ในช่วงที่หลัวซิวกลับมายังอาณากระบี่หวูจี๋ สถานการณ์ภายนอกแดนบรรพกาลก็ค่อยๆ คงที่
แม้ว่าประมุขเต๋าหวูยวนจะถูกขับไล่ แต่ทั้งสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงและเผ่ามังกรไท่ชูก็ไม่สามารถเฝ้าดูของดีๆชิ้นใหญ่ในแดนบรรพกาลตกอยู่ในมือของโลกมหาศักดิ์แปดด้าน
ดังนั้น สำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนหวงจึงส่งประมุขเต๋าเทียนซวงมาพร้อมกับประมุขเต๋าหวูยวน ซึ่งครอบครองพื้นที่หนึ่งนอกแดนบรรพกาล
ประมุขเต๋าฮวงโหวรู้ว่าเขาคนเดียวไม่สามารถทำอะไรได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คิดจะเกิดความขัดแย้งกับอีกฝ่าย และ ประมุขเต๋าเทียนซวงและประมุขเต๋าหวูยวนก็รู้เช่นกันว่าฝ่ายโลกมหาศักดิ์แปดด้านจะต้องส่งกำลังเสริมมา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่คิดที่จะยั่วยุเมืองต้าฮวงโบราณ
ไจ๋เฉิงได้เปิดพื้นที่และสร้างวังซิวหลัวตามคำขอของหลัวซิวแล้ว ต่อไปมันจะเป็นที่พำนักของเขาและยังเป็นค่ายฐานใหญ่ของกองทัพเทพมารของเขาด้วย
หลังจากนั้นภายใต้การจัดการของหลัวซิว ผู้บัญชาการทั้งห้าและแม่ทัพทั้งสิบคนที่มีระดับผลการฝึกตนแดนผู้สูงส่งได้นำทีมออกค้นหาสมบัติในพื้นที่รอบนอกของแดนบรรพกาล ทุกครั้งที่ค้นพบสมบัติ คนรอบกายหลัวซิวจะเพิ่มผลการฝึกตนไม่มากก็น้อย ทุกอย่างก็ดำเนินต่อไปตามแผนที่เขาวาง
หลังจากผลการฝึกตนบรรลุไปสู่มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าขั้นปฐมภูมิ พลังแห่งการสืบทอดที่นักเซียนหลอมจิตทิ้งไว้ให้นั้นยังใช้ไม่หมดสิ้น
ในพริบตา เวลาก็ผ่านไปกว่าสิบปีในแดนบรรพกาล กองกำลังของทุกฝ่ายก็อยู่ในความสงบเสมอมา มีความขัดแย้งเป็นครั้งคราว แต่จะไม่เกี่ยวข้องมากเกินไป
เป็นเวลากว่าสิบปีแล้วที่ผลการฝึกตนของหลัวซิวไม่ได้เพิ่มขึ้นเร็วเหมือนเมื่อก่อน แต่ได้เข้าสู่กระบวนการของความมั่นคง ผลการฝึกตนตั้งแต่มหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าขั้นปฐมภูมิมาถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์วัฏจักรเก้าช่วงกลางเท่านั้น
สำหรับเขาในวันนี้ หลังจากมาถึงระดับแดนผลการฝึกตนในปัจจุบัน ความก้าวหน้าของเขาเริ่มช้าลง เขาได้อุทิศกำลังบางส่วนให้กับการวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับวิถีกลั่นยา วิถียุทธ์ภัณฑ์และวิถีค่ายกล
สำหรับโอกาศของแดนบรรพกาลนั้น ยาเซียนและวัสดุมากมายเป็นสิ่งที่มากนัก ระดับการกลั่นยาของหลัวซิวพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว และตอนนี้เขาสามารถกลั่นยาเซียนวัฏจักรสิบระดับเจ้ายุทธจักรได้แล้ว
“พรึบ!”
ในวันนี้ หลัวซิวกำลังฝึกฝนอย่างเงียบๆในวังซิวหลัว ทันใดนั้นลำแสงหนึ่งก็บินเข้ามาในวัง กลายเป็นยันต์หยกและลอยอยู่ตรงหน้าเขา
หลัวซิวยกมือขึ้นและคว้ายันต์หยกมา และข้อมูลหนึ่งถูกส่งเข้าไปยังตัวหยั่งรู้เขาผ่านยันต์หยก
“ซากปรักหักพังเซียน?”
ข้อความในยันต์หยกมาจากศิษย์พี่ใหญ่ ฉินจ้าน และเนื้อหาของข้อความนั้นเกี่ยวข้องกับซากปรักหักพังชาวเซียน
มีซากปรักหักพังเซียนน้อยมากที่รอบนอกของแดนบรรพกาล มีผู้แข็งแกร่งมากมายนับไม่ถ้วนที่เข้าไปสำรวจแดนบรรพกาล อันที่จริงในพื้นที่รอบนอกอันกว้างใหญ่นี้ โอกาศและโชคที่แท้จริงมีไม่มากแล้ว
แต่ถ้าซากปรักหักพังเซียนปรากฏขึ้น มันจะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากได้รับการสืบทอดของนักเซียนหลอมจิต หลัวซิวรู้ว่าซากปรักหักพังที่ทิ้งไว้โดยผู้แข็งแกร่งชาวเซียนเหล่านั้นมีโอกาสความโชคดีอย่างน่าอัศจรรย์!
แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะได้สิ่งที่ชาวเซียนทิ้งไว้ ตามคำกล่าวไว้จะไม่สั่งสอนวิถียุทธ์ออกไปอย่างง่ายดาย และชาวเซียนทิ้งการสืบทอดกับสมบัติของตนไว้ ก็มีเงื่อนไขและข้อจำกัดที่ยากลำบากมากมายหลายประการ
“บูม!”
รัศมีอันกว้างใหญ่แผ่ลงมาบนแดนบรรพกาล แม้แต่หลัวซิวก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความประหลาดใจออกมา เพราะรัศมีที่ปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหันนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นมกุฎเต๋าหวูจี๋ ซึ่งก็คืออาจารย์ของเขากับฉินจ้าน
ชายชราในชุดคลุมสีขาวปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ หลัวซิว ฉินจานและประมุขเต๋าฮวงโหวก็ไปต้อนรับทันที
“อาจารย์!”
“มกุฎเต๋า!”
พวกเขาทั้งสามทำความเคารพด้วยความเคารพ ผู้คนจำนวนมากขึ้นมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความอยากรู้ ไม่รู้ว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่มาจากไหน เพราะแม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเต๋าก็ปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพเช่นนี้
ผู้ที่สามารถอยู่ในดินแดนลับโบราณเพื่อแสวงโอกาสและโชคได้อย่างผลการฝึกตนคือจักรพรรดิเทพวัฏจักรเจ็ดขึ้นไปและพวกเขาต่างก็รู้ความลับโบราณไม่มากก็น้อย พวกเขาคาดเดาว่าชายชราผู้นี้ที่จู่ๆก็ปรากกตัวออกมา อาจเป็นมกุฎเต๋าใ นตำนาน!
มกุฎเต๋าและประมุขเต๋า เป็นเหมือนผู้แข็งแกร่งที่สุดและแดนผู้สูงส่ง มกุฎเต๋าเท่ากับว่าเป็นแดนสูงสุดของประมุขเต๋า เป็นประมุขเต๋าที่สูงสุด ประมุขเต๋าแดนแดนผู้สูงส่ง!
โดยทั่วไปแล้ว ตราบใดที่สามารถก้าวเข้าสู่มกุฎเต๋า แค่มีโอกาสเพียงพอ มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะกลายเซียน
ด้วยเหตุนี้ แม้แต่มกุฎเต๋าหวูจี๋ก็ไม่สามารถอยู่เฉยๆได้เมื่อได้ยินว่าซากปรักหักพังเซียนปรากฎขึ้นมาและมาที่นี่ด้วยตนเอง
“หวูจี๋ เจ้ามาเช้านัก”
ทันใดนั้น เสียงหัวเราะราบเรียบก็ดังขึ้นมา จากนั้นกระแสวังวนก็ปรากฏขึ้นในอากาศ ชายชราร่างผอมบางก็ก้าวออกมา
“โครม!”
ทันทีที่ชายชรารูปร่างผอมบางปรากฏขึ้น ก็มีปราณกดดันแข็งแกร่งลึกลับกระจายออกมาเช่นกัน กดดันจนอนัตตาสั่นสะเทือนและเกิดคลื่นกระเพื่อม
คือมกุฎเต๋าอีกคน!
“คารวะบรรพจารย์ฮวง!”
เมื่อประมุขเต๋าฮวงโหวเห็นชายชราร่างผอมคนนี้ ดวงตาของเขาแสดงความเคารพมากกว่าตอนที่เขาเห็นมกุฎเต๋าหวูจี๋ในทันที เขาก็คุกเข่าลงในอากาศโดยตรง
“บรรพจารย์ฮวง?”
“โอ้พระเจ้า หรือว่าเป็นผู้แข็งแกร่งบรรพอาจารย์ท่านนั้นของชนเผ่าฮวงที่สร้างห้วงดาราโลกร้างหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...