มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 307

เสด็จอาของตระกูลฝานผู้นี้น้อยครั้งมากที่จะลงมือกลั่นยา แถมยังคิดค่าตอบแทนสูงมากอีกด้วย จะต้องนำวัตถุดิบไปแลกถึงหกชิ้นกว่าจะได้ยาสักเม็ดหนึ่ง เมื่อเทียบกับยาทั่วไปแล้วที่ใช้วัตถุดิบไปแลกเพียงสามอย่างถือว่าราคาสูงกว่าอยู่หนึ่งเท่าตัว

ยาวิเศษที่จะนำไปใช้ในการกลั่นยาระดับ 6 อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีมูลค่าถึงหินพลังจิตหนึ่งแสนก้อน เมื่อคำนวณออกมาแล้วการที่เขาได้ยาระดับ 6 มาถึงสิบเม็ดนั้นเป็นการประหยัดวัตถุดิบไปถึง 50 ชิ้น สมบัติมูลค่ามากมายเช่นนั้น แม้ว่าตระกูลสวียอมล้มละลายก็ไม่อาจหามาให้ได้

โดยเฉพาะประโยคที่หลัวซิวกล่าวเสริมในตอนท้าย นั่นยิ่งเป็นคำพูดที่มีความหมายสำคัญ เขาสามารถกลั่นยาระดับ 7 ได้? นั่นเท่ากับว่าปรมาจารย์ลึกลับที่อยู่เบื้องหลังหลัวซิวผู้นั้น อย่างน้อยๆ เขาจะต้องเป็นถึงปรมาจารย์นักกลั่นยาระดับ 7?

ในด้านการกลั่นยา ค่ายกลและการหลอมอาวุธนั้น ระดับ 4 ถึงระดับ 6 ถือเป็นอาจารย์ ส่วนระดับ 7 ถึงระดับ 9 ถือเป็นปรมาจารย์ ระหว่างระดับ 6 ถึงระดับ 7 ถือว่ามีเกณฑ์ที่ห่างกันค่อนข้างมาก เพราะถือเป็นการก้าวข้ามจากระดับอาจารย์ไปเป็นปรมาจารย์

การดำรงอยู่ของปรมาจารย์นักกลั่นยาระดับ 7 นั้น แม้แต่ผู้ที่เป็นมกุฎยุทธ์ก็ยังไม่กล้าที่จะมีเรื่องด้วย

“ผู้น้อยซิวหลัว ข้ามีเรื่องหนึ่งไม่ทราบว่าควรถามหรือไม่”

สวีจิงเหนียนสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะเอ่ยปากกล่าวช้าๆ

“ผู้อาวุโสเชิญว่ามาได้เลย”

“หากข้าคาดการไม่ผิด ปรมาจารย์ของผู้น้อยจะต้องเป็นผู้แข็งแกร่งที่มีความสามารถมาก กะอีแค่กำจัดตระกูลเผยไม่น่าจะเป็นเรื่องลำบากอะไร ทำไมผู้น้อยจะต้องขอให้ข้าออกแรงช่วยด้วย” สวีจิงเหนียนเอ่ยถาม

เมื่อหลัวซิวได้ยินเช่นนี้ เขาก็ยิ้มออกมาพร้อมกล่าวเรียบๆ ว่า “ท่านปรมาจารย์หลบหนีทางโลกมานานแล้ว คงจะไม่ยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องทางโลกง่ายๆ หากข้าไปขอความช่วยเหลือจากท่าน ท่านจะต้องยอมช่วยแน่ ทว่าในฐานะลูกศิษย์ไม่ควรที่จะเอาเรื่องไปรบกวนให้อาจารย์ต้องออกหน้ามาช่วยบ่อยๆ”

หลัวซิวไม่อยากอธิบายเรื่องที่เกี่ยวข้องในประเด็นนี้มากนัก จึงเป็นนัยความหมายลึกๆ ว่า “คุณคงเข้าใจ”

“แน่นอนว่าธุระเรื่องนี้ หากผู้อาวุโสไม่สะดวกช่วย ผู้น้อยก็จะไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ผมเชื่อว่าการตอบแทนด้วยยาระดับ 6 สิบเม็ด คงจะมีผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์หลายคนให้ความสนใจ” หลัวซิวกล่าวพร้อมรอยยิ้ม เขาใช้นิ้วมือเคาะลงบนโต๊ะเบาๆ อย่างมีจังหวะ

ใบหน้าของสวีจิงเหนียนเริ่มกระตุก เขาอยู่มานานขนาดนี้แล้วมีหรือที่จะไม่เข้าใจความหมายในคำพูดของหลัวซิว

อย่าว่าแต่ยาระดับ 6 สิบเม็ดเลย ต่อให้ลดลงเหลือเพียงครึ่งเดียว นั่นคือยาระดับ 6 ห้าเม็ด ก็คงยังจะมีผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์หลายคนพยายามแย่งกันเข้ามาเพื่อที่จะรับงานนี้

“ผู้น้อยพูดอะไรอย่างนี้ เราสองคนมีน้ำใจต่อกัน ธุระเรื่องนี้ข้าต้องช่วยแน่นอน” สวีจิงเหนียนรีบตกปากรับคำทันที

ส่วนความยากลำบากจากกลุ่มอำนาจอื่นๆ ที่อาจจะเกิดจากการลงมือกำจัดตระกูลเผยนั้น อาจารย์ตระกูลสวีคนนี้เลือกที่จะไม่ใส่ใจอีกแล้ว เพราะว่ายาระดับ 6 สิบเม็ดนั้นคุ้มค่าที่จะเสี่ยง

เมื่อได้ยินอาจารย์ตระกูลสวียอมตกปากรับคำแล้ว หลัวซิวก็ถอนใจโล่งอก สุดท้ายก็ล่อหลอกตาแก่คนนี้ได้สำเร็จ

“ผู้น้อยคิดว่าจะลงมือเมื่อไหร่” สวีจิงเหนียนกล่าวถาม

“ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี” หลัวซิวกล่าวหนักแน่น ชีวิตของเหยียนเยว่เอ๋อร์เป็นสิ่งที่น่ากังวล เขาไม่อาจรอได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว

อีกไม่นานนัก หลัวซิวกับสวีจิงเหนียนก็เดินออกจากโรงเตี๊ยมเล็กๆ แห่งนี้ไปแล้วมุ่งหน้าไปยังทิศทางของตำหนักตระกูลเผย

บนท้องถนนมีคนสัญจรไปมา โดยเฉพาะถนนที่มุ่งหน้าไปสู่ตระกูลเผยที่แสงไฟสว่างไสว และมีองครักษ์เดินถืออาวุธตรวจตราไปรอบๆ

สวีจิงเหนียนย่นคิ้ว “ผู้น้อย ข้าเห็นว่าหากเราจะกำจัดตระกูลเผย ทางที่ดีที่สุดต้องรอเวลาอีกสักสองสามวัน”

“ทำไมหรือ” หลัวซิวเลิกคิ้ว

“ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันมีข่าวว่า ผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นของตระกูลเผยอย่างเผยชิ่งเฟย มีอายุครบ 33 ปีพอดี และฝึกตนถึงขั้นแดนฝึกจิตขั้น 9 ดังนั้นผู้อาวุโสของสำนักเสวียนหยางจึงให้ความสำคัญมาก จนต้องการที่จะรับเขาเข้าเป็นลูกศิษย์”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ