“หากข้าสามารถกลั่นแปรยาเซียนพรสวรรค์ต้นนี้ได้ ผลการฝึกตนจะต้องผ่านพันธนาการ ก้าวเข้าสู่แดนเทพมารระดับเจ็ดได้อย่างแน่นอน!”
ต่อให้เป็นผู้มีตัวธรรมที่สงบอย่างหลัวซิว ตอนนี้ก็หวั่นไหวเช่นเดียวกัน ทว่าไม่นานเขาก็ได้ขมวดคิ้ว เพราะบริเวณใกล้เคียงของยาเซียนต้นนี้ มีตัวต้องห้ามอันแข็งแกร่งอยู่
แม้ว่าสำหรับหลัวซิวในตอนนี้แล้ว ขอเพียงไม่ใช่วิชาห้ามค่ายกลระดับเทพขั้นเก้า โดยทั่วไปแล้วเขาล้วนสามารถทำลายได้ทั้งนั้น ทว่าตอนนี้กลับไม่มีเวลาให้เขาไปคิดหาวิธีทำลาย เพราะเขาได้สัมผัสถึงพลังอันแข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งกำลังพุ่งเข้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว
คิดมาถึงตรงนี้ หลัวซิวพลันขยับ ร่างของเขาหายไปจากที่เดิม จากนั้นก็ได้ซ่อนตัวอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ยันต์ค่ายสลักซ่อนกลิ่นอายประทับลงบนร่างตนเอง ไม่ปล่อยให้มีกลิ่นอายเล็ดลอดออกไปด้านนอกเลยสักนิด
ไม่กี่อึดใจ ก็มีเงามหึมาร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้า เป็นคนของชนเผ่าเฉว่ซ่าที่ยื่นอยู่บนหลังของอสุรกายร่างใหญ่หน้าตาน่าเกลียด ซึ่งมีเทพมารระดับเก้าอย่างเทียนซ่าเเจินจวินเป็นผู้นำ!
ศิษย์ของชนเผ่าเฉว่ซ่าต่างก็มีรัศมีพลังอันแรงกล้า เมื่อมองเห็นยาเซียนพรสวรรค์ที่อยู่ข้างบ่อน้ำต้นนั้น สีหน้าท่าทางบนใบหน้าตะลึงยิ่งกว่าหลัวซิวในเมื่อสักครู่เสียอีก
“ฮ่า ๆ คิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะเข้ามาในแดนปริศนาแห่งนี้ก็พบเข้ากับสมบัติชั้นยอดอย่างยาเซียนพรสวรรค์เข้าเสียแล้ว!”
เทียนซ่าเเจินจวินอารมณ์ดีเป็นพิเศษ กระจายตัวสำนึกกวาดไปทั่วบริเวณ กลับไม่พบว่ามีใครอยู่เลย เช่นนั้นแล้วยาเซียนพรสวรรค์ต้นนั้นย่อมต้องเป็นของเขาไปโดยปริยาย
ยาเซียนพรสวรรค์ต้นหนึ่งหากใช้ประโยชน์จากมันได้ดี ก็เพียงพอที่จะช่วยเขาทะลวงพันธนาการ ทำให้ผลการฝึกตนของเพิ่มถึงแดนเทพมารระดับเก้าช่วงกลาง ผนึกรวมกงล้อเทพวงที่สอง!
กงล้อเทพ เป็นสัญลักษณ์ของผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับเก้า กงล้อเทพยิ่งเยอะ ความสามารถก็จะยิ่งแข็งแกร่ง
ระหว่างที่หัวเราะอยู่นั้น เทียนซ่าเเจินจวินก็ลงมือโดยไม่ลังเล แม้ว่าเขาจะสัมผัสได้ถึงตัวต้องห้ามที่อยู่บริเวณใกล้กับบ่อน้ำ แต่ยาเซียนพรสวรรค์ต้นนั้นไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องเอามันมาให้ได้
“ครืนนน!”
อัสนีเทวสายหนึ่งได้ปรากฏขึ้น ตามมาด้วยเสียงมังกรคำราม กลายเป็นมังกรสายฟ้าหน้าตาดุร้ายตัวหนึ่ง มังกรสายฟ้าตัวนี้เป็นเหมือนดั่งอสูรจิตที่มีอยู่จริง รัศมีพลังทัดเทียมได้กับเทพมารระดับเก้าแผ่ซ่านออกมาจากร่างของมัน
หลัวซิวที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนักมองเห็นภาพนี้ ก็ดูออกทันทีว่า มังกรสายฟ้าตัวนี้ไม่ใช่อสูรจิตที่แท้จริง แต่มันถูกสร้างขึ้นมาจากค่ายกล
“หึ ก็แค่สิ่งที่ค่ายกลสร้างขึ้นมา มีสิ่งใดให้กลัว?”
เทียนซ่าเเจินจวินทำเสียงฮึดฮัดอย่างเหยียดหยาม เงากระบี่เทพสีเลือดเล่มหนึ่งลอยตั้งขึ้นมาด้านหลัง ซึ่งสร้างขึ้นมาจากจิตตั้งบู๊ของเขา เห็นเพียงเขายกมือขึ้นจับ เงากระบี่เทพสีเลือดก็ได้หดเล็กลงไปเรื่อย ๆ กลายเป็นกระบี่สังหารเล่มหนึ่ง หล่นลงสู่มือของเขา
ทันทีทันใด เทียนซ่าเเจินจวินกับมังกรสายฟ้าก็ได้ต่อสู้เข้าด้วยกัน การประมือของเทพมารระดับเก้าทั้งสองนั้นพูดได้ว่าฟ้าถล่มดินทลาย
ฝีมือของเทียนซ่าเเจินจวินร้ายกาจกว่ามังกรสายฟ้าอยู่บ้าง แต่มังกรสายฟ้านั้นถูกสร้างขึ้นมาโดยค่ายกล เมื่อร่างกายถูกทำร้ายก็จะฟื้นฟูอย่างรวดเร็วภายใต้การปลุกเสกเบิกเนตรของค่ายกล เหมือนดั่งร่างอมตะ
เมื่อเป็นเช่นนี้ เทียนซ่าเเจินจวินกลับตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ถูกมังกรสายฟ้ากัดเข้าที่ไหล่ เลือดไหลอาบ ฟ้าแลบแปล๊บ ๆ กลิ่นไหม้ลอยมาเป็นระยะ
ทว่าเทียนซ่าเเจินจวินกลับไม่ยินยอมที่จะกลับไปเช่นนี้ เขาใช้พลังทั้งหมดต่อสู้กับมังกรสายฟ้า ปากก็ตวาดขึ้นมา: “มังกรสายฟ้าตัวนี้ถูกข้ารั้งเอาไว้แล้ว พวกเจ้าไปเก็บยาเซียนนั่นมา!”
“ขอรับ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชั่วพริบตาบรรดาเทพมารระดับแปดของชนเผ่าเฉว่ซ่าสิบกว่าคนได้พุ่งเข้าหายาเซียนพรสวรรค์ที่อยู่ข้างบ่อน้ำต้นนั้น
ทว่าในตอนนี้เอง หลัวซิวที่แอบอยู่ในที่ลับพลันได้ลงมือ เขาใช้กระบี่ร่องฟ้าออกมาโดยไม่ลังเล
“ทะยานเซียน!”
ทันใดนั้นเอง เหมือนดั่งว่าบนโลกนี้เหลือเพียงแสงกระบี่อันแวววาวอยู่เพียงเท่านั้น ผู้แข็งแกร่งขั้นเทพมารระดับแปดสิบกว่าคน ทุกการเคลื่อนไหวเหมือนดั่งถูกทำให้ชะงัก หยุดนิ่งอยู่อย่างนั้น
แสงกระบี่สายนี้ สวยงามล้ำเลิศ ดั่งเซียนไร้เทียมทาน ทะยานสู่นภา
“พลัวะ”
อัสนีโลหิตเบ่งบานดอกแล้วดอกเล่า เทพมารระดับแปดสิบกว่าคน ถูกแสงกระบี่กวาดผ่าน ร่างของแต่ละคนแตกสลาย กลายเป็นผุยผง
ปริภูมิกับความเร็วปลุกเสกเบิกเนตรทวีคูณ บวกกับยันต์ค่ายความเร็วทั้งสามสิบสามสายที่สลักบนร่างตนเอง หลัวซิวได้ปรากฏขึ้นที่ริมบ่อน้ำภายในพริบตา โบกมือเก็บเอายาเซียนพรสวรรค์เข้าไว้ในกล่องหยกที่ประณีตงดงามกล่องหนึ่ง
“เดรัจฉาน บังอาจ!”
เทียนซ่าเเจินจวินที่กำลังต่อสู้อยู่กับมังกรสายฟ้าโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ เขารั้งมังกรสายฟ้าที่ค่ายกลสร้างขึ้นไว้ด้วยชีวิต กลับกลายเป็นสร้างประโยชน์ให้ศัตรู ซึ่งมันทำให้เขาแทบกระอักเลือดออกมา
ภายใต้ความโมโห เทียนซ่าเเจินจวินไม่สนใจการโจมตีของมังกรสายฟ้า ยกมือฟันกระบี่เข้าหาหลัวซิว กระบี่นี้เกิดขึ้นจากความโกรธ อานุภาพทรงพลัง
“ตึง!”
เตากลั่นนภาจื่อเซียวปรากฏขึ้นมาบนศีรษะของหลัวซิว ขณะเดียวกันนั้นสองมือได้แสดงพลังอมตะ เพลาไหลรวยสายหนึ่งปรากฏขึ้น ภายใต้ผลกระทบจากเพลาไหลรวย กระบี่ที่เกิดจากความโมโหของเทียนซ่าเเจินจวิน จึงมีอานุภาพลดลงไปไม่น้อย
ครืนนน!
แสงกระบี่ฟันลงไปบนเตาเซียน หลัวซิวร่างสั่นสะท้าน ผิวหนังภายนอกแตกออก เลือดสด ๆ ไหลอาบ
ถึงแม้ว่าเขาจะดูเหมือนได้รับบาดเจ็บหนัก แต่ความจริงแล้วเป็นเพียงบาดเจ็บภายนอกเท่านั้น เงาร่างเคลื่อนไหว เหาะเหินไกลออกไปอย่างรวดเร็ว
“สมควรตายนัก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...