทธ์”
หลัวซิวพยักหน้า “ใช่ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันมีสมบัติต้านทานการจู่โจมวิญญาณ คงต้องตายอยู่ในสำนักอย่างแน่นอน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...