มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 284

ทุกครั้งที่เมืองร้างมีการจัดงานประมูล ถือเป็นเรื่องที่สร้างความตื่นเต้นให้กับคนทั้งเมือง

สิงห์ทิพย์อัคคีอร่ามและหลงหมิงต่างรอหลัวซิวอยู่ที่นอกเมือง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น อย่างไรเสียสิงห์ทิพย์อัคคีอร่ามก็ถือเป็นสัตว์ประหลาดจากยุคโบราณ หากขี่มันเข้าไปในเมืองดูจะเป็นจุดสนใจเกินไป

หลัวซิวหยิบตราของปรมาจารย์กลั่นยาระดับ 4 ออกมา และนำมาติดไว้บนหน้าอก จากนั้นจึงเดินตรงไปยังประตูใหญ่ของงานประมูล

ด้านหน้าประตูใหญ่ มีผู้ฝึกตนระดับฝึกจิต เป็นชายวัยกลางคนสองคนกำลังยืนเฝ้าอยู่ เมื่อเห็นมีคนเดินเข้ามาก็รีบเข้าไปขวางเอาไว้ทันที

แต่เมื่อทั้งสองสังเกตเห็นตราของนักกลั่นยาที่ติดอยู่บนหน้าอก สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที พวกเขาเผยรอยยิ้มออกมา พลางโค้งคำนับแล้วพูดว่า : “เชิญนายท่านด้านใน !”

ภาพนี้ ทำให้ฝูงชนที่มารวมตัวกันอยู่ใต้ค่ายกลฉายภาพอดไม่ได้ที่จะหันมองและเริ่มพูดคุยซุบซิบกัน

“เด็กหนุ่มเสื้อคลุมยาวดำเมื่อครู่เป็นใครกัน ?”

“ดูเหมือนจะติดตราของปรมาจารย์กลั่นยาระดับ 4......”

“ปรมาจารย์ที่อายุน้อยเช่นนี้ แต่ดูไม่คุ้นตานัก เหมือนจะไม่ใช่คนในเมืองร้างเรา”

หลัวซิวทำเหมือนไม่ได้ยินเสียงพูดคุยเหล่านี้ เขาเดินตรงเข้าไปในงานประมูลที่ตกแต่งไว้อย่างหรูหราทันที

พื้นที่ภายในงานประมูลมีขนาดใหญ่ ตรงกลางเป็นห้องโถงใหญ่ที่สามารถรองรับผู้คนได้กว่าพันคน มีค่ายกลฉายภาพตั้งอยู่โดยรอบ และกำลังฉายภาพของสมบัตินานาชนิดที่จะปรากฏขึ้นในงานประมูล

ตอนที่หลัวซิวเดินเข้ามา ที่นั่งในห้องโถงใหญ่เต็มหมดแล้ว บางคนมาเพื่อประมูลสมบัติ แต่บางคนก็มาเพื่อร่วมสนุกเท่านั้น

หลัวซิวไม่ได้ใช้สำนึกของเขาในการตรวจสอบโดยทันที แต่กระแสสัมผัสพลังชีวิตทำให้เขามั่นใจได้ว่า คนกว่าพันคนที่นั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ มีผลการฝึกตนที่ต่ำที่สุดอยู่ในแดนฝึกจิตขั้น 3 และในนั้นมีหลายสิบคนที่มีออร่าของชีวิตที่สมบูรณ์ จนถึงระดับของราชายุทธ์แล้ว

ส่วนภายในห้องส่วนตัวบางห้องบนชั้น 2 หลัวซิวสัมผัสได้ถึงออร่าชีวิตที่ผันผวน ราวกับสัตว์ร้ายตัวใหญ่ที่นอนนิ่งอยู่ ซึ่งเป็นไปได้อย่างมากว่าอาจมีผู้ฝึกตนระดับจักรพรรดิยุทธ์อยู่ด้วย

การค้นพบนี้ ทำให้หลัวซิวมีท่าทีที่ระมัดระวังมากขึ้นเล็กน้อย ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ หากเปิดเผยตัวตนออกมาและทิ้งไพ่ใบสุดท้าย อาจจัดการกับราชายุทธ์ระดับธรรมดาได้ แต่หากต้องเผชิญหน้ากับจักรพรรดิยุทธ์ คงจะต้องตายอย่างแน่นอน

ผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์ ต่อให้เป็นจักรพรรดิยุทธ์ที่อ่อนแอที่สุด ก็สามารถโจมตีเขาให้ตายภายในเสี้ยววินาทีได้ และไม่ทันที่จะมีโอกาสกระตุ้นผู้พลังผู้อมตะออกมาใช้ได้เลย

หลัวซิวนั่งตรงมุมที่ไม่เป็นจุดสนใจ จากนั้นจึงหลับตาลงเพื่อตั้งสติ และรอให้การประมูลเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ

“แก๊ง !”

จากนั้นเสียงก้องกังวานของระฆังก็ดังขึ้น ฝูงชนที่ส่งเสียงดังอยู่ภายในห้องโถงใหญ่ของงานประมูลต่างก็เงียบเสียงลงทันที ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่แท่นประมูลสูงที่วางอยู่ตรงกลางห้องโถงใหญ่

มีลำแสงส่องสว่างลงมายังแท่นประมูล มีชายชราสวมใส่ชุดผ้าทอปรากฏตัวขึ้นบนแท่นประมูลพร้อมด้วยรอยยิ้ม สายตาของฝูงชนนับพันต่างจับจ้องไปที่เขา

“เหอะ ๆ อันดับแรก ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งานประมูลเมืองร้างในครั้งนี้ ข้าจะไม่ขอพูดให้มากความ การประมูลอย่างเป็นทางการเริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้ !”

หลังจากเสียงของชายชราสิ้นสุดลง บนโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าของเขา ก็ปรากฏแสงประกายแวววาว มีกระบี่เล่มยาวที่ดูราวกับแกะสลักจากคริสทัลค่อย ๆ ปรากฏขึ้นมา เปล่งประกายออร่าที่เย็นเยือก มีแสงสะท้อนแวววาวที่น่าสะพรึงกลัวฉาบอยู่บนใบมีด

กระบี่เล่มนี้ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน แต่กลับไม่มีใครแปลกใจ เพราะนี่เป็นการตั้งค่ายกลเอาไว้ เพื่อใช้ส่งของที่จะประมูลขึ้นมาโดยตรง

“กระบี่รบเย็นสะท้าน วัสดุที่นำมาใช้ในการหลอมอาวุธคือหินเย็นสะท้านอายุนับพันปี ถูกจัดอยู่ในระดับของชั้นยอด เป็นอาวุธที่ปรมาจารย์ฟ่านฉวงของเมืองร้างเรา เป็นผู้หลอมขึ้นด้วยตนเอง เหมาะสำหรับนักยุทธ์ที่ฝึกตนในวรยุทธ์ธาตุน้ำและธาตุน้ำแข็ง ราคาเริ่มต้นในการประมูลต่ำสุดอยู่ที่หกพันหินพลังจิตชั้นล่าง !”

เมื่อเห็นสมบัติที่นำออกมาประมูลชิ้นแรก หลัวซิวก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะของที่ปรากฏขึ้นตอนเริ่มต้นการประมูล ล้วนแต่เป็นของที่อยู่ในระดับต่ำสุด แต่ของในระดับที่ต่ำที่สุดกลับเป็นกระบี่ชั้นยอด แสดงให้เห็นว่าขนาดของงานประมูลในครั้งนี้ไม่ใช่เล็ก ๆ อย่างแน่นอน

สำหรับกระบี่รบเย็นสะท้านเล่มนี้ หลัวซิวไม่รู้สึกสนใจเลยแม้แต่น้อย เพราะกระบี่ฟันเสือเสวียนที่เขาสะพายอยู่ด้านหลัง เป็นกระบี่ยุทธ์ระดับชั้นล่าง ที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่าได้กับอาวุธระดับล่างชั้นกลาง

เวลาผ่านไปประมาณสิบนาที กระบี่รบเย็นสะท้านเล่มนี้ก็ถูกชายหนุ่มรูปร่างผอมบางประมูลไปด้วยราคาหนึ่งหมื่นหินพลังจิต ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

จากนั้น สมบัติที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมายก็ค่อย ๆ ทยอยปรากฏขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เกราะ อาวุธ ทักษะยุทธ์ วรยุทธ์ ยาวิเศษ และยา

นักยุทธ์จำนวนมากในห้องโถงต่างสู้ราคากันอย่างไม่มีใครยอมใคร บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ส่วนใบหน้าของชายชราผู้ควบคุมการประมูลก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และรู้สึกพึงพอใจกับผลที่ได้รับจากสมบัติเหล่านี้

หลัวซิวนั่งปิดตารออยู่ที่มุมห้องด้วยจิตใจที่สงบ

การประมูลทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ช่วงแรก สมบัติที่ปรากฏขึ้นล้วนมีราคาที่ค่อนข้างต่ำ ช่วงที่สอง สมบัติที่ปรากฏขึ้นมักอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง และในช่วงที่สาม สมบัติที่ปรากฏออกมามักจะเป็นสมบัติล้ำค่าจากกรุ แต่ละชิ้นล้วนแล้วแต่เป็นของหายาก

การประมูลในช่วงแรก กินเวลาไปประมาณครึ่งชั่วยาม และเมื่อสมบัติชิ้นแรกของการประมูลในช่วงที่สองปรากฏขึ้นบนแท่น นักยุทธ์จำนวนมากในห้องโถงใหญ่ต่างก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที และนักยุทธ์แต่ละคนก็เริ่มแสดงออกถึงความคึกคักขึ้นมา

แม้แต่หลัวซิวเอง ก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงและรู้สึกใจสั่นเล็กน้อย

บนแท่นประมูล ในมือของชายชรากำลังถือม้วนหยกโบราณที่ดูเรียบง่าย บนใบหน้าของเขาฉาบไปด้วยรอยยิ้มที่ดูลึกลับ

“วิชากลไกระดับ 8 วิชาซ่อนตัวปีกวายุอัคคี!” ชายชราผู้ดำเนินการประมูลค่อย ๆ กล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม

สำหรับนักยุทธ์ที่มีผลการฝึกตนอยู่ในระดับแดนฝึกจิตขึ้นไป ต่างไม่สนใจในวิชาท่าร่างอีกต่อไป สิ่งที่ต้องการก็คือทักษะของวิชากลไกเหาะเหินเดินฟ้า

วิชากลไกประเภทนี้ จัดอยู่ในขอบเขตของวิชายุทธ์วิชาท่าร่าง ยิ่งอยู่ในระดับชั้นที่สูง จะยิ่งมีความเร็วที่เพิ่มขึ้น ถือว่ามีบทบาทสำคัญอย่างมากในการต่อสู้ของผู้แข็งแกร่ง ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ในประเทศเทียนหวู วิชายุทธ์ชั้น 8 ถือว่าอยู่ในระดับที่สูงที่สุด ทว่าที่นี่ กลับปรากฏวิชากลไกชั้น 8 ขึ้นมาหนึ่งวิชา ซึ่งสร้างความโกลาหลให้กับฝูงชนที่อยู่ภายในห้องโถงงานประมูลได้ไม่น้อย คนจำนวนมากต่างรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

เพราะถ้าหากสามารถฝึกวิชากลไกชั้นสูงได้สำเร็จหนึ่งวิชา ก็จะสามารถก้าวไปข้างหน้าและถอยหลังได้อย่างอิสระในระหว่างการต่อสู้ ไม่ว่าจะฆ่าหรือหลบหนี ก็ถือว่ามีประโยชน์อย่างมากโดยไม่ต้องอธิบายเลย

อีกทั้ง แม้แต่ในกองกำลังใหญ่จำนวนไม่น้อย วิชากลไกชั้น 8 หนึ่งวิชาก็ถือว่าเป็นสมบัติล้ำค่า กองกำลังจำนวนมากหากมีวิชายุทธ์ชั้น 8 หนึ่งวิชาเอาไว้ในครอบครองก็ถือว่าไม่เลวแล้ว กองกำลังที่สามารถรวบรวมวรยุทธ์ชั้น 8 ทักษะยุทธ์ชั้น 8 และทักษะวิชาท่าร่างวิชากลไกชั้น 8 เอาไว้ด้วยกัน นอกจากสิบตระกูลใหญ่ที่มีตระกูลฝานเป็นผู้นำแล้ว ดูเหมือนว่าทั่วทั้งประเทศเทียนหวูจะไม่สามารถหาลำดับที่ 11 ได้

คัมภีร์วิชายุทธ์เช่นนี้ แต่ไหนแต่ไรมามักจะเป็นสมบัติที่มีราคาแพงที่สุดในบรรดาสมบัติระดับเดียวกัน

วิชากลไกชั้น 8 หนึ่งวิชา ก็เพียงพอที่จะทำให้กองกำลังใหญ่หนึ่งกองกำลัง สามารถสืบต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้แล้ว

“ราคาประมูลต่ำสุดอยู่ที่ หนึ่งล้านหินพลังจิต !”

ขณะที่ชายชราผู้ดำเนินการประมูลประกาศราคาออกมาด้วยรอยยิ้ม นักยุทธ์จำนวนมากที่อยู่ในท่าทีกระตือรือร้น จู่ ๆ ก็นิ่งเงียบลงไปกว่าครึ่งทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ