มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 2741

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเทียนซ่าเจินจวิน ยู่ช่าโหมวจวินทำเพียงแค่หัวเราะเยาะ จากนั้นจึงพาฮู๋ชิงชิงกลับไปทางเดิม ถึงแม้การมาครั้งนี้จะไม่ได้อะไรมากนัก แต่นางไม่มีนางนำชีวิตของคนในตระกูลไปเสี่ยงบุกเข้าไปยังค่ายกลในตำนานอย่างมหาค่ายสยบฟ้าแน่นอน

“อาจารย์ หลัวซิวเขา......” ฮู๋ชิงชิงหะนมองร่างของหลัวซิวที่ค่อย ๆ จางหายเข้าไปในมหาค่ายสยบฟ้าอย่างเป็นกังวล

“ชิงชิง เจ้าชอบเขาจริง ๆ หรือ ?” ยู่ช่าโหมวจวินพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

เมื่อได้ยินดังนั้น ฮู๋ซิงซิงก็รู้สึกสับสน นางอยากพูดว่าตนเองไม่ได้ชอบหลัวซิว แต่นางรักเขามากต่างหาก เพียงแต่คำพูดเช่นนี้ เมื่ออยู่ต่อหน้าอาจารย์ทำให้ยากจะเอ่ยออกมาได้ ส่วนที่นางรู้สึกสับสนเป็นเพราะว่า นางสัมผัสได้เป็นอย่างดีว่า หลัวซิวไม่ได้มีความรู้สึกเช่นนั้นกับนาง

ถึงขั้นที่ว่า ความรักที่นางกำหนดขึ้นในหัวใจนั้น นางยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นสิ่งที่เรียกกันว่ารักแท้หรือไม่ บางทีอาจเป็นเพราะตอนที่นางได้รับการแนะนำจากอสูรฟ้า รวมถึงตอนที่เขาปกป้องนางในแดนแต่งตั้งราชา ทำให้นางหลงรักผู้ชายคนนี้เข้า

เพียงแต่ความรู้สึกครั้งนี้ จะลงเอยได้จริงหรือเปล่านะ ?

เมื่อยู่ช่าโหมวจวินเห็นสีหน้าลังเลของฮู๋ชิงชิง ก็พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “เรื่องนี้เจ้าต้องถามใจตัวเองดู ถ้าหากเจ้าชอบเขาจริง ๆ ส่วนเขาเองก็ชอบเจ้าเช่นกัน เช่นนั้นอาจารย์ก็จะพยายามปกป้องเขาอย่างสุดความสามารถ”

“อาจารย์ ข้า......” ฮู๋ชิงชิงเข้าใจความหมายของอาจารย์ดี ถ้าหากมีเพียงแค่นางที่ชอบหลัวซิว แต่หลัวซิวไม่ได้ชอบนาง เช่นนั้น อาจารย์ไม่มีทางลงมือช่วยเหลืออย่งแน่นอน

“เด็กหนุ่มคนนี้โดดเด่นมาก แต่กลับโดดเด่นเกินไป เขาสามารถบุกเข้าไปในมหาค่ายสยบฟ้าได้ จะต้องมีความลับใหญ่อยู่ในตัวอย่างแน่นอน พวกเทียนซ่าเจินจวินและเลี่ยเยี่ยนเจินจวินไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่นอน” ยู่ช่าโหมวจวินพูดขึ้นอย่างจิงจัง

หากต้องการปกป้องหลัวซิวจากอำนาจของเทพมารระดับเก้าจำนวนมาก ต่อให้เป็นยู่ช่าโหมวจวินก็ยังไม่รู้สึกมั่นใจนัก ถึงแม้จะทำสำเร็จ นางเองก็ต้องเสียอะไรไปบางอย่างเช่นกัน

“อาจารย์ ได้โปรดปกป้องชีวิตเขาด้วย !” แววตาของฮู๋ชิงชิงแสดงความเด็ดเดี่ยวออกมา

……

เมื่อเดินอยู่ในมหาค่ายสยบฟ้า หลัวซิวใช้ศิลาเทวชิงเทียนและเตากลั่นนภาจื่อเซียวกำจัดพลังสยบ และโคจรวิถีไร้ลักษณ์เพื่อดูดรับและกลั่นแปรวัฏจักรออร่าที่แพร่กระจายออกมา ผลการฝึกตนแดนเทพมารระดับเจ็กที่เพิ่งบรรลุได้เพียงไม่นาน มีการยกระดับอย่างต่อเนื่องในแดนปรปักษ์เช่นนี้

ทันใดนั้นเอง เขาได้ยินเสียงคำรามดังมาจากด้านหลัง ไม่ต้องหันมองก็รู้ว่าเป็นเทพมารระดับก้าเหล่านั้นที่ยังไม่ยอมถอดใจ รวบรวมพลังทั้งหมด เปิดใช้งานต้นเทวสัตเศษณ์เพื่อบุกเข้ามาในมหาค่ายสยบฟ้า แต่กลับถูกพลังสยบของมหาค่ายสยบฟ้าเข้า จนหมดแรงจะต่อต้านได้

เพราะเทพมารระดับเก้าบุกเข้ามาในมหาค่ายสยบฟ้าพร้อมกันเจ็ดแปดคน มิหนำซ้ำคนเหล่านี้ยังรวมพลังกันเพื่อเปิดใช้งานต้นเทวสัตเศษณ์ ทำให้แสดงพลังที่เกือบทัดทียมราชาเทพระดับเก้าออกมา ด้วยเหตุนี้ ทันทีที่พวเขาเข้าไปในค่ายกล จึงถูก มหาค่ายสยบฟ้าตัดสินว่าเป็นราชาเทพระดับเก้าทันที

พลังที่ราชาเทพระดับเก้าผู้หนึ่งต้องแบกรับ เมื่อก้าวเข้าไปในมหาค่ายสยบฟ้า เป็นสิ่งที่ยากจะจินตนาการได้ ชั่วพริบตาเดียวต้นเทวสัตเศษณ์ก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ ปรากฏรอยร้าวขึ้นมา บรรดาเทพมารระดับเก้าเหล่านั้นต่างกระอักเลือด และมีสีหน้าซีดเผือด

“รีบหนีเร็ว !”

พวกของเทียนซ่าเจินจวินหน้าซีดทันที แต่ตอนนี้หากคิดจะหนีกลับไปคงไม่ทันการแล้ว มิหนำซ้ำ ในที่เกิดเหตุยังมีเทพมารระดับเก้าเสียชีวิตคาที่สามคน ส่วนคนอื่น ๆ ต่างก็งัดไม้ตายในการปกป้องตนเองออกมา สุดท้ายมีเพียงพวกของเทียนซ่าเจินจวิน และเลี่ยเยี่ยนเจินจวินทั้งสี่คนที่หลบหนีออกมาได้ แต่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ในที่สุดหลัวซิวก็มาถึงด้านหน้าวัฏจักร วัฏจักรนี้ยิ่งใหญ่เกินบรรยาย เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก็มองไม่เห็นว่าจุดสิ้นสุดอยู่ตรงไหน

วัฏจักรที่จ้าววัฏสงสารรุ่นที่แปดใช้จิตตั้งบู๊สร้างขึ้นมานั้น ด้านในอัดแน่นไปด้วยพลังการฝึกตนจำนวนมหาศาล และอัดแน่นไปด้วยพลังของวัฏจักรที่บริสุทธิ์อย่างยิ่ง ความแข็งแกร่งนี้ไม่ด้อยไปกว่า พลังฉีกชั้นฟ้าที่หลัวซิวพบเจอในเขาผีเก้าเลยแม้แต่น้อย

ก่อนที่เขาจะบรรลุถึงเทพมารระดับเจ็ด ตอนที่อยู่ในส่วนลึกสุดของเขาผีเก้า ได้ร่วมมือกับหลงอวี้ จนได้รับพลังฉีกชั้นฟ้าส่วนเล็ก ๆ มา และกลั่นแปรเข้าไปในร่างเนื้อ ตอนนี้ความสามารถของเขาก้าวกระโดดไปถึงจุดที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น สิ่งนี้ทำให้หลัวซิวเกิดความสนใจในพลังของวัฏจักรที่อยู่ที่นี่ !

พลังวัฏจักรกับวัฏจักรออร่าที่เขากลั่นแปรก่อนหน้า แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง หากเปรียบพลังวัฏจักรเป็นดั่งอาหารอันโอชะ วัฏจักรออร่าก็คือกลิ่นหอมที่ลอยฟุ้งออกมาจากอาหารอันโอชะ และจะนำมาเปรียบเทียบกันได้อย่างไร ?

แต่หลัวซิวกลับไม่รีบร้อนลงมือ ตอนนี้เรื่องสำคัญคือต้องหาศูนย์กลางของมหาค่ายสยบฟ้าให้เจอ ว่าจะมีเส้นทางหรือด่านวาร์ปที่จะออกไปจากที่นี่ได้หรือไม่ รอบด้านของวัฏจักรขนาดใหญ่ เมื่อกำจัดเสาหินนับหมื่นของมหาค่ายสยบฟ้าออกไปแล้ว ก็เหลือเพียงความว่างเปล่า ไม่เหลือสรรพสิ่งใด ๆ ทั้งสิ้น

นี่บ่งบอกถึงว่า หากเขาต้องการออกไปจากที่นี่ ก็จำต้องใช้เส้นทางเดิม และเดินออกทางประตูศิลาไป ส่วนด้านนอกของมหาค่ายสยบฟ้า ก็ยังมีผู้แข็งแกร่งเทพมารระดับเก้าคอยจับตาดูอยู่เป็นจำนวนมาก !

หลัวซิวหรี่ตาลง เผยรอยยิ้มจาง ๆ ที่มุมปาก และนึกถึงภาพของเทพมารระดับเก้าที่ร่วมมือกันบุกเข้ามาในมหาค่ายสยบฟ้าเมื่อครู่

“เทพมารระดับเก้าสิ้นชีพไปหลายคนแล้ว ส่วนสมบัติและศัสตราวุธที่แข็งแกร่งต่าง ๆ ล้วนได้รับความเสียหาย เหลือเพียงพวกผู้แข็งแกร่งเทียนซ่าเจินจวินทั้งสี่เท่านั้น อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บสาหัส และยังไม่ฟื้นตัวอีกด้วย !”

สายตาของหลัวซิวมองไกลออกไปยังด้านนอกของมหาค่ายสยบฟ้า เห็นพวกของเทียนซ่าเจินจวินกำลังนั่งขัดสมาธิ และโคจรวิชากลืนยาเซียน เพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บทางร่างกาย และการฝึกตนที่ได้รับความเสียหายของตนเอง

การจากผลการฝึกตนบรรลุถึงเทพมารระดับเจ็ดแล้ว หลัวซิวก็มีความมั่นใจมากพอ ว่าตนเองเตรียมพร้อมสำหรับการรับมือกับเทพมารระดับเก้าแล้ว หาก้ขาพุ่งออกไปตอนนี้ พวกของเทียนซ่าเจินจวินไม่มีทางขวางตนเองได้อย่างแน่นอน

“ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นโอกาสดีสำหรับการหนี แต่หากมาถึงที่นี่แล้วไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไป ก็คงเสียเที่ยวเปล่า”

หลัวซิวรู้สึกสับสนเล็กน้อย เขาอยากจะเก็บพลังวัฏจักรกลับไปส่วนหนึ่ง แต่ก็เป็นห่วงว่า พวกของเทียนซ่าเจินจวินจะฟื้นฟูความแข็งแกร่งของการฝึกตน ให้กลับมาเป็นปกติได้ในช่วงเวลานี้ ถึงตอนนั้นโอกาสที่เขาจะฝ่าออกไปคงยากขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ