สถานที่รกร้างอันกว้างใหญ่ ลมพัดอย่างรุนแรง จากเมืองเทียนหวูมาถึงสถานที่รกร้างทางเหนือ หลัวซิวใช้เวลาเกือบหกวัน
ทว่าจะไปถึงตำแหน่งภูตอัคคี ที่ทำเครื่องหมายไว้บนแผนที่ อย่างน้อยต้องใช้ระยะทางสิบกว่าวัน
สถานที่รกร้างแห่งนี้ เป็นสวรรค์ของอสูรกาย ถ้าเดินทางในอากาศ อาจโดนอสูรกายบนฟ้าเพ่งเล็ง ดังนั้นหลัวซิวจึงทำได้เพียงซ่อนลมปราณ เดินไปตามทางที่เต็มไปด้วยกรวดหินดินทราย
ทันใดนั้น สายตาของหลัวซิวนิ่ง กระบี่ยุทธ์ดินด้านหลังออกจากฝัก เศษเงาใช้ความเร็วสุดขีด พุ่งเข้ามาทางเขา
พรวด!
จากนั้นเสียงร้องโอดครวญดังขึ้นมา เลือดสดสาดกระจายไปทั่ว อสูรกายสีดำทั้งตัว เหมือนกิ้งก่า ถูกฟันจนแยกเป็นสองส่วน ศพที่แตกออกร่วงลงมาบนพื้น
นี่เป็นอสูรกายระดับ3 ชื่อว่ากิ้งก่าเงาดำ พบบ่อยในสถานที่รกร้างทางเหนือ เชี่ยวชาญการลอบโจมตีอย่างรวดเร็ว
อสูรกายระดับนี้ มูลค่าของวัตถุดิบนตัว ไม่อยู่ในสายตาของหลัวซิว เขาสะบัดมือเอากระบี่ยุทธ์เก็บเข้าไปในฝัก และเดินไปต่อข้างหน้า
ในสถานที่รกร้าง บางครั้งจะเห็นต้นไม้ขนาดเล็ก และแผ่นหินของสวนหิน ที่ผ่านกาลเวลามานานจนหลุด และถูกลมแรงพัดลอยมา ระยะเวลาเพียงสองวัน หลัวซิวเจอการโจมตีของอสูรกายเป็นสิบครั้ง
สำหรับการเพ็ญตนของตัวเอง หลัวซิวไม่ได้ละทิ้ง การไปแดนปริศนา ทำให้เขาได้ยาวิเศษมาเยอะมาก กลั่นเป็นยาระดับ4 จำนวนมาก ที่ใช้เป็นตัวช่วยในการฝึกยกระดับผลการฝึกตน
เขารู้ดีว่าการหาภูตอัคคีฟ้าดินไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นก่อนที่จะมาสถานที่รกร้างทางเหนือ เขาก็เตรียมตัวมาอย่างดี
หลังผ่านไปครึ่งเดือน ผลการฝึกตนของหลัวซิวก้าวหน้าขึ้นไม่น้อย เกือบจะถึงแดนฝึกจิตขั้น8 แล้ว แค่ฝึกตนต่อไปอีกสักระยะ การฝ่าฟันไปถึงฝึกจิตขั้น8 ต้องสำเร็จอย่างแน่นอน
พื้นดินรกร้างอันกว้างใหญ่ หลัวซิวเอาแผนที่ออกจากแหวนเก็บของ เทียบเคียงกับจุดเครื่องหมายบนแผนที่ พบว่าระยะห่างจากตำแหน่งภูตอัคคี ยังมีระยะทางอีกไกล
ทันใดนั้น พลังฟ้าดินจิตเคลื่อนไหวมาจากข้างหน้าไกลสิบกว่าลี้ แอบได้ยินเสียงคำรามของอสูรกาย
จากนั้นหลัวซิวเห็นเงารางๆ ของคน ค่อยๆ ใกล้เข้ามา เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยเลือด เห็นเงาคนอยู่ไกลๆ เหวี่ยงแขนทั้งสองข้าง และล้มลงบนพื้น
เห็นได้ชัดว่า เมื่อกี้คนนี้เห็นหลัวซิว โบกมือเพราะต้องการความช่วยเหลือ
หลัวซิวขมวดคิ้วเบาๆ เขาหายตัวแวบไปมา แล้วปรากฏตัวข้างอีกฝ่าย นี่เป็นชายวัยกลางคน บนตัวมีป้ายบัญชาการ บนนั้นเขียนว่า ‘โลกยุทธ์หย่งชาง’
“คนของหอหย่งชางอย่างนั้นเหรอ” หลัวซิวมองชายคนที่บาดเจ็บ ยืนนิ้วไปกลางอากาศ เอาพลังแห่งชีวิตส่งเข้าไปในตัวของคนๆ นี้ ฟื้นฟูลายเส้นชีวิตที่ได้รับความเสียหาย
ภายใต้การรักษาของหลัวซิว ชายวัยกลางคนที่บาดเจ็บสะลึมสะลือ ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา ลืมตามองเห็นหลัวซิว
“ขอบคุณน้องชายท่านนี้มาก......” ชายวัยกลางคนรู้สึกว่าอาการบาดเจ็บบนตัว ดีขึ้นเยอะ นอกจากอ่อนเพลีย ก็ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆ แล้ว ไม่รู้ว่าชายหนุ่มคนนี้ทำได้อย่างไร
“ไม่ต้องขอบใจ ได้เจอฉันถือว่านายโชคดี”
หลัวซิวหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ “ในเมื่อนายไม่เป็นอะไรแล้ว งั้นฉันขอลาก่อน”
หลังพูดจบ หลัวซิวหันหลังออกไป
ในสามอำนาจใหญ่ของเขตการปกครองโตว้ไห่ สำนักเหลยหวู่กับตระกูลกงซุน เคยเข้าร่วมเรื่องการล้อมโจมตี เหยียนเยว่เอ๋อร์ จักรพรรดิยุทธ์เทียนเฟิ่ง แต่กลับมีเพียงหอหย่งชาง ที่ไม่ได้เข้าร่วม ดังนั้นหลัวซิวไม่ได้คิดร้ายกับคนของหอหย่งชาง และถือโอกาสให้ความช่วยเหลือ
ความโหดเหี้ยมอาฆาตที่มี พุ่งเป้าเพียงแค่พวกที่เป็นศัตรูตัวเองเท่านั้น หรือไม่ก็คนที่ตัวเองคิดว่าเป็นศัตรู
การถือโอกาสช่วยเหลือ ไม่ได้นับประสาอะไรสำหรับหลัวซิว แต่เขาก็ไม่ใช่คนมีเมตตาอะไร สำหรับสาเหตุที่ชายวัยกลางคน ได้รับบาดเจ็บ เขาจึงไม่ได้ถาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...